หลังจากเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่องการรัฐประหาร ทำให้ต่อมาถูกฝ่ายม็อบหรือที่เรียกว่า สามกีบ เยาวชนปลดแอก รุมรีพอร์ตเฟซบุ๊ก
โดยใจความของโพสต์ดังกล่าว คือมีเนื้อหาระบุว่า “รัฐประหารมีความจำเป็นในการเมืองไทย ในฐานะของเครื่องตัดไฟ รัฐประหารไม่ได้ทำให้ประเทศไทยก้าวหน้านัก แต่ทำให้ไม่บรรลัยหรือตายหมู่เกิดสงครามกลางเมือง เมื่อใดก็ตามมีประชาธิปไตยเต็มใบเมื่อใด ประเทศไทยก้าวหน้าไปน้อยมาก ตีกันอย่างหนัก ประชาธิปไตยครึ่งใบแบบสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เหมาะกับประเทศไทยมาก แต่ต้องได้คนเก่งและคนดีแบบป๋าเปรมครับ
ถ้าสถานการณ์มันกัดกร่อนมาก รัฐประหารมีความจำเป็น ป้องกันสงครามกลางเมือง ขจัดภัยของชาติและราชบัลลังก์ ผมคิดว่าอีกไม่นานความจำเป็นที่จะทำรัฐประหารมีแน่นอน”
ทั้งนี้จากข้อความดังกล่าว ทำให้กลุ่มของม็อบ 3 นิ้ว เข้าไปคอมเม้นต์โจมตีดร.อานนท์ เป็นจำนวนมาก และยังมีการอ้างว่า ดร.อานนท์ ไม่ได้มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จริง แค่อาศัยสถาบันสร้างพลังให้แก่ตัวเอง สิ่งที่ทำกลับทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เสื่อมถอยด้วยซ้ำ และคนกลุ่มนี้ยังเชื่อว่า ดร.อานนท์ รู้เรื่องราววงในว่าจะมีการรัฐประหาร ถึงได้เอามาโพสต์ ซึ่งเรื่องนี้สืบเนื่องมาจากข่าวที่ ครม.โอนอำนาจให้ ‘บิ๊กตู่’ แบบชั่วคราวเฉพาะใน 31 พ.ร.บ. คุมโควิดอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ทางดร.อานนท์ ได้ชี้แจงดังนี้ว่า “ผมโพสต์เรื่องจะเกิดรัฐประหาร โดยพิจารณาจากเหตุการณ์และเหตุปัจจัยหลายอย่าง แต่เรื่องหนึ่งที่ไม่รู้เลยคือเรื่อง นายกรัฐมนตรีประกาศตาม พรก. ฉุกเฉิน รวบอำนาจ 30 กว่าพรบ. และรวบอำนาจจากรัฐมนตรี คล้าย ๆ กับที่หลายคนชอบพูดว่ารัฐประหารโควิด อันนี้ผมมารู้ทีหลัง และเดาว่าเดี๋ยวก็จะมีสื่อเสี้ยมเอาไปโยง เลยเขียนดักไว้ก่อนนะครับ ผมไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย”
นอกจากนี้ดร.อานนท์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ข้อความถูกลบหายไป กับทางทีมข่าวเดอะทรูธ โดยชี้แจง พร้อมทั้งอธิบายเพิ่มเติมบางส่วนว่า การพูดถึงรัฐประหารนั้น เป็นคำพยากรณ์ 7 ขั้น ที่ตนเองได้เคยเขียนไว้ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ว่าหากเกิดรัฐประหารอีกครั้ง จะก่อให้เกิดการกวาดล้าง ขบวนการล้มเจ้า พวกที่ใส่ร้ายสถาบัน ซึ่งเหตุการณ์ สิ่งที่พวกต่อต้านรัฐบาล ที่พยายามโจมตีใส่ร้ายสถาบัน ทำเป็นขบวนการนั่นเอง ที่ตนพยากรณ์ไว้ว่า คงหนีไม่พ้นจะเกิดรัฐประหาร
“ดังนั้นเองจึงโดนพวกเยาวชนปลดแอก ได้ชวนเชิญพวกตัวเองที่เรียกกันในนาม ว่าพวกประชาธิปไตย อ้างสิทธิเสรีภาพ ทำการรุมรีพอร์ต ยิงรีพอร์ต เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ที่ติดคำว่า รัฐประหารของตนออกหมด จนโดนเฟซบุ๊กลบออกไปจากหน้า ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนลบออกไปแต่อย่างใด นี่คือพฤติกรรมของพวกไร้ปัญญา ประชาธิปไตย”
อย่างไรก็ตามคำพยากรณ์ทั้ง 7 ข้อ ของดร.อานนท์ ที่ได้เขียนไว้กับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ มีดังนี้
1. เกิดการด่าทอฝั่งล้มเจ้าบนโลกออนไลน์ในพื้นที่ของตนด้วยความอดทนไม่ไหวอย่างรุนแรง
2. เกิดทัวร์ลงฝั่งล้มเจ้าบนโลกออนไลน์ด้วยความโกรธแค้นที่ถูกลบหลู่ศรัทธา
3. ด่าทอแกนนำมวลชน บนโลกออฟไลน์ในที่สาธารณะเพราะถูกลบหลู่ศรัทธา
4. มวลชนทั้งสองฝั่งต่างไม่พอใจรัฐบาล เกิดความรุนแรง การปะทะ หรือการลอบฆ่า ท้ายที่สุดก็นองเลือด
5. เมื่อเกิดการนองเลือด จะเกิดภาวะรัฐล้มเหลว (Failed state) และการปกครองแบบอนาธิปไตย (Anarchy)
6. รัฐประหาร เพราะอำนาจรัฐนั้นก็อยู่ที่ปลายกระบอกปืน
7. เกิดการกวาดล้างดำเนินคดี Reset และ Reform ประเทศไทย (?)
พร้อมทิ้งท้าย ไว้อีกด้วยว่า การ Reset ก็อาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ แต่การกวาดล้างดำเนินคดีในเที่ยวนี้ น่าจะเป็นไปในลักษณะเดียวกันกับที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่นักศึกษาจะไม่มีป่าให้เข้า และแกนนำจะต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ พร้อมคดียาวเป็นหางว่าว ไม่ได้กลับมาแผ่นดินไทยได้ง่าย ๆ
ส่วนการปฏิรูปหรือ Reform ประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศไทยที่รากฐานให้สำเร็จได้นั้นนับว่าเป็นเรื่องของอนาคตที่อาจจะหวังได้น้อย แต่ก็ต้องพยายาม
ผมได้แต่ภาวนาว่าตัวเองจะพยากรณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตข้างหน้าของบ้านเมืองของเราไม่แม่นยำ ไม่อยากให้สถานการณ์ไหลมาทางนี้ดังที่พยากรณ์
ขอวิงวอนให้ทุกท่านมีสติและปัญญาอันเฉียบแหลมในการประคองสถานการณ์บ้านเมืองให้พ้นจากการนองเลือดให้สำเร็จให้จงได้
ขอฝากประเทศไทย บ้านเกิดเมืองนอนที่รักยิ่ง ไว้ในมือของทุกคน
