จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 63 น.ส.จตุพร แซ่อึง หรือนิวส์ จากกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก ที่ถูกหมายเรียกในคดี ม.112 หลังจากที่ได้แต่งชุดไทยเดินแบบ ที่วัดแขกสีลมและมีการปูพรมแดง เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้มารับทราบข้อกล่าวหา หลังถูกน.ส.วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ แอดมินเพจเชียร์ลุง มาแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งก่อนเข้าไปสน. น.ส.จตุพรยังได้โชว์รอยสักหมายเลข 9 ที่ไหล่ซ้ายด้วยนั้น
ล่าสุดเมื่อตรวจสอบในเฟซบุ๊กของ น.ส.จตุพร หรือนิวส์ พบว่าได้โพสต์ข้อความจาบจ้วงสถาบันอย่างต่อเนื่อง ระหว่างที่ยื่นต่อสู้คดี 112 เพราะก่อนหน้านั้นได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยมีข้อความระบุว่า “งบสถาบันกษัตริย์ 1 ปี ซื้อวัคซีนได้กี่โดส ”
นี่สินะ ที่เขาเรียกว่าปรสิต เกาะกินทุกอย่าง โดยไม่สนใจว่าประชาชนคนไหนจะลำบาก
สถาบันเดียวที่เราเชิดชู คือ สถาบันความงาม
และเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2564 ได้ไปทำกิจกรรม ยืนหยุดขัง ที่หน้าเรือนจำกาฬสินธุ์ เพื่อกดดันให้มีการปล่อยตัว “โตโต้”
นอกจากนี้ยังพบว่าน.ส.จตุพร มีการโพสต์เลขบัญชีเพื่อขอรับเงินบริจาค และต่อมาได้พบภาพ ว่ามีการเดินทางมายังกทม. พร้อมโพสต์ข้อความว่า “เจอกันอีกทีวันที่ 6 / 5 พ.ค. ส่งตัวอัยการขอนแก่น” ซึ่งจะมีการเข้าฟังคำสั่ง ว่าอัยการจะสั่งฟ้องในคดี 112 หรือไม่ ที่ผ่านมาเจ้าตัวยืนยันว่าจะสู้คดี แต่ก็ยังคงโพสต์ข้อความจาบจ้วงสถาบันอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรตามก็ตามในทวิตเตอร์ของเจ๊จุก คลองสาม ได้โพสต์ข้อความถึง นิวส์ ทีมงานบุรีรัมย์ปลดแอกด้วยว่า “หาแสงแล้วได้อะไรล่ะ ได้เป็นที่รู้จัก ชื่อเสียง สุดท้ายก็ไม่พ้นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เจ๊พูดมาตลอด ม็อบมันกลายเป็นอีกช่องทางหาแดกของพวก 3 กีบ ยิ่งแรงก็ยิ่งดัง ไม่เชื่อก็ดูตัวอย่างนี่สิ อาทิตย์ที่แล้วบ่นตกงานเงินไม่เหลือ แต่พอลงเลขบัญชีก็มีตังค์ขึ้นเครื่องบินไปไหนมาไหนได้สบาย แล้ว จะแจงมั้ย?” ซึ่งพบว่าทางฝั่งของม็อบ หลายคนที่โดนคดี จะมีลักษณะเช่นนี้เกือบทั้งหมด คืออ้างว่าไม่มีงานทำ และขอรับเงินบริจาค ก่อนจะเอาไปใช้เงินหรู อยู่สบาย และได้มีคอมเม้นต์เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า แบบนี้เรียกว่าขอทานออนไลน์ได้หรือไม่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ คนอยากจะหาแสงในม็อบในตัวเอง เพื่อจะได้มีรายได้ก้อนโต