จากกรณีที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ว่า รัฐบาลกำลังเผชิญปัญหาทุกด้าน เศรษฐกิจ การเมือง โควิด-19 เป็น 3 วิกฤติร้อน มีต้นตอมาจากพฤติกรรม 2 มาตรฐานของรัฐบาล
เช่น บางพรรค มีส.ว. 250 คนคอยสนับสนุน แต่พรรคอื่นไม่มี การรับมือโควิด-19 ก็สองมาตรฐาน ประชาชนทั่วไปโดนขู่สารพัด ต้องโหลดแอปพลิเคชันมากมาย แต่พอเกิดกรณีสมาชิกในรัฐบาลเองติดโควิด กลับไม่มีการจี้หรือมีการเปิดไทม์ไลน์ที่ถูกติดตามจากแอปฯเลย จนเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า รัฐมนตรีที่อยู่ในพรรคที่มีหัวหน้าพรรคเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข โหลดหรือใช้แอปฯที่รัฐบาลพยายามจี้ประชาชนหรือไม่ เรื่องสองมาตรฐานในทุกมิติ ตรงนี้ตนคิดว่า เป็นสิ่งที่ประชาชนไม่อยากจะให้อภัย เพราะกติกาใช้กับประชาชน กับกติกาใช้กับผู้มีอำนาจต่างกันสิ้นเชิง
“ท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ หนึ่งวันก่อนที่จะรู้ว่า สมาชิกของครม.ไปติดโควิด นั้นแข็งกร้าวกราดด่าประชาชนว่าไร้จิตสำนึก พอค้นพบว่าคนที่ติดโควิดเป็นสมาชิกในรัฐบาลเองกลับมีท่าทีที่อ่อนน้อมลงมาทันที
การใช้มาตรฐานเดียวกัน เป็นปัญหาสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ ทั้งมิติของการเมืองและการรับมือโควิด การบังคับใช้กฎหมายและท่าทีของผู้นำประเทศที่เต็มไปด้วยสองมาตรฐาน ท่าทีนายกฯและท่าทีของรัฐมนตรีสาธารณสุข จำได้ว่าระลอกแรกเคยไปตะเพิดใส่คุณหมอ แต่พอเป็นรัฐมนตรีที่อยู่ในพรรคตนเอง กลับเงียบกริบ ไม่ยอมออกมาพูดถึงการแสดงความรับผิดชอบใด ๆ เลย”
นอกจากนี้ นายพริษฐ์ ยังกล่าวถึงการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา “ล่าล้านชื่อรื้อระบอบประยุทธ์” ทั่วประเทศ ว่า หลังจากเปิดตัวไป วันที่ 6 เม.ย. เราเคยมีแผนไปตั้งโต๊ะจัดกิจกรรมตามจังหวัดตลอดช่วงสงกรานต์ แต่ต้องยกเลิกทั้งหมดไปก่อน เราจะพักเรื่องการเดินสายกิจกรรมลงพื้นที่ชั่วคราว แต่เราจะเดินต่อในเรื่องการรณรงค์ให้คนส่งไปรษณีย์เข้ามาเเทน ขณะนี้ยังทยอยส่งชื่อเข้ามาเรื่อย ๆ ขอเชิญชวนทุกคน ไม่ว่าใครจะอยู่พรรคใด ชอบหรือไม่ชอบพรรคไหน ข้อเสนอเราเป็นข้อเสนอที่ใครอยากได้รัฐธรรมนูญที่เป็นธรรม เป็นกลาง สามารถมาลงชื่อกับเรา เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม ในกิจกรรมวันที่ 6เม.ย. ที่ผ่านมา ได้ใช้ห้องบรรยาย LT1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่ม Resolution ภายใต้ความร่วมมือระหว่างองค์กรต่าง ๆ ทั้งคณะก้าวหน้า, พรรคก้าวไกล, กลุ่ม iLaw, และกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า (Conlab) ร่วมจัดงานเสวนาและกิจกรรม ‘ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์’ เปิดฉากการรณรงค์ล่ารายชื่อประชาชน เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
เปลี่ยนแปลงที่มาขององค์กรอิสระ และยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ พบว่ามีการลงชื่อไม่มาก คนมาร่วมงานหลักร้อยคน เลยอาจจะทำให้ทางกลุ่มที่รวมตัวจัดกิจกรรมไม่พอใจ เนื่องจากเกิดสถานการณ์โควิดเข้ามา ทำให้การลงชื่อต้องล่ม และสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการต่อว่ารัฐบาล ว่าเป็นต้นเหตุการทำให้โควิดระบาด และที่นายพริษฐ์ ร่ายยาวมาทั้งหมด ก็ไม่แน่ใจว่า ตกลงเป็นห่วงประชาชน หรือกลัวว่าจะไม่ได้ล่ารายชื่อไล่บิ๊กตู่กันแน่