จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ และเลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้แชร์ข้อความและภาพระบุว่า “On Tour อีสาน : เปิดเวทีสาธารณะอนาคตรัฐธรรมนูญใหม่”
หลังรัฐสภาตีตกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 วาระสาม เนื่องจากคะแนนเสียงเห็นชอบน้อยกว่ากึ่งหนึ่งและไม่ได้เสียง ส.ว. ถึง 1 ใน 3 ส.ส. แกนนำพรรครัฐบาลอย่างพลังประชารัฐ และ ส.ว. ยังถ่วงเวลาไม่แสดงความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แถมยังอภิปรายอย่างไม่เห็นหัวพี่น้องประชาชน สุดท้ายก็พากันลงมติไม่เห็นชอบ งดออกเสียง และไม่ประสงค์ลงคะแนน นอกจากนี้ ส.ส. พรรคภูมิใจไทยยังพากันเดินออกจากห้องประชุม
ทั้งหมดนี้ทำลายความหวังของพี่น้องประชาชนที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจหลังรัฐประหาร 57 เพื่อเปิดทางไปสู่ทางออกของวิกฤตการเมืองไทย
จากนี้พวกเราจะเดินหน้าสู่รัฐธรรมนูญใหม่อย่างไรต่อ? รณรงค์แก้ไขรายมาตรากำจัด 3 อุปสรรค : ศาลรัฐธรรมนูญ ส.ว. ยุทธศาสตร์ชาติ และจะใช้การประชามติเป็นเครื่องมือของประชาชนไปสู่รัฐธรรมนูญใหม่ทุกหมวด-ทุกมาตราได้อย่างไร? ใครทนไม่ไหวกับเหตุการณ์โหวตวาระสามในสภา มาแลกเปลี่ยนกัน!
โดยการบรรยายที่จะเกิดขึ้นนี้ มีนายปิยบุตรเป็นผู้บรรยาย มีการพูดชักชวนลักษณะโจมตีการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าว สร้างความไม่พอใจให้กับชาวขอนแก่นและชาวมหาสารความเป็นอย่างมาก เนื่องจากนายปิยบุตรนั้นมีพฤติกรรมการสนับสนุนปลุกระดมเยาวชนนักศึกษาให้มีพฤติกรรมจาบจ้วงล่วงเกินพระมหากษัตริย์
ต่อมา เมื่อวานนี้ 20 มีนาคม 2564 ได้มีการเผยแพร่คลิปขณะที่นายปิยบุตร กำลังโต้เถียงกับชาวขอนแก่น โดย เกิดเหตุชุลมุนกว่า 15 นาที มีการโต้เถียงระหว่างตัวแทนกลุ่มคนรักขอนแก่นปกป้องสถาบัน กับผู้จัดบรรยายสาธารณะหัวข้อ “แก้รัฐธรรมนูญไทยสู่ประชาธิปไตยหรือเสริมแกร่งเผด็จการ” ที่คณะนิติศาสตร์ ม.ขอนแก่น
หลังจากการโต้เถียงกัน ได้มีประชาชนคนหนึ่งได้กล่าวท้านายปิยบุตรว่า ให้นายปิยบุตรดีเบตกับ ดร.อานนท์ ที่เวทีขอนแก่น โดยนายปิยบุตรได้ตอบว่า ดร.อานนท์นั้นหนีตน
อย่างไรก็ตาม ด้าน ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
“ทีมงานคุณจอมขวัญถามผมว่าไม่รังเกียจใช่ไหมที่จะดีเบตกับเด็กๆ ปลดแอก เราหาคนมาดีเบตกับอาจารย์อานนท์ไม่ได้เลย โทรมาตั้งแต่แปดโมงเช้า จนเที่ยงก็หาผู้ใหญ่ใจไม่เท่าอวัยวะเพศมดไม่ได้เลยสักคนเดียว จนบ่ายโมงก็โทรมา บอกว่าต้องดีเบตกับเด็กแล้ว
ปกติ ผมดีเบต จนพวก NGO เข็ดขยาดกันหมด ไม่มี NGO ที่ไหน อยากจะมีดีเบตกับผม รายการจอมขวัญเองพยายามเชิญผมไปชนกับ NGO ก็ไม่มี NGO ไหนจะยอม แต่ท้ายสุดคุณขวัญก็จัดให้ NGO มาพูดข้างเดียว ดังนั้นเรื่องไม่มีคนอยากดีเบตกับผม ผมชินมาก โดนเทเป็นประจำครับ
ผมบอกว่า ผมไม่รังเกียจอะไรเลย เพราะเด็กปลดแอกก็รุ่นลูกศิษย์ นึกว่าไปสอนลูกศิษย์ก็แล้วกัน
บ่ายสี่โมงก็ยังหาคนมาดีเบตไม่ได้ ผมก็เอ เอาไง จนเกือบห้าโมงเย็น ถึงได้รู้ว่าเป็นรุ้งครับ
ผมไม่ได้เกลียดเด็กๆ เหล่านี้เลย ผมว่าเขาถูกหลอกมา และยังมีความดีงาม ความน่ารักอยู่บ้าง แต่ไอ้คนชักใยเบื้องหลังเด็กเช่น สามสัสนั้น ต่ำช่า น่ารังเกียจมากที่สุด”