จากกรณีกลุ่มม็อบนัดชุมนุมเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยหลายกลุ่มประกาศให้เหล่ามวลชนออกมาร่วมชุมนุมให้มาก แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาชุมนุมจริงนั้น กลับมีคนไม่มากดังที่แกนนำปลุกระดม ซึ่งการปลุกระดมนี้สืบเนื่องมาจากที่ ศาลไม่อนุมัติการประกันตัว เหล่าแกนนำ ได้แก่ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒกุล หรือรุ้ง แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน รวมถึงนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ นั้น
โดยมีรายงานว่า วันดังกล่าวบรรยากาศที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยเฉพาะเกาะพญาไท มีแต่แกนนำเดินถือโทรโข่งปราศรัยบริเวณฟุตปาธ แต่ไม่มีมวลชนมาร่วมเดินประท้วง หลังจากเริ่มนัดหมายให้มารวมตัวกันตั้งแต่เวลา 16.30 น. ส่วนแกนนำที่นัดชุมนุมครั้งนี้ประกอบด้วย 1.ตี้ วรรณวลี 2.เพชร ธนกร 3.ปูน ธนพัฒน์ และ 4.ฟิวส์ พีรพล
ขณะวานนี้ (9 มี.ค. 2564) ม็อบนัดชุมนุมกระจายทั่วกรุง ศาล เรือนจำ บีทีเอส เอ็มอาร์ที นครปฐม ทำให้มีการนัดหมายชุมนุมหลายจุด ได้แก่
กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดหมายเวลา 16.00 น. หน้าศาลอาญา รัชดาภิเษก ทำกิจกรรมผูกโบดำ วางพวงหรีด สำหรับกลุ่มดังกล่าวนี้นั้น เป็นกลุ่มที่ก่อตั้งคณะราษฎร ซึ่งที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวมาตลอด และกลุ่มดังกล่าวนั้นเกี่ยวข้องกับ พริษฐ์ ชิวารักษ์, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, อานนท์ นำภา, ภาณุพงศ์ จาดนอก ซึ่งคนเหล่านี้คือกลุ่มที่อัยการยื่นฟ้อง คดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร และศาลไม่อนุญาตให้ประกัน
กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี นัดหมายหน้าเรือนจำพิเศษ กรุงเทพฯ 16.00 น. นัดแต่งดำ ผูกโบดำอาลัยประเทศไทย
กลุ่มการ์ดปลดแอก นัดทุกสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เอ็มอาร์ที โดยยังไม่ระบุเวลา ซึ่งกลุ่มนี้เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่มีความน่าสนใจคือ ใช้วิธีนัดรวมที่รถไฟฟ้า โดยไม่แจ้งเวลาในการชุมนุม และเป็นที่น่าสังเกตว่าถ้ากลุ่มการ์ดมีเคลื่อนไหว อาจเกิดความรุนแรงขึ้น เหมือนการชุมนุมที่ป่าน ๆ มา และครั้งนี้ อาจจะเกิดความรุนแรงซ้ำรอยได้
กลุ่มราษฎรนครปฐม และกลุ่ม Protect freedom นัดหมายบนถนนพุทธมณฑลสาย 4 เวลา 16.00 น. ประกาศให้เตรียมหม้อ รูป ธูป เกลือไปร่วมกิจกรรม
ซึ่งในภายหลังมีรายงานว่า ไม่มีมวลชนเข้าร่วมชุมนุมอย่างที่เหล่าแกนนำต้องการ เพราะมวลชนมาร่วมมีไม่ถึงร้อย
จากประเด็นนี้เอง จึงเกิดการตั้งข้อสังเกตว่าม็อบพยายามที่จะเอาเรื่องศาลไม่ให้ประกันตัวเหล่าแกนนำมาเป็นเหตุในการชุมนุม ปลุกระดมมวลชนออกมาเรียกร้องสิ่งต่าง ๆ ซึ่งกรณีนี้คล้ายกับที่ เหตุการณ์การชุมนุมในประเทศเมียนมา ซึ่งในวันพุธที่ 3 มี.ค. ผู้ชุมนุมตามเมืองต่าง ๆ ถูกสังหารรวมกันถึง 38 ราย เป็นสถิติวันนองเลือดที่รุนแรงมากที่สุด นับจากเกิดรัฐประหารวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่เมืองมัณฑะเลย์ มีการปราปรามม็อบอย่างรุนแรงและมีรายงานผู้เสียชีวิตจำนวนหลายราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ แองเจิล หรือ มะ แจ สิ่นน สาวน้อยวัย 19 ปี เธอเสียชีวิตจากการถูกยิงเข้าที่ศีรษะด้วยกระสุนจริง ก่อนจะมีการเผยภาพของเธอในนาทีที่กำลังพยายามจะหมอบหลบกระสุน และถูกยิงเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งจากกรณีของมะแจ สิ่น ก็ได้ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ถึงการใช้ความรุนแรงในการปราบผู้ชุมนุม
ขณะที่ต่อมาพบว่า ทางด้านเจ้าหน้าที่นิติเวช ได้ทำการผ่าชันสูตรศพ “มะแจสิ่น” ณ ฮวงซุ้ยที่ฝังศพของเธอในสุสาน “เอเยะเงม” ซึ่งเป็นสุสานของของชาวจีนยูนนาน ในกรุงมัณฑะเลย์ เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 5 มี.ค. จากการผ่าชันสูตร เจ้าหน้าที่พบรอยแผลที่ด้านหลังใบหูข้างซ้ายบนศีรษะของมะแจสิ่น ซึ่งขัดแย้งกับลักษณะของเหตุการณ์ที่เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ประท้วง ในบาดแผลได้พบชิ้นส่วนตะกั่วยาว 1.2 เซนติเมตร กว้าง 0.7 เซนติเมตร ซึ่งเป็นลักษณะของกระสุนขนาด .38 ที่ใช้สำหรับปืนสั้น ไม่ใช่ลักษณะเดียวกับอาวุธที่ตำรวจหน่วยปราบจลาจลใช้
อย่างไรก็ตาม ขากกรณีนี้ จึงเป็นบทเรียนให้กับผู้ชุมนุมในไทยของม็อบสามนิ้วว่า ขณะนี้การเคลื่อนไหวของม็อบคณะราษฎร กำลังเริ่มเข้าสู่กระบวนการปฏิวัติประชาชน ซึ่งจะก่อความรุนแรงเพื่อให้เกิดการสูญเสียเพื่อที่จะมีศพออกมาโหน?
เกี่ยวกับเรื่องนี้เอง นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเห็นในเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ ระบุว่า โอละพ่อ!!! ผลพิสูจน์ศพวีรสตรีพม่าที่เคยถูกนำศพมาแห่เรียกม็อบ โดยกล่าวหาว่าทหารพม่าเป็นผู้ยิงนั้น!!! ปรากฏว่า เป็นการยิงมาจากชาวม็อบด้วยกันเอง เพื่อใช้ศพไปแห่ปลุกระดมประชาชน!!! โชคดีของประเทศไทย ที่ม็อบวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งมีแผนการหาศพไปแห่เช่นเดียวกัน ถูกตำรวจทำลายแผนนั้นเสียก่อน!!!
ม็อบจึงจ๋อย การเรียกแขกเมื่อวานจึงเหลวเป๋ว!!! มิฉะนั้นวันนี้ม็อบใหญ่คงเต็มเมืองอีกแล้ว!!! นี่แหละที่เขาว่า บ้านเมืองนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง!!!!
โดยในวันนี้ (10 มี.ค. 2564) มีการแชร์ข้อความอีกว่า “#ราษฎรเอ้ย มารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ประเทศแห่งนี้ ณ. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (เกาะพญาไท) 17.00”
ทั้งนี้ก็ต้องรอจับตาดูว่า ม็อบนัดอนุสาวรีย์ชัยฯ ในครั้งนี้ จะมีการสร้างความรุนแรงปลุกระดม ยั่วยุตำรวจให้เกิดบาดเจ็บล้มตาย เพื่อแห่ศพหรือไม่?
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นกับการจัดชุมนุมของม็อบนั้นพบว่า ในช่วงแรกที่เริ่มมีการชุมนุมนั้นคนต่างเดินทางมาร่วม ดังกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2563 ที่สนามหลวง โดยในวันดังกล่าวมีมวลชนร่วมชุมนุมหลักหมื่น ในขณะที่ตัดภาพมายังปัจจุบันแม้แกนนำจะพยายามปลถกระดมมากเพียงใด แต่คนมาร่วมชุมนุมก็บางตาเหลือเกิน