จากกรณีที่ล่าสุด อัยการมีคำสั่ง ฟ้อง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ผิดม.112 ส่วน อีก15 แนวร่วม ผิด ม.116 และ อีก 11 ข้อหา พร้อมนำตัวส่งศาล และค้านประกัน
ทั้งนี้ นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ แกนนำกลุ่มราษฎร หนึ่งในผู้ต้องหาคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร กล่าวสั้นๆ กับผู้ชุมนุมว่า ตนเป็นเพียงคนที่เพาะต้นกล้าประชาธิปไตย จากนี้ไปเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ร่วมรดน้ำ ให้ต้นกล้าแข็งแรง มั่นคง
ทั้ง ทีมข่าว The Truth ได้ทำการรวบรวม ประวัติและเส้นทางนักเคลื่อนไหวทางสังคม ของนายไมค์ ภานุพงศ์ สู่แกนนำม็อบคณะราษฎร ที่มีคดีติดตัวยาวเป็นหางว่าว
โดย ไมค์ ระยอง หรือ นาย ภาณุพงศ์ จาดนอก เกิดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2539 เป็นชาวอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ปัจจุบันอายุ 24 ปี เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ เป็นที่รู้จักกันดีในนามของนักเคลื่อนไหวทางสังคม และเป็นประธานกลุ่มเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย เคยทำงานจิตอาสาในนาม กลุ่มเยาวชน Youngleaders Thailand ที่ระดมวัยรุ่นมาทำงานช่วยเหลือคนยากคนจน โดยลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหายากจนจากช่วงการระบาดของโควิด-19 ให้กับคนใน อ.บ้านฉาง
สำหรับไมค์ ภานุพงศ์ เป็นที่รู้จัก เมื่อครั้งนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่จังหวัดระยองเมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่ผ่านมา โดยเขาได้ชูป้ายประท้วงโครงการถมทะเล 1,000 ไร่ และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่า “ไมค์ ” นั้นมีหมายจับตั้งแต่การชุมนุมที่มหาวิทยาธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และก่อนหน้านั้นไมค์ ก็ได้ขึ้นเวที เยาวชนปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งก็มีหมายจับและถูกจับกุมหลายข้อหา
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2563 นายไมค์ ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนพระราชกำหนดและพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะในวันที่ 14 มิถุนายน ปีเดียวกัน เพื่อประท้วง การบังคับบุคคลให้สูญหายของ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์
และเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เขาได้ประท้วงการเดินทางเยือนจังหวัดระยองของนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อแก้ไขปัญหา เหตุการณ์ไวรัสโคโรนาจังหวัดระยอง ซึ่งเขาถูกจับกุม ต่อมาวันที่ 18 กรกฎาคม ไมค์ ภานุพงศ์ เป็นส่วนหนึ่งของการประท้วงขบวนการเยาวชนเสรี 18 กรกฎาคมที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในกรุงเทพฯซึ่งอ่าน “สามข้อเรียกร้อง” ต่อหน้าผู้ประท้วงราว 1,000 คนซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ รัฐประหาร 2557
ทั้งนี้้ ในวันที่ 7 สิงหาคม นายไมค์ ภานุพงศ์ ถูกจับกุมอีกครั้ง พร้อม นาย อานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ในข้อหากล่าวสุนทรพจน์ในการชุมนุมหลายครั้งในช่วงการประท้วงของไทยในปี พ.ศ. 2563 รวมถึงการปลุกระดมการประท้วง
โดย ขณะนั้นภานุพงศ์เป็นหนึ่งในสี่แกนนำของการชุมนุม 10 สิงหาคมที่ยกประเด็นการปฏิรูป สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ร่วมกับ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, อานนท์ นำภา และณัฐนนท์ ไพโรจน์ ซึ่งเขาต้องเผชิญกับหกข้อหา และเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นายไมค์ ภานุพงศ์ ประท้วงที่ระยองเพื่อต่อต้านการเสนอโครงการถมทะเลของรัฐบาลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายระยะที่สามของโครงการ มาบตาพุด ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ภานุพงศ์ถูกจับอีกครั้ง จากนั้นได้รับการประกันตัว จากนั้นถูกจับอีกครั้งในข้อหาละเมิดเงื่อนไขการประกันตัวและปฏิเสธที่จะขอประกันตัวต่อไป วางจำหน่ายในวันที่ 7 กันยายน
อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการประกันตัวออกมา หลังจากนั้นก็ได้เห็นไมค์ ขึ้นเวทีปราศรัยอีกหลายเวทีในนามของแกนนำม็อบคณะราษฎร ไม่ว่าจะเป็นชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย -ทำเนียบรัฐบาล ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ชุมนุมที่แยกปทุมวัน
ล่าสุดชุมนุมที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา และในวันเดียวกันนั้น ตำรวจได้เข้าจับกุม ไมค์ ระยอง เพื่อดำเนินคดี ในข้อหา ฝ่าฝืนข้อกำหนดห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกันหรือการกระทำอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตามความในมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
ไม่เพียงเท่านั้น ไมค์ ยังถือเป็นบุคคลที่ได้รับการสนับสนุนจาก คณะก้าวหน้า ระยอง และสาขาพรรคก้าวไกล ระยอง
โดยไมค์ ได้เคยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ทุกครั้งที่ผมทำกิจกรรมอะไรก็ตาม จะมีผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่ง ที่เห็นด้วยและสนับสนุนการทำกิจกรรมของผมอยู่ตลอดเวลา ขอขอบคุณพี่ๆ คณะก้าวหน้าระยอง…”
โดยนาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยยกมือ คารวะ นายไมค์ ภานุพงศ์ และเพื่อน ที่ชูป้ายไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ จ.ระยอง
ที่นายธนาธรมองว่าเป็นบุคคลกล้าหาญในการออกมาแสดงการต่อต้านด่าทอรัฐบาล