เปิดสาเหตุ ปิยบุตร อุ้มแกนนำม็อบ ล้วนแล้วเป็นเด็กอนาคตใหม่! แฉทั้งอดีตผู้สมัครส.ส.-เครือข่ายเยาวชนจังหวัด

2330

จากที่วันนี้ (8 มี.ค. 2564) อัยการมีคำสั่งฟ้อง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, นายภาณุพงศ์ จาดนอก ผิดมาตรา112 ส่วน อีก15 แนวร่วม ผิด มาตรา 116 และ อีก 11 ข้อหา พร้อมนำตัวส่งศาล และค้านประกัน

โดยพบว่าในวันนี้ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ไปสังเกตการณ์และให้กำลังใจ 18 นักกิจกรรม กรณี “19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร” สืบเนื่องจากพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 นัดฟังคำสั่งฟ้องคดีทั้งหมดและยื่นฟ้องต่อศาลอาญาทันที

เลขาธิการคณะก้าวหน้า ระบุว่ากลุ่มนักกิจกรรมที่ถูกกล่าวหาในคดีหลายคนเป็นผู้ต่อสู้ร่วมกันมาอย่างยาวนาน อาทิ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ซึ่งร่วมรณรงค์ “Vote No” ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ อดิศักดิ์ สมบัติคำ และณัทพัช อัคฮาด เคยเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ รวมทั้ง ชินวัตร จันทร์กระจ่าง ซึ่งเคยทำงานกับเยาวชนเครือข่ายของพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดนนทบุรี แต่เมื่อพรรคถูกยุบทุกคนก็ออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป

ปิยบุตร ยังระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการนำประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 “การใช้ ป.อาญา ม.112 ห้ำหั่นกันแบบนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลย หากคิดว่าจะต้องจัดการเอากฎหมายปิดปาก ผมเห็นว่าวิธีการนี้ปิดปากไม่ได้ ถ้าเห็นว่าพวกเขามองสถาบันไม่เหมือนคนรุ่นก่อน การเอาไปขังคุกไม่ช่วยอะไร ไม่มีทางเปลี่ยนวิธีคิดแน่นอน ยิ่งจับยิ่งบานปลาย ยิ่งยัดข้อหายิ่งบานปลาย อยากฝากผู้มีอำนาจทั้งหลายคิดทบทวนให้ดี การเอา ม.112 หรือ ม.116 มาปิดปาก ไม่ได้ประโยชน์ต่อใครเลย ต่อให้แกนนำถูกจับกุม การชุมนุมก็เดินหน้าต่อ”

ปิยบุตร อธิบายว่าการใช้กฎหมายความมั่นคงไม่สามารถสร้างทัศนคติที่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ แต่การเปิดพื้นที่ให้พูดคุยกันอย่างปลอดภัยต่างหากคือทางออก พร้อมบอกว่าผู้มีอำนาจไม่ควรมองว่ากลุ่มนักกิจกรรมที่มีความคิดเห็นวิพากย์วิจารณ์รัฐบาลเป็นอาชญากร แต่เป็นผู้ที่อยากให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีและเป็นประชาธิปไตยต่างหาก

“อยากฝากถึงบุคคลผู้มีอำนาจกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด หลักใหญ่ใจความที่ควรคำนึงถึงคือกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช่อาชญากร เป็นคนที่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง อยากให้บ้านเมืองเปลี่ยนแปลง เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ใช้เสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ หากคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพเป็นหลักก็จะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง นอกจากนั้นแล้วตามรัฐธรรมนูญสันนิษฐานไว้ว่าทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ก่อน สิทธิในการได้รับการปล่อยชั่วคราวเป็นสิทธิพื้นฐานของกระบวนการยุติธรรม คนฆ่าคนตาย หรือค้ายาเสพติด ยังได้รับการปล่อยชั่วคราว คนเหล่านี้ถูกกล่าวหาในคดีการเมืองแต่กลับไม่ได้รับปล่อยตัว” เลขาธิการคณะก้าวหน้า ทิ้งท้าย

ทั้งนี้ อัยการได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลในคดีลักษณะเดียวกันกับ อานนท์, สมยศ, ปติวัฒน์ และพริษฐ์ ไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีโดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน

สำหรับวันนี้มีผู้ถูกดำเนินคดีข้อหาหลักตามมาตรา 112, 116 ประกอบด้วย ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง”, จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน”, ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์”

ส่วนอีก 15 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหาหลักคือ มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น และ มาตรา 215 มั่วสุมกันมากกว่า 10 คนขึ้นไป ได้แก่ อรรถพล บัวพัฒน์, ชินวัตร จันทร์กระจ่าง, ชูเกียรติ แสงวงศ์, ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา, ณัทพัช อัคฮาด, ธนชัย เอื้อฤาชา, ธนพ อัมพะวัต, ธานี สะสม, ภัทรพงศ์ น้อยผาง, สิทธิ์ทัศน์ จินดารัตน์, สุวรรณา ตาลเหล็ก, อนุรักษ์ เจนตวนิชย์, ณัฐชนน ไพโรจน์, อดิศักดิ์ สมบัติคำ และ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมา นายปิยบุตร และทางคณะก้าวหน้านั้นได้ออกมาเคลื่อนไหวหนุนเหล่าแกนนำม็อบตลอดเวลา ซึ่งตลอดที่ผ่านมาก็ออกมาเรียกร้องว่าให้ยกเลิก มาตรา 112 ซึ่งพบว่าเหล่าแกนนำที่ติดคุกเพราะทำความผิดมาตราดังกล่าว และเมื่อตรวจสอบรายชื่อแกนนำทั้ง 18 ราย พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับนายปิยบุตร อาทิ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ซึ่งร่วมรณรงค์ “Vote No” ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ อดิศักดิ์ สมบัติคำ และณัทพัช อัคฮาด เคยเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ รวมทั้ง ชินวัตร จันทร์กระจ่าง ซึ่งเคยทำงานกับเยาวชนเครือข่ายของพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดนนทบุรี แต่เมื่อพรรคถูกยุบทุกคนก็ออกมาเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป