จากกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภู มุ่งหน้าสู่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ฯ ถ.วิภาวดี-รังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งปรากฏภาพความรุนแรงที่กลุ่มม็อบกระทำกับเจ้าหน้าที่ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างมากมาย
ต่อมามีรายงานว่า กลุ่ม REDEM ประกาศนัดหมายชุมนุมครั้งที่ 2 วันที่ 6 มี.ค. 2564 โดยนัดเดินเท้าจาก 5 แยกลาดพร้าว ไปศาลอาญารัชดา เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่คนเท่ากัน และความยุติธรรม นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกลุ่มม็อบนัดชุมหลายสถานที่ว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตามสถานการณ์ตลอด เท่าที่ทราบคือที่หน้าศาล ศูนย์ราชการ กรมทหารราบที่ 11 ตรงนั้นเป็นเขตพระราชฐานต้องทำความเข้าใจ ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามที่จะมีการยกระดับการใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้น เรายังยึดหลักไม่ทำอะไรเกินกรอบ แต่ต้องเตรียมการให้มากกว่าเดิม ความสูญเสีย บาดเจ็บพยายามจำกัดให้น้อยลงให้ได้ ส่วนที่มีการจับกุมกลุ่มชุมนุมครั้งที่ผ่านมาเพราะมีการกระทำความผิดซึ่งหน้า
ส่วนกรณีจะมีม็อบชนม็อบหรือไม่เนื่องจากชาวบ้านย่านดินแดงได้ออกมาต่อต้านกลุ่มผู้ชุมนุม เรื่องนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า วันนั้นไม่ใช่ม็อบชนม็อบ เรามีกำลังดูแลอยู่แต่ว่าดูแลได้ไม่ทั่วถึง อย่างน้อยก็ระงับความเสียหายได้มากพอสมควร เรื่องม็อบชนม็อบไม่คิดว่ามี
“อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้สติคิดให้ดี คนบางคนมาชักชวนท่านให้เตรียมอุปกรณ์ เตรียมโล่ เตรียมเหล็ก ต้องคิดให้ดี ทำอย่างนั้นมันไม่ได้อะไรกับประเทศชาติ ถ้าคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม แน่ใจเหรอว่าทำอย่างนั้นจะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะการชุมนุมของกลุ่ม REDEM ที่หน้าศาลอาญา ทางตำรวจนครบาลได้มีการพูดคุยประสานกับทางสำนักงานศาลยุติธรรมอยู่ตลอด การชุมนุมมันผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่แล้วถ้ามีการชุมนุมแบบนั้น ไม่อยากเห็นภาพรุนแรงหรือปะทะกันโดยไม่จำเป็น”
ขณะที่ทางด้าน ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงกรณีที่ในวันเสาร์ที่ 6 มี.ค. 2564 จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเดินขบวนจากหน้าห้างสรรพสินค้าโลตัสรังสิต ไปยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธินขาเข้า และผ่านทางกองทัพอากาศ ว่า ก็สัญจรไปมาได้ตามปกติ เพราะถนนด้านนอกเป็นเส้นทางสาธารณะ ทุกคนสามารถใช้ได้ เพียงแต่ ทอ. ปิดกั้นช่องทางเขตทหารเท่านั้นเพราะเขตทหารมีทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ คนข้างนอกเข้าไม่ได้ เราก็ดูแล ณ ที่ตั้งของเราเท่านั้น ไม่มีมาตราการอะไรพิเศษ เพียงแต่จะเข้มในส่วนพื้นที่ของเขตทหาร ซึ่งปกติบุคคลภายนอกก็ห้ามเข้าอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์ในเบื้องต้น การชุมนุมในวันที่ 6 มี.ค. 2564 นี้ ค่อนข้างมีความผิดปกติจากการชุมนุมครั้งก่อน ๆ เป็นอย่างมาก เพราะในครั้งนี้ได้มียุทธศาสตร์การชุมนุม ที่เรียกว่า “ดาวกระจาย” โดยผู้นำการชุมนุม ไม่ใช่การประกาศของ “คณะราษฎร” หรือ “ปลดแอก” อย่างที่เคยเป็นมา แต่เป็นการประกาศชุมนุมของ “การ์ด” กลุ่มต่าง ๆ
โดยเป็นการรวมตัวกันของกลุ่ม “การ์ด” ทั้ง 3 กลุ่ม และใช้ยุทธวิธีดาวกระจาย โดยทาง “ทีมการ์ดราษฎร” ได้โพสต์นัดหมาย ในวันที่ 6 มี.ค.64 โดยจุดหมายคือ “ศาลอาญารัชดา” โดยระบุว่า
“การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน 6 มีนาคม 2564 ออกมาสู้พร้อมกัน ปลุกไฟในตัวคุณแล้วลุกขึ้นสู้ไปด้วยกัน อย่าเพิกเฉยต่อการกระทำของรัฐบาล อย่ามองว่าความรุนแรงในม็อบเป็นเรื่องปกติ แล้วกลับมาสู้ด้วยกันอีกครั้ง โดยนัดเจอกันที่ 5 แยกลาดพร้าว ไปศาลอาญา ประเทศไทยต้องการอนาคตและอนาคตของประเทศนี้คือ พวกคุณ”
ในส่วนกลุ่มที่สอง คือ “กลุ่มปล่อยเพื่อนเรา” ซึ่งค่อนข้างมีความชัดเจนว่าเป็นกลุ่มรวมคนเสื้อแดง ได้ประกาศรวมตัวโดยมีรายละเอียดว่า เรามาอย่างสันติแต่เราจะสู้อย่างหมาจนตรอกเมื่อเกิดภัยคุกคาม วันที่ 6 มีนาคมนี้ขอเชิญพี่น้องคนเสื้อแดงหรือคณะราษฎรทุกหมู่เหล่า
ส่วนอีกกลุ่มคือ “กลุ่มอาชีวะไม่เอาเผด็จการ” ก็ได้ประกาศนัดรวมตัว ในวันที่ 6 มี.ค.64 เวลา 17.00 น. บริเวณ “อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย”