หลังจากที่มีการอ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว 8 แกนนำกปปส. โดยตีราคาประกันที่ 800,000 บาท ซึ่งบรรยากาศหน้าเรือนจำ ได้มีกลุ่มมวลชนเดินทางมารอให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
พอบรรดา 8 แกนนำได้เดินออกมาจากเรือนจำ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ได้กล่าวเปิดใจด้วยเสียงสั่นเครือเล็กน้อย แล้วบอกว่า ขอบคุณที่มาให้กำลังใจพวกเราขอย้ำว่าพวกเรายังยึดมั่น ในอุดมการณ์ เพื่อชาติ แผ่นดิน พระมหากษัตริย์
เราเคารพในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ไม่เคยตำหนิ ซึ่งหลังจากนี้จะเดินหน้ารวบรวมหลักฐานในการสู้คดีต่อไป พร้อมทั้งกล่าวว่าเสียใจที่ 2 รัฐมนตรี “ณัฏฐพล – พุทธิพงษ์” น้องทั้ง 2 คนต้องหลุดจากตำแหน่ง และสัญญาด้วยใจทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าจะมีใครต้องติดคุก เราก็จะไม่ทอดทิ้งกัน
ต่อมาในโลกโซเชียลฯ โดยเฉพาะกลุ่มของ “ราษฎร” หรือชาวม็อบ 3 นิ้ว ได้หยิบยกกรณีดังกล่าวขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ โจมตีศาลในทำนองว่าสองมาตรฐาน ช่วยเหลือกลุ่มกปปส. โดยอ้างว่าวันนี้เป็นวันหยุด(วันมาฆบูชา) แต่ศาลกลับเปิดทำการ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นความเข้าใจผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างมาก เพราะเมื่อครั้งนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา ได้ลงนามในประกาศ “ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการเปิดทำการศาลและพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในวันหยุดราชการ พ.ศ.2562” ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 2562
โดยระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการเปิดทำการศาลและพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในวันหยุดราชการ พ.ศ.2562 มีรายละเอียดดังนี้
ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการเปิดทำการศาลและพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในวันหยุดราชการ พ.ศ. ๒๕๖๒
โดยที่มาตรา ๒๙ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหา หรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติ ต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้ และคำขอประกันผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญาต้องได้รับ การพิจารณา ประกอบกับมาตรา ๘๗ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๕๕ มาตรา ๗๒ แห่งพระราชบัญญัติ ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ และมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ กำหนดให้นำตัว ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาไปศาลหรือยื่นฟ้องภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งเป็นเหตุให้ต้องเปิด ทำการในวันหยุด ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองสิทธิผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาให้มีการนำตัวไปศาลโดยเร็ว และเพื่อ คุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลยให้ได้รับการพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวโดยเร็ว จึงสมควร วางระเบียบเกี่ยวกับการเปิดทำการศาลในวันหยุดราชการ เพื่อให้การปฏิบัติในเรื่องนี้ดำเนินไป โดยเรียบร้อยและเป็นแนวทางเดียวกัน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ประธานศาลฎีกา จึงวางระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการเปิด ทำการศาลและพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในวันหยุดราชการ พ.ศ. ๒๕๖๒
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 6 มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบราชการฝ่ายตุลาการ ฉบับที่ ๔ เรื่อง การเปิดทำการศาล
ในวันหยุดงานหรือนอกเวลาทำการปกติ
บรรดาระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งอื่นใดที่ออกตามระเบียบราชการฝ่ายตุลาการ ฉบับที่ ๔ เรื่อง การเปิดทำการศาลในวันหยุดงานหรือนอกเวลาทำการปกติ ที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้
ข้อ ๔ ให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเปิดทำการศาลในวันหยุดราชการ เพื่อพิจารณาคำร้อง ขอผัดฟ้อง ฝากขัง การรับและส่งตัวผู้ถูกจับตามหมายจับ และการพิจารณาส่งตัวผู้ต้องหาไปตรวจพิสูจน์ การเสพหรือติดยาเสพติดตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณีที่มีวันหยุดราชการติดต่อกันสองวัน ให้เปิดทำการในวันหยุดราชการ
วันแรกเป็นอย่างน้อย
(๒) ในกรณีที่มีวันหยุดราชการติดต่อกันสามวัน ให้เปิดทำการในวันหยุดราชการวันที่สอง (๓) ในกรณีที่มีวันหยุดราชการติดต่อกันตั้งแต่สี่วันขึ้นไป ให้เปิดทำการในวันหยุดราชการ
หนึ่งวันเป็นอย่างน้อย
(๓) ในกรณีที่มีวันหยุดราชการติดต่อกันตั้งแต่สี่วันขึ้นไป ให้เปิดทำการในวันหยุดราชการ วันแรกและวันที่สามเป็นอย่างน้อย แต่ต้องมีให้ศาลปิดทำการติดต่อกันถึงสองวัน
ข้อ ๕ ให้ศาลชั้นต้นเปิดทำการศาลในวันหยุดราชการทุกวัน เพื่อพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราว
ข้อ ๖ การพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ตามความในข้อ ๕ ให้หมายความรวมถึง การรับคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง และการอ่านคำสั่ง
ข้อ ๗ ให้ศาลชั้นอุทธรณ์และศาลฎีกาเปิดทำการศาลในวันหยุดราชการทุกวัน เพื่อพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นอุทธรณ์หรือขั้นฎีกา หรือคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่อนุญาต ให้ปล่อยชั่วคราว ตามมาตรา ๓๐๖ หรือมาตรา ๓๓๓ ทวิ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ข้อ ๘ การเปิดทำการศาลในวันหยุดราชการนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในข้อ ๔ ถึงข้อ ๓ หรือเปิดทำการศาลนอกเวลาทำการปกติ เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความยุติธรรม ประธาน ศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ อธิบดี ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น หรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาล แล้วแต่กรณี อาจพิจารณากำหนดให้เปิดทำการ
ข้อ ๙ ให้ศาลที่เปิดทำการในวันหยุดราชการหรือนอกเวลาทำการปกติ แจ้งให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงการเปิดทำการเช่นว่านั้นเป็นการล่วงหน้าตามสมควร
ข้อ ๑๐ ให้เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมกำหนดวิธีปฏิบัติและอำนวยความสะดวก
แก่ทุกศาลเพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๒
ลงชื่อ (นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์)
ประธานศาลฎีกา
อย่างไรก็ตามยังพบว่า ในโลกโซเชียลได้มีการแชร์ข้อความเปรียบเทียบ ในลักษณะการหมิ่นศาล เนื่องจากเปรียบเทียบคดีของแกนนำกปปส. และแกนนำม็อบ 3 นิ้ว ว่าศาลตัดสินไม่ยุติธรรม เพราะไม่อนุญาตให้ประกันตัว 4 แกนนำ แต่ที่ผ่านมาก็มีการพิเคราะห์ชัดเจนแล้วว่า แกนนำ 3 นิ้ว เมื่อได้รับการปล่อยตัวออกมา ก็จะกระทำผิดซ้ำซาก และจะถูกจับกุมไปอีกเรื่อย ๆ