เปิดไทม์ไลน์เด็กพม่า 2 ขวบติดโควิด พิกัดสุดท้ายพักอาศัยในอยุธยา ก่อนออกนอกประเทศ จับตาพม่าระบาดขั้นวิกฤติ

2097

กรมควบคุมโรค เปิดไทม์ไลน์เด็กพม่า 2 ขวบติดเชื้อโควิด-19 จากไทย พร้อมประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เพื่อตรวจสอบรายละเอียด และมีการสอบสวนโรคและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดต่อไป ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบป้องกันควบคุมโรคของไทย ที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง

โดยทางด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบรายละเอียดกรณีเด็กชาวเมียนมาอายุ 2 ขวบติดเชื้อโควิด 19 ขณะเดินทางกลับประเทศเมียนมาจากประเทศไทย นั้น กรมควบคุมโรค ได้มอบหมายให้กองระบาดวิทยา และหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรคในพื้นที่ ได้แก่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี (สคร.4 จ.สระบุรี) ซึ่งดูแลพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา (สคร.9 จ.นครราชสีมา) ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบรายละเอียดและทำการสอบสวนโรคกรณีดังกล่าว

ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการสอบสวนโรคและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งเคยทำงานหรือเคยอาศัยกับครอบครัวนี้เพื่อทำการตรวจหาการติดเชื้อต่อไป จากการตรวจสอบรายละเอียดในเบื้องต้น

พบว่าบิดามารดาของผู้ติดเชื้อเคยเข้ามาทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ประกอบธุรกิจอิฐบล๊อก ในอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 โดยมีประวัติขึ้นทะเบียนทำงานที่จ.นครราชสีมา รวมถึงประวัติการตรวจสุขภาพที่ รพ.ปากช่องนานา เพื่อซื้อประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว

“จากการสัมภาษณ์เพื่อนแรงงานชาวเมียนมา พบว่าวันที่ 25 มิถุนายน 2563 ได้ลาออกจากบริษัทดังกล่าวทั้งสองคน และเดินทางพร้อมบุตรสาว ออกจากบริษัทโดยมีรถตู้มารับเพื่อเดินทางไปทำงานที่ จ.พระนครศรีอยุธยาในวันที่ 26 สิงหาคม 2563 และจากข้อมูลในระบบออนไลน์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่ามีการสมัครเข้าทำงานที่ตลาดแห่งหนึ่งใน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่เหมาะสมต่อไป”

ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบป้องกันควบคุมโรคของไทย ที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง รวมถึงการป้องกันและจำกัดการแพร่ระบาดของโรค แม้จะมีการระบาดอย่างต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้าน หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศเมียนมา ทางเว็บไซต์นสพ. New York Post สหรัฐอเมริกา เสนอข่าว Myanmar races to build field hospital as coronavirus overwhelms health system ระบุว่า ทางการเมียนมาต้องทำงานแข่งกับเวลาในการเร่งก่อสร้างโรงพยาบาลชั่วคราวที่เมืองย่างกุ้ง ศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจของประเทศ หลังสถิติล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 3,636 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 39 ราย

ก่อนหน้านี้เมียนมาไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 แบบระบาดในท้องถิ่นนานอยู่หลายสัปดาห์ กระทั่งช่วงกลางเดือน ส.ค. 2563 ก็เริ่มพบการระบาดในลักษณะดังกล่าวในพื้นที่รัฐยะไข่

ทางตะวันตกของประเทศ ก่อนจะลุกลามไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในเวลาต่อมา ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ในเมียนมา กังวลว่าหากจำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้นก็อาจกระทบต่อโครงสร้างระบบสาธารณสุขของเมียนมาที่เปราะบางอยู่แล้วได้

อย่างไรก็ตาม กวง เมียต โซ (Kaung Myat Soe) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชั่วคราว ยอมรับว่า เมียนมาไม่มีพื้นที่รองรับสำหรับการระบาดใหญ่อีกแล้ว และสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงหากไม่สามารถรองรับผู้ป่วยด้วย ดังนั้นจึงต้องรีบก่อสร้างศูนย์พักพิงอย่างเร่งด่วน ขณะที่บรรยากาศในเมืองย่างกุ้งที่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ คนงานกำลังเร่งดัดแปลงสนามฟุตบอลให้เป็นโรงพยาบาลชั่วคราวขนาด 500 เตียง ส่วนโรงพยาบาลหลัก 3 แห่งของเมือง ทรัพยากรส่วนใหญ่ถูกใช้เพื่อรับมือผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นหลัก