“พล.ท.นันทเดช” ชำแหละ 5 จำพวกละเมิดกม. ชี้คนโพสต์ปลุกระดมก็ไม่รอด ขณะ “บุ๊ง ปกรณ์” เตรียมชิ่ง ประกาศหาคนรับไม้ต่อดูแลเงินม็อบ

4411

จากที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกและแนวร่วม ในนามกลุ่ม “REDEM” ได้ประกาศนัดจัดกิจกรรม “ม็อบ 28 กุมภา” บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อไปยังบ้านพักของนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะมีเหตุปะทะ เกิดความรุนแรง และต่อมาก็ปรากฏความสูญเสียเกิดขึ้น

กลุ่ม REDEM ได้ทยอยออกจากเกาะพญาไท ข้ามถนนไปปักหลักบริเวณเกาะกลางของอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเตรียมตั้งขบวนก่อนเดินเท้าไปยังบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต

ต่อมาช่วงเวลา 18.00 น. การชุมนุมบนถนนวิภาวดีรังสิต ได้มีการปะทะกันระหว่าง กลุ่มมวลชน และตำรวจที่ควบคุมฝูงชน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเจรจาให้กลุ่มมวลชนถอยเข้าไปอยู่ในแนวกั้น แต่ได้มีการฝ่าฝืนคำสั่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจฉีดน้ำสลายการชุมนุม ก่อนจะมีเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้น

ต่อมา พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้โพสต์ข้อความระบุว่า

“▪️ม็อบชื่อใหม่ redem ▪️
ม็อบวันนี้ มีประมาณ 500 คน การ์ดอีกประมาณ 100 คน
ม็อบบุกเข้าไปทำลายเครื่องกีดขวาง บางคนดื่มน้ำเมาย้อมใจมาแล้ว
ทำตัวตกต่ำ ปีนขึ้นไปยืนทำท่าเหมือนปล่อยทุกข์ใส่เจ้าหน้าที่
บางคนทำร้าย จนท. พกพา ท่อนไม้ ท่อนเหล็ก และพกพาอุปกรณ์คล้ายอาวุธฯ
จนเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้วิธีสลายการชุมนุม ด้วยการประกาศเตือนก่อน
แล้วฉีดน้ำ ตามด้วยแก๊สน้ำตา จึงจะสามารถทำให้แกนนำที่แอบอยู่ในที่ชุมนุม
จำเป็นต้องหาทางยุติการชุมนุม เพราะคนทั้ง 5 จำพวกเหล่านี้
คงไม่แคล้วต้องถูกดำเนินคดีทางกฏหมายแน่นอน เสียดายอนาคตครับ
ถ้าไม่ได้ตังค์มาเป็นล้านก็ไม่น่าจะคุ้ม ใช่ไหมครับ
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ร่วมละเมิดกฏหมายอีก อาทิ :
1คนที่ควบคุมเพจและสื่อที่ชักชวนให้คนเข้ามาชุมนุม
ย่อมมีความผิดทางกฏหมายด้วย คล้ายเข้ามาชุมนุมเอง
2พวกที่ขึ้นไปพูดบนรถทุกคน
3️ พวกที่บุกเข้าไปรื้อสิ่งกีดขวางต่างๆ
4️ คนที่เข้าไปทำร้ายเจ้าหน้าที่ในลักษณะต่างๆ แล้วก็ทำเป็นวิ่งหนี
แหกปากว่า ตำรวจทำร้ายประชาชน
5 คนที่โพส์ตข้อความต่างๆที่ยุยง หรือเป็นเท็จเพื่อเรียกร้อง
ให้คนเข้าไปชุมนุม เช่น “มาชุมนุมเป็นล้านแล้ว” “เจ้าหน้าที่
กวาดล้างอย่างโหดเหี้ยม” ฯลฯ
▪️เมื่อถูกจับแล้วอย่าไปบ่นว่าทำไมศาลไม่ให้ประกัน ตำรวจโหด
อะไรทำนองนี้ เพราะมาตรฐานการสลายม็อบของประเทศไทยนั้น
แสนนิ่มนวลไม่ว่าประเทศไหนก็ต่อว่าไม่ได้หรอกครับ
เพราะของเราดีที่สุดในโลก (หรืออ่อนจริงๆ) เมื่อเทียบกับ สหรัฐฯ
ยุโรป พม่า กัมพูชา ลาว ฮ่องกง รวมทั้งสิงคโปร์ (สิงคโปร์
แค่ชูป้ายนิดหน่อยเท่านั้น ก็โดนปรับเสียจนไปเลย ครับ”

ขณะเดียวกัน นายปกรณ์ พรชีวางกูร ท่อน้ำเลี้ยงม็อยคนสำคัญ ที่คอยอุ้มชูสนับสนุนค่าใช้ของการชุมนุมและแกนนำม็อบเสมอมา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า
“จนถึงเมื่อวานกุเหลือเงินม็อบอยู่ประมาณ2แสน8 เอาไว้แสตนบายเรื่องคนเจ็บ
เมื่อคืนแม่นาคโอนมาเติมให้อีก2แสน
เท่ากับว่าตอนนี้กองทุนช่วยคนเจ็บตีกลมๆมีเงินอยู่5แสนลบนิดหน่อย
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
แล้วจะบอกต่ออีกว่า ไอ้พวกปากหมาที่ขยันด่ากุเก่งๆ คนไหนที่คิดว่าเรื่องพวกนี้มันจัดการได้ง่ายๆ
มึงมาเลยสัส กุให้มึง5แสน แม่เยร..แล้วมาจัดการแทนกุ
กุจะได้นอนหลับได้สนิทตากับเค้าสักที”