มติส่งปมแก้รธน.ให้ศาลตีความ!รัฐสภามีอำนาจแก้ทั้งฉบับหรือไม่ ขณะฝ่ายค้านโวยลั่น

1961

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ส.ว.สมชาย แสวงการ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า

“#กลัวอะไรกันหนักหนากับการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
#หรือกลัวความจริงที่จะรู้กันว่าสภาไม่มีอำนาจในการล้มรัฐธรรมนูญ
วาระการลงมติของที่ประชุมรัฐสภาในวันที่9กพ ที่จะยอมให้ญัตติของผมและเพื่อนสสสว75คน ที่ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสสสวมีอำนาจในการไปจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้หรือไม่นั้น จึงสำคัญมากต่อความรอบคอบถูกต้องตามกฎหมาย
เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า รัฐสภามีอำนาจจริง ก็เดินหน้าโหวตต่อในวาระ3 ได้
แต่หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า รัฐสภาไม่มีอำนาจ สภาก็เสนอญัตติใหม่แก้ไขรัฐธรรมนูญยรายมาตราเฉพาะที่เห็นว่ามีปัญหาได้
โดยไม่ต้องล้มรัฐธรรมนูญที่มาจากประชามติเห็นชอบกว่า16.8ล้านเสียงแล้วไปร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
“รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่มีบทบัญญัติมาตราใดให้อำนาจรัฐสภาเสนอญัตติร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับแก้ไข”
ส.ส.และ ส.ว.รวม 75 คน ร่วมกันลงชื่อเพื่อขอให้ประธานรัฐสภาส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญมายกร่าง รธน.ฉบับใหม่ เป็นสิ่งที่ทำได้ตาม รธน.ฉบับปัจจุบันหรือไม่
เพราะกลุ่มผู้ร้องมองว่าเรื่องดังกล่าวอาจขัด รธน.
จึงขอให้ศาล รธน.วินิจฉัยว่าการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อให้
ตั้งสภาร่าง รธน.ดังกล่าวของรัฐสภาที่กำลังดำเนินการในขณะนี้ เป็นการทำที่ขัดหรือแย้งต่อ รธน.ฉบับปัจจุบันหรือไม่”

อย่างไรก็ตาม วันนี้ 9 ก.พ. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อภิปรายสรุปว่า ญัตติดังกล่าวสมควรส่งให้ศาลวินิจฉัยในตอนนี้ จริงอยู่ที่จะสามารถยื่นในภายหลังก็ได้ แต่นั่นหมายถึงการต้องเสียเวลา หากล้มขึ้นมาจะทำอย่างไร ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะเตะถ่วงกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ แต่การยื่นถึงศาลมีความสำคัญ เพราะจะทำให้ถูกต้องรอบคอบ

นายสมชาย กล่าวว่า หากศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการวินิจฉัยตามที่สมาชิกหลายคนระบุจริง ทำไมสมาชิกรัฐสภาหลายคนส่งเรื่องต่างๆไปยังศาลขอให้วินิจฉัย เช่น การขอให้วินิจฉัยคุณสมบัติ สส. อย่างไรก็ตาม การยื่นญัตตินี้ เพื่อให้การทำหน้าที่ของรัฐสภาถูกต้อง อย่าให้ต้องเสียเงินทำประชามติแล้วบอกว่าการกะทำดังกล่าวทำไม่ได้

 

Image result for ส.ว.สมชาย

นายสมชาย กล่าวต่อว่า วันนี้วุฒิสภาและสภาฯจะต้องมีความเห็นในทางเดียวกันหรือไม่ก็ตาม เป็นความรับผิดชอบต่อรัฐธรรมนูญที่ชัดเจน ทุกคนเกิดจากรัฐธรรมนูญ อีกทั้งตามรัฐธรรมนูญบัญญัติชัดเจนให้ศาลวินิจฉัยหากเกิดปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจรัฐสภา เพราะฉะนั้นรัฐสภาจำเป็นต้องนำเรื่องนี้ไปสู่ศาล เพื่อวินิจฉัยให้สิ้นกระแสความ

ต่อมาเวลา 14.20 น. นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม สั่งให้ที่ประชุมลงมติ ผลปรากฎว่าที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารัฐสภามีอำนาจและหน้าที่ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับหรือไม่ ด้วยคะแนน 366 ต่อ 316 งดออกเสียง 15 ไม่ลงคะแนนไม่มี.

ขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้ทิวตข้อความผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า
“#ประชุมรัฐสภา มีมติให้ยื่นศาล รธน ตีความอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาเอง ในการแก้ รธน
ญัตตินี้เสนอโดย สส ไพบูลย์ นิติตะวัน พปชร และ สว สมชาย แสวงการ ซึ่งเห็นว่ารัฐสภาไม่มีอำนาจแก้ รธน ที่ให้เพิ่มเติมเรื่องการจัดทำ รธน ใหม่
การจัดทำ รธน ใหม่ ต้องถูกยื้อไปอีก และไปอยู่ในกำมือศาล รธน”

ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ กลุ่มราษฎรได้มีการประกาศจัดม็อบที่บริเวณสกายวอล์ค ห้างเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เวลา 17.00 น. คงต้องจับตามองว่า เนื่องจากมติประชุมสภาเรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นที่คัดค้านของฝ่ายค้าน จะส่งผลกระทบกับความรุนแรงของม็อบหรือไม่