“หมอจุฬา” ยกวิจัยล่าสุด ชี้ไทยเสี่ยง กำลังรับไวรัสสายพันธุ์ G ติดเชื้อง่าย ม็อบดึงดันชุมนุมใหญ่ 19 กันยา แนวโน้มสูงเป็นต้นตอแพร่ระบาดรอบ 2

3386

จากกรณีที่ได้มีการประกาศจากกลุ่มปลดแอก ว่าการชุมนุมวันที่ 19 ก.ย.นี้ ที่มธ.ท่าพระจันทร์ จะเป็นการชุมนุมอย่างสงบ และเรียกร้องประชาธิปไตยด้วยพลังบริสุทธิ์ แต่จากการดูโดยรวมแล้ว การชุมนุมครั้งนี้ มีหลายเครือข่ายเข้ามาผสมรวมกัน

บางเครือข่ายบางกลุ่มก็ขึ้นชื่อเรื่อง ม็อบหัวรุนแรงตั้งแต่ครั้งอดีต หลายๆฝ่ายจึงเริ่มแสดงความน่าเป็นห่วงว่า การชุมนุมครั้งนี้จะเป็นการชุมนุมอย่างสงบ และเรียกร้องประชาธิปไตยด้วยพลังบริสุทธิ์ จริงหรือไม่?

ต่อมาทางด้านนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ซึ่งเป็นข้อมูลมาจากหน่วยข่าวกรอง โดยเผยว่า มี 10 เครือข่าย ที่เตรียมตัวขนคนเข้าร่วมม็อบ เพื่อสร้างความปั่นป่วน ในวันที่ 19 ก.ย.63

ล่าสุดสถาบันทิศทางไทย การประเมินสถานการณ์​การชุมนุม 19 กันยายน 2563 และข้อเสนอของสถาบันทิศทางไทย​ ต่อรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา #สถาบันทิศทางไทย

(1) ที่ผ่านมาม็อบไม่เคยชนะรัฐบาลไม่ว่าจะออกมามากขนาดไหน​ หรือใช้ความรุนแรง

1.1 พันธมิตร​ฯ มีคนออกมา​ 150,000 คน กดดันรัฐบาลไม่ได้​ จบลงด้วยการยึดอำนาจปี 2549

1.2 นปช.​ ปี​ 52 ไม่มีกองกำลัง​ สลายการชุมนุมได้

1.3 นปช.​ ปี​ 53 มีมวลชนออกมา​ 120,000 คน มีกองกำลัง​ชายชุดดำ ยิงทหาร​ ยิงผู้ชุมนุม​ สร้างสถานการณ์รุนแรง​ล้มรัฐบาล​ ปรากฎคลิปชายชุดดำ ทำให้รัฐบาลยังอยู่​ และสลายการชุมนุม​ได้

1.4 กปปส.​ มวลชน​ 2.5 ล้าน​คน ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้​ ถูกชายชุดดำยิงเสียชีวิต​ 27 คน​ จบลงด้วยการยึดอำนาจปี 2557

(2) นักศึกษาชุมนุมดาวกระจายในหลายจังหวัด​ มีมวลชนเข้าร่วมน้อย​ (แต่ละที่​ 50-200 คน)​

การชุมนุมใหญ่​ 10 สิงหาคม​ (มธ.รังสิต)​ 5,000 คน​ การชุมนุม​ 16 สิงหาคม​ (อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย)​ 10,000 คน​

คนส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้สึกร่วมด้วย​ ผลโพลล์​ระบุ​คนไทย​ 85% เชื่อว่ามีนักการเมืองและต่างชาติ​ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง​การชุมนุมของกลุ่มปลดแอก

(3) การชุมนุมยืดเยื้อทำยาก​เพราะ

3.1 มีปัญหา​ท่อน้ำเลี้ยง​ ผู้ชุมนุม​ต้องใช้​ 200 บาท/คน/วัน​ ถ้าผู้ชุมนุม​ 10,000 คน​ต้องใช้​ 2 ล้านบาท/วัน​ ผู้ชุมนุม​ 50,000 คน​ต้องใช้​ 10 ล้านบาท/วัน​

3.2 มีปัญหาระหว่าง​ท่อน้ำเลี้ยงกับการ์ดแดง​ ปกรณ์ (ท่อน้ำเลี้ยง)​โพสต์ว่า​ เสื้อแดง​ มาร่วมได้​แต่​อย่าเสือก​ อย่าสร้างความวุ่นวาย​ สมบัติ​ ทองย้อย​ ตอบโต้ว่า​ เสื้อแดงน่ารังเกียจตรงไหน

3.3 ปัญหาชิงการนำ​ ระหว่าง​ กลุ่มปลดแอก​ กับ​ นักการเมืองพรรคเพื่อไทย​ เรื่อง​ 10 ข้อเรียกร้อง​ ( 1 ความฝัน)​ เพนกวิน/รุ้ง​ เคยถูกห้ามไม่ให้ขึ้นเวทีวันที่​ 16 สิงหาคม ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร​ เพราะเพื่อไทยไม่อยากให้พรรคตัวเองถูกโยงกับเรื่องสถาบัน

(4) รัฐบาลต้องตระหนักว่าการชุมนุมมีเบื้องหลัง​ ใช้เด็กออกมาเป็นแนวหน้า​ เชื่อมโยงไปที่นักการเมืองและองค์กรต่างชาติเบื้องหลัง​ เป็นการชุมนุมที่ไม่มีแกนนำเป็นตัวเป็นตน​

กลุ่มนำคือ​ เพนกวิน-รุ้ง​ ขาดวุฒิภาวะ​ มุทะลุ​ ไม่มีประสบการณ์ในการนำมวลชน​ แต่พร้อมเสี่ยง​ พร้อมปะทะ​ เจรจาด้วยยาก​

ธนาธร​ ปิยบุตร​ จะออกมาขานรับ​และรับช่วงต่อเมื่อยุทธวิธีแรกบรรลุผล​

ดังนั้นการชุมนุมถูกออกแบบให้เป็นการรวมตัวเพื่อ​ยั่วยุประชาชนที่จงรักภักดีให้ทวีความเกลียดชัง​ รวมถึงสร้างความวุ่นวาย​

หรือ​ “ช็อคสถานการณ์” ​ โดยทำให้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่​ อาจถึงเลือดตกยางออกหรือเสียชีวิต​ (แบบ​แยกคอกวัว 10 เม.ย.​ 2553) และนำไปขยายผลผ่านช่องทางโซเซียลมีเดียที่เป็นพื้นที่ที่ตัวเองได้เปรียบ​ เพื่อสร้างแรงกดดันและสร้างกระแสไปทั่วโลก​ โดยเป้าประสงค์จะโยนบาปให้รัฐบาลรับผิดชอบ​​หรือให้ทหารทำรัฐประหาร​

(5) การชุมนุมในช่วงนี้มีความเสี่ยงในการระบาดโควิด-19 รอบสอง​

เพราะเป็นการรวมตัวของกลุ่มคนจำนวนมากซึ่งถ้าหากไม่เฝ้าระวังและคัดกรองอย่างถูกต้องและเกิด​ super​ spreader​ ขึ้นมาจะยิ่งซ้ำเติมวิกฤติโควิดและวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังจะฟื้นตัวขึ้นแล้วให้หนักลงไปอีก

ข้อเสนอ​ของสถาบันทิศทางไทย

(1) เปิดให้ชุมนุมโดยใช้พื้นที่สนามหลวงบางส่วน​​​

ฝ่ายรัฐตัองไม่สร้างเงื่อนไขขัดขวางหรือทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ​ ซึ่งจะทำให้ม็อบอ่อนกำลังลงไปเอง​

กองหน้า​ (เพนกวิน, รุ้ง)​ ที่เป็นพวกหัวรุนแรง​พร้อมปะทะ​ จึงต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยใช้อำนาจ​รัฐ​

แต่ควรใช้วิธีถ่ายทอดสดให้เห็นว่าแกนนำไร้วุฒิภาวะและเตรียมใช้ความรุนแรง​เสียเอง​ (ซึ่งได้ผลจากกรณีสาดสีใส่ตำรวจของนักร้อง​ bottom blue​ ที่มีผลออกมาในทางลบ)​

(2) เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องประสานกับการ์ดของผู้ชุมนุมเพื่อทำข้อตกลงเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าชุมนุม​ โดยให้มีการตรวจอาวุธ​อย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันบุคคลไม่ทราบฝ่ายแทรกซึมเข้ามาสร้างสถานการณ์รุนแรง

(3) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องประสานกับการ์ดของผู้ชุมนุม​ เรื่องมาตรการคัดกรอง​ การตรวจอุณหภูมิ​ การรักษาระยะห่างทางสังคม​ เพื่อเฝ้าระวัง​ความเสี่ยงที่การชุมนุมจะกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อ​ super spreader

(4) ต้องเปิดให้การชุมนุมเป็นพื้นที่สว่างผ่านการถ่ายทอดสดของ​ NBT (ไม่ต้องถ่ายทอดเสียง)​ และสื่อต่างๆ​ เพื่อให้ทุกเหตุการณ์อยู่ในสายตาของประชาชนส่วนใหญ่​ จะป้องกันการแทรกซึม​ แฝงตัว​เข้ามาใช้ความรุนแรงช็อคสถานการณ์

(5) เตรียมแผนรับมือการข่าวผ่านโซเซียลมีเดีย​ และการชี้แจงต่อต่างชาติอย่างเป็นระบบและทันท่วงที​

ต้องมีปฏิบัติการตอบโต้ข่าวปลอม​ทันที​ และกำหนดตัวผู้รับผิดชอบการแถลงต่างๆของรัฐที่ชัดเจน​ (แบบเดียวกับศูนย์​ ศบค.)​

กระทรวงดิจิตอล​ต้องจัดทีมเทคนิคตรวจความเคลื่อนไหวการปั่นกระแสผ่านโซเซียลมีเดียจากต่างประเทศ​ และสามารถนำข้อมูลมาเป็นหลักฐานได้ทันที

(6) ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด​

ทั้งนี้จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น สอดคล้องกับกรณีที่หมอธีระ ได้โพสต์ข้อความ เตือนเรื่องสถานการณ์โควิดทั่วโลกและในประเทศไทย ว่าขณะนี้เชื้อไวรัสแพร่เชื้อได้ง่าย รวดเร็ว และยิ่งในพื้นที่คนเยอะ ยิ่งสุ่มเสี่ยง ขนาดที่ว่าคนติดเชื้อที่พบในบ้านเรา ยังวางใจไม่ได้ว่าเชื้อมาจากไหน ในขณะที่ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปมากมายหลายประเทศก็กำลังปั่นป่วนกับการระบาดหนักยังคุมไม่ได้ ปัจจัยสำคัญมาจากการดำเนินชีวิตของประชาชน และการเปิดเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ สายพันธุ์หลักที่ระบาดทั่วโลกขณะนี้คือสายพันธุ์ G ซึ่งมาแทนที่สายพันธุ์ดั้งเดิมจากจีน

มีงานวิจัยที่เคยเล่าให้ฟังไปหลายครั้งแล้วว่า สายพันธุ์ G นี้แพร่เร็วกว่าพันธุ์ดั้งเดิม 4-100 เท่า ล่าสุดมีงานวิจัยเพิ่มเติมที่ศึกษาความเร็วในการแบ่งตัวของไวรัส พบว่าสายพันธุ์ G แบ่งตัวไวกว่าพันธุ์ดั้งเดิมถึง 22% (เพิ่มจำนวนไวกว่าสายพันธุ์เดิม 1.22 เท่า) เราจึงไม่แปลกใจว่า เหตุใดระบาดระลอกสองของหลายประเทศทั่วโลกจึงหนักกว่า เร็วกว่า คุมได้ยากกว่า ใช้เวลานานกว่า และส่งผลกระทบวงกว้าง อย่างไรก็ตามถ้าหากในวันที่ 19- 20 ก.ย. 63 ม็อบมาจำนวนมากเท่าที่คาดการณ์ไว้ และไม่มีการเว้นระยะห่าง ไม่สวมหน้ากากตลอดการชุมนุม ก็น่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างมากในสถานการณ์โควิดที่ยังไม่มีอะไรวางใจและประมาทได้อีก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อาจารย์หมอจุฬาฯ ย้ำไทยเสี่ยงสูง รับไวรัส สายพันธุ์ G เปิดรับนทท.เมื่อไหร่ ไม่รอดเชื้อโควิดรอบ 2