จากกรณีที่ นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำคนสำคัญของม็อบคณะราษฎร ได้โพสต์ข้อความพร้อมแนบภาพหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหา โดยนางสาวปนัสยาได้ระบุข้อความว่า
“เพิ่งได้ข่าวมาว่า การไปรายงานตัวที่สภ.คลองหลวงพรุ่งนี้ พวกเราทุกคนอาจโดนฝากขัง และเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอม ที่เรียนออนไลน์ด้วย เทอมนี้รุ้งมีวิชาที่ต้องเรียน 4 วิชา คือ
ม.310 แนวทฤษฎีวิทยาทางมานุษยวิทยา
สว.313 หลักการวิจัยเชิงคุณภาพ
สว.401 ทฤษฎีทางสังคมวิทยา
สว.413 การวิจัยเชิงสำรวจ
เพื่อน ๆ สังวิทคนไหนที่เรียนวิชาเหล่านี้ด้วยกัน ถ้าพรุ่งนี้เราโดนฝากขังจริง คงต้องขอรบกวนเพื่อน ๆ ทำสรุปเนื้อหามาให้ด้วยนะ เทอมนี้เราไม่อยากถอน ไม่อยากดรอปเลย
และขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไอข้อกล่าวหาข้อ4. เนี่ย ถ้าไม่อยากโดนคนดูหมิ่นก็ช่วยทำตามหน้าที่ของตำรวจค่ะ คือการดูแลประชาชน ให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน ไม่ใช่มัวแต่เลียตีนนาย นายคุณก็เลียพวกเผด็จการอีกทีนึง นะคะ มัน ทุ เรศ
แล้วอีกอย่าง คำที่เอาไว้อ้างว่านายสั่งมาเนี่ย ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้วนะคะ จำใส่สมองไว้ด้วย SHAME ON YOU!”
ล่าสุด ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความถึงนางสาวปนัสยา ระบุว่า
“ผมช่วยสอนน้องรุ้งได้สองวิชา คือหลักการวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงสำรวจ
อีกสองวิชา ผมสอนไม่ได้เลย ทฤษฏีสังคมวิทยา และมานุษยวิทยา ขออภัยที่ช่วยไม่ได้จริงๆ
ผมคิดว่าน้องรุ้งเอาเวลาไปทำการบ้าน อ่านหนังสือจริงๆ เลิกมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองให้พวกนักการเมืองล้มเจ้าเสียเถิด น้องรุ้งยังมีอนาคตที่สดใสได้อยู่
การอ้างว่าติดเรียน คิดว่าศาลก็คงให้ประกันตัว แต่ก็ไม่แน่ เรียนออนไลน์สมัยนี้ ในคุกก็จัดให้ได้ คอมพิวเตอร์ตัวเดียวกับอินเตอร์เน็ต ถ้าทางสถานพินิจหรือทัณฑสถาน ไปชี้แจงที่ศาล และอธิบายยืนยันว่าสามารถจัดห้องเรียนออนไลน์และสอบออนไลน์ให้น้องรุ้งได้จริงๆ น้องรุ้งก็อาจจะต้องไปเรียนในเรือนจำ
เพราะนี่คือการกระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกหลังจากได้รับการประกันตัว ศาลท่านก็ไม่อยากจะบกพร่องในหน้าที่ ว่าปล่อยให้น้องรุ้งกลับมากระทำความผิดมาตรา 112 ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรอกนะ ศาลเองสามารถกำหนดเงื่อนไขประกันตัวในกรณีนี้ของน้องรุ้งได้
ผมไม่รู้หรอกว่าน้องรุ้งจะได้เรียนจนจบไหม แต่ใจก็อยากให้น้องรุ้งได้เรียนและสอบออนไลน์ในคุกให้จบให้ได้ ศาลท่านจะได้ไม่บกพร่องในหน้าที่ด้วย หนูก็จะได้มีเวลาเรียนหนังสือได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องไปโลดแล่นทำม็อบหรือยืนถือป้ายแต่งกายล้อเลียนเจ้านายให้เป็นคดีเพิ่มขึ้นไปเสียอีก
ขยันอ่านหนังสือและทำการบ้านนะคะน้องรุ้ง ให้กำลังใจจริงๆ
บางทีการถูกกักขัง อาจจะทำให้น้องรุ้งตั้งใจและมีเวลา focus ที่การเรียนหนังสือจนสำเร็จปริญญาโดยเร็วก็ได้นะคะ”
อย่างไรก็ตาม หมายเรียกที่ นางสาวปนัสยาได้รับเกิดจากกรณีที่ วันที่ 15 ม.ค.64 นางสาวปนัสยาและพวก รวมถึงกลุ่มคณะราษฎร และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้เดินทางไปยัง ส.ภ.คลองหลวง พร้อมกับนายชยพล ดโนทัย หรือ เดฟ นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ปี 2 คณะรัฐศาสตร์ หนึ่งในสมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา
ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน จำนวน 1 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง มารักษาความสงบ นำโดย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง ซึ่งมีการนำแผงเหล็กมากันพื้นที่ไว้ไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
แต่กลุ่มมวลชนได้ฝ่าแผงกั้นของเจ้าหน้าที่เข้ามาด้านใน โดยมีการนำแพะใส่เสื้อ 112 เดินทางเข้ามาด้วย พร้อมด้วยการ์ดของมวลชน ซึ่งเกิดการปะทะกันเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำธงที่มีรูปภาพ และข้อความว่า ตื่นเถิดตำรวจกล้า ปวงประชาจะคุ้มภัย พร้อมทั้งได้นำแพะ 2 ตัว สวมชุดสีแดง แล้วเขียนเลข 112 ไว้ เข้ามาที่ด้านหน้าโรงพัก และกลุ่มการ์ด Wevo ได้ปลดธงชาติ หน้า สภ.คลองหลวง พร้อมนำผ้าสีแดงข้อความ “ม.112″ ชักขึ้นแทนธงชาติ มีการโรยดอกไม้จันทน์ รอบเสาธง และชูป้ายข้อความลักษณะด่าทอและ ต่อต้าน เพื่อเป็นการ ประจาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรรวจพยายามห้ามปรามและนำผ้าสีแดงลงจากเสาธง ทันที
ทั้งนี้ในหมายเรียกได้ระบุข้อกล่าวหาไว้ 4 ข้อด้วยกันคือ
1.ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในลักษณะมั่วสุดกันหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันได้ง่าย ซึ่งมีประกาศหรือคำสั่งให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด
2.ร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด ในลักษณะที่เสี่ยง
3.ร่วมกันกระทำการหรือดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลัษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป
4.ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่
โดยมีผู้ได้รับหมายเรียกในกรณีเดียวกันอีกหลายราย เช่น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ นายชนินทร์ วงษ์ศรี นางสาวเบนจา อะปัญ และคนอื่นๆ รวม 22 คน