สมบัติ หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง แฉแหลก “การ์ดวีโว่” โชว์พาวปะทะตำรวจหน้าสถานทูตเมียนมา ชำแหละ ใครเป็นเจ้าของม็อบ!?!
จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 อองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ, อู วินมิ่นท์ ประธานาธิบดีเมียนมา และผู้นำคนอื่น ๆ ได้ถูกควบคุมตัวโดยกองทัพเมียนมา ต่อมาได้มีการจับกุม อองซาน ซูจี ในช่วงที่กำลังเกิดความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลพลเรือนกับกองทัพเมียนมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่าอาจเกิดการรัฐประหารโดยกองทัพเพื่อล้มรัฐบาล ทางกองทัพเมียนมา ประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน เสมือนเป็นการยึดอำนาจ แล้ว ตั้ง “รองปธน. Myint Swe” เป็น ประธานาธิบดี คุมอำนาจ 1 ปี
จากนั้นก็ได้มีการเคลื่อนไหวของคนเมียนมาในประเทศไทย โดยมีการชุมนุมที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย ถนนสาทรเหนือ เพื่ออ่านแถลงการณ์แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการทำรัฐประหารในเมียนมา และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางอองซานซูจี ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 โดยทางรัฐบาลประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ควบคุมสูง (สีแดง) ที่ห้ามจัดการรวมตัวใดๆ ที่มีคนจำนวนมาก โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ยานนาวา ดูแลความสงบเรียบร้อย
โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ได้เกิดเหตุปะทะกัน ระหว่างกลุ่มการ์ดวีโว่และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประกาศขอให้ทางกลุ่มยุติ แต่การ์ด wevo ของม็อบราษฎรที่นำโดยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ ไม่ยอมเลิกทั้งยืนกรานจะชุมนุมต่อ จากนั้นทางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน พร้อมโล่และกระบองจึงได้เข้าสลายการชุมนุมม็อบราษฎร โดยตั้งแถวเคลื่อนขบวนมาจาก ถ.ปั้น ทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นระหว่างตำรวจ และกลุ่ม wevo ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้ข้าวของต่างๆ ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ และขณะที่ตำรวจเคลื่อนขบวนบีบเข้ากระชับพื้นที่ ก็เกิดเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน บาดเจ็บ 2 นาย ขณะเดียวกัน ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ชุมนุมได้ 3 คน
ต่อมาทางด้าน นายสมบัติ ทองย้อย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงพฤติกรรมของกลุ่มการ์ด “We Volunteer” หรือ Wevo โดยระบุข้อความว่า
“ใครสร้างเรื่องให้มีการปะทะที่หน้าสถานทูต น่าจะรู้ตัวเองดี ชาวพม่าเขามาเรียกร้องสิทธิ์ และแสดงออกที่ประเทศเขาถูกปฏิวัติรัฐประหาร ก็เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของเขา ควบคุมฝูงชนเข้ามาเพียงเพื่อเข้ามาดูแลความเรียบร้อยไม่ได้มาสลาย เพราะถ้าจะสลายชุดที่จะมาสลาย ต้องเตรียมพร้อมกว่านี้ ไม่ว่าจะหน้ากากกันแก๊ส กระบอง สนับเข่าสนับแขน แต่นี่เขาเดินมามีแค่โล่กับหมวก แล้วก็ไม่รู้กลุ่มไหนไปเขวี้ยงประทัดยักษ์และระเบิดควันใส่ทางเจ้าหน้าที่ก่อน ซึ่งก็ไม่ผิดที่เขาจะปกป้องตัวเอง กรุณาแยกแยะอย่าเข้าข้างพวกตัวเองกันจนเห็นผิดเป็นถูก”
และยังโพสต์อีกว่า คิดแบบชาวบ้านง่ายๆ งานเลี้ยงของเขาไปร่วมงานบ้านเขา แต่เสือกไปตีกันในบ้านเขา โดยไม่เกรงใจเจ้าภาพ กูถามง่ายๆ มึงคิดอะไรกันอยู่ที่ทำแบบนั้นสำนึกมีไหม”
และยังมีการพูดถึงเจ้าของม็อบโดยบอกว่า วันที่เราบอกว่า #ม๊อบมีเจ้าของ #เขาเล่าว่า พวกติ่งทั้งหลายมาด่ากู ทัวร์ลง จนท่าเต็ม หาว่ากูเพ้อเจ้อ อิจฉา หิวแสง อยากมีบท อย่างนี้ อย่างนั้น พอมาวันนี้ทุกคนก็ได้รู้แล้วว่า ม๊อบมีเจ้าของจริงๆ และใครเป็นเจ้าของม๊อบ ใจคอจะไม่มาขอบคุณ หรือขอโทษกูกันบ้างเลยหรือที่มาบอก ใจร้ายฝุดๆ
ล่าสุด (3 กุมภาพันธ์ ) นายสมบัติ ได้ออกมาไลฟ์สดแฉพฤติกรรมของการ์ดวีโว่ที่ออกมาชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมา ว่าก่อเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยที่กลุ่มแรงงานพม่านั้น ได้ทยอยกลับบ้านไปตั้งแต่เกิดเหตุ ซึ่งบอกว่า ไปบ้านเขา ก็ไปตีกันที่หน้าบ้านเขา ทำให้ชาวเมียนมาเดือดร้อน และยังพูดถึงประเด็นของเจ้าของม็อบ โดยบอกว่า พอไทม์ไลน์ผ่านไป ก็รู้แล้วว่าใครเป็นเจ้าของม็อบ ย้อนไปตอนเสื้อแดง เจ้าของม็อบก็คือทักษิณ เพราะเงินเป็นของทักษิณ แต่ตอนนี้ที่มีคนบอกว่าเป็นเจ้าของม็อบ แต่เงินมันเป้นเงินของมวลชนที่บริจาคกันมา แต่ถามว่าม็อบมีเจ้าของมั้ย ก็จริงว่าม็อบมีเจ้าของ แต่คนๆนั้นอุปโลกตัวเองขึ้นมาว่าเป็นเจ้าของม็อบ ทั้งๆที่เงินเป็นคนมวลชน แบบนี้เรียกว่าเคลม แต่ไปหาคำตอบเอาเองว่าใคร
ซึ่งก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ถึงพฤติกรรมของกลุ่มการ์ดวีโว่ที่หึกเหิมจนก่อเหตุปะทะกับตำรวจ เนื่องจากในม็อบครั้งนี้มีนาายธนาธร จึงรถ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้เข้าไปร่วมสังเกตการณ์ในการชุมนุมครั้งนี้ด้วย จึงอยากโชว์ศักยภาพให้นายใหญ่เห็น รวมไปถึงประเด็นของเจ้าของม็อบที่นายสมบัติกล่าวถึงหลายคนก็ตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าของม็อบที่แท้จริงนั้น เป็นใครกันแน่