จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยรายชื่อ ส.ส.ก้าวไกล หลังมีการโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
โดยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่สมาชิกรัฐสภาและผู้ที่เกี่ยวข้องในวงงานรัฐสภา โดยปรากฎชื่อของส.ส.พรรคก้าวไกลและ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ หลายคน จนเกิดข้อวิพากษวิจารณ์อย่างมากมายถึงความย้อนแย้ง
ต่อมา นายศศิพัฒน์ พงษ์ประภาพันธ์ หรือ กาณฑ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง แนวร่วมคณะราษฎร 63 โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า
“นักการเมืองใครได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นเรื่องปกติค่ะ ทุกพรรคได้หมด ทุกประเทศมีเครื่องราช ยิ่งอังกฤษ นักการเมืองคนไหนมีความดีความชอบ ผลงานทำประโยชน์แก่ประชาชน ควีนเอลิซาเบธพระราชทานเครื่องราชชั้นสูง พร้อมสถาปนาบรรดาศักดิ์เป็น “อัศวิน” เลย ผู้ชายมียศนำหน้าเป็น Sir ถ้าเป็นผู้หญิงจะมียศนำหน้าด้วย Dame
แต่กลุ่มการเมืองฝ่ายซ้าย ที่แสดงออกว่าเป็นพวก anti-monarchism ชัดเจนอย่างพรรคก้าวไกล สส.กับทีมงานที่ได้เครื่องราชคือ shame on you น่าอายและน่าสมเพส เพราะเป็นผู้ทรยศต่ออุดมการณ์ พฤติกรรมที่คุณแสดงออกกับมวลชน ปากบอกสู้กับศักดินา แถมยังมาด่าพรรคเพื่อไทยว่าสู้ไปกราบไป แต่สส. พรรคส้มไปสาระแนไปขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เเบบนี้เข้าข่าย “เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลแต่ชอบกินน้ำแกง” ในขณะที่คุณเรียกร้องการปลดแอกจากเผด็จการ คุณกลับไปขอเครื่องราชเพื่อเป็นสายรัดคอแห่งการครอบงำ แบ่งแยกคนไม่เท่ากัน เพิ่มความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น ยอมก้มหัวอเป็นฝุ่นใต้ตีนของผู้มีอำนาจซะเอง
ถ้าจะมาว่าเพื่อไทยขอได้ เสรีรวมไทยขอได้ ทำไมไม่ด่า พรรคฝ่านค้านคนอื่นเขาต้านเผด็จการก็จริง แต่เขาไม่แสดงออกถึงการต่อต้านระบอบกษัตริย์ เขายังยึดตามหลักการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และไม่เคยไปทับถมพรรคคุณสักนิด ไม่ว่าพรรคคุณไม่เคยมีมารยาททางการเมืองขนาดไหนก็ตาม
ถ้าจะมาแถว่า รัฐสภาทำเรื่องให้ฟรี ประชาชนเขาไม่โง่นะ
1.) ตามกฏหมาย ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและอันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฏไทย พ.ศ. 2536 เขียนไว้ชัดเจน ให้สำนักงานส่งเรื่องพร้อมเอกสารประกอบการพิจารณาไปยังสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก่อนวันที่10 พฤศจิกายน ของปีก่อนที่จะเสนอพระราชทาน
2.) ให้นับระยะเวลาถึงวันที่ 29 พฤษภาคมเป็นปีเสนอขอพระราชทาน
3.) 28 กรกฎาคม เป็นวันพระราชทาน
รายชื่อ สส. พรรคก้าวไกลและอดีตพรรคอนาคตใหม่ที่ขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์
มหาวชิรมงกุฏ (ชั้นสายสะพาย- ต้องเข้าวังไปรับ)
1. พลตำรวจตรี สุพิศาล ภักดีนฤนาถ
ประถมาภรณ์มงกุฏไทย (ชั้นสายสะพาย- ต้องเข้าวังไปรับ)
1. นายชำนาญ จันทร์เรือง
2. นายคำพอง เทพาคำ
3. นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์
4. สุรวาท ทองบุญ
5. อภิชาติ ศิริสุนทร
ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก
1. นายเอกถพ เพียรพิเศษ
ทวีติยาภรณ์มงกุฏไทย
1. นายเกษมสันต์ มีทิพย์
2. นายไกลก้อง ไวทยากร
3. นางสาว กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ
4. นายขวัญเลิศ พานิชมาท
5. นายคารม พลพรกลาง
6. นางสาวจารุวรรณ ศรัณย์เกตุ
7. นายจรัล คุ้มไข่น้ำ
8. นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์
9. นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ
10. นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์
11. พ.ต.ต ชวลิต เหล่าหะอุดมพันธุ์
12. นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ
13. นายนิรามาน สุไลมาน
14. นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์
15. นายณัฐวุฒิ บัวประทุม
16. นายทวีศักดิ์ ทักษิณ
17. นายทศพร ทองศิริ
18. นายทองแดง เบญจปัก
19. นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตกร
20. นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์
21. นายปดิพัทธ์ สันติภาดา
22. นายปริญญา ช่วยเกตุศิริรัตน์
23. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์
24. นายพีรเดช คำสมุทร
25. นายมานพ ศิริภูวดล
26. นายวรภพ วิริยะโรจน์
27. นายวาโย อัศวรุ่งเรือง
28. นายวินทร์ สุธีรชัย
29. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร
30. นายวุฒินันท์ บุญชู
31. นายศักดินัย นุ่มหนู
32. นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล
33. นายสมเกียรติ ถนอมศิลป์
34. นายสมชาย ฝั่งชลจิตร
35. นายสุเทพ อู่อ้น
36. นางสาวเยาวลักษณ์ วงศ์ประภารัตน์
37. นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์
38. นางสาวเบญจา แสงจันทร์
39. นางสาววรรณวิภา ไม้สน
40. นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล
41. นางสาวสุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา
นักกิจกรรมที่ล้วนโดน ม.112 เป็นสิบๆแล้ว จะทำอะไร ก็ขอให้ซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ตนเองด้วยนิดนึง
เลือกตั้งท้องถิ่นสอบตกทั้งประเทศ ควรมีเครดิตให้มันน่านับถือหน่อย เราสงสารติ่ง”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดจากการตรวจสอบ พบว่า มีรายชื่อของนายเอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล ในการโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยภรณ์ โดย นายเอกภพ ได้รับพระราชทานเครื่องราชฯชั้นทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ลำดับที่ 5
ทั้งนี้ ความย้อนแย้งอยู่ที่ ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2563 นายเอกชัย ได้เคยวิตข้อความเย้ยหยันพรรคเพื่อไทย ที่ไม่เปิดหน้าโจมตีสถาบันเหมือนพรรคตน โดยข้อความระบุว่า
“กำลังสงสัยว่ามีพรรคการเมือง #สู้ไปกราบไป พรรคหนึ่งกำลังเล่นเกมในสภาเพื่อหวังผลอะไรบางอย่าง ”
ในขณะเดียวกัน การทำเรื่องขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยภรณ์ ในววันที่ 24 กันยายน 2563 ซึ่งผ่านไปเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น น่าตกใจกลับความกลับกลอกพลิกไปพลิกมาภายใน 7 วันของนักการเมืองพรรคนี้จริงๆ!?