พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ “โควิด” ประจำวันที่ 25 ม.ค. 2564 ระบุว่า ผู้ป่วยใหม่วันนี้ 187 ราย
แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 177 ราย (ตรวจพบใน รพ. 61 ราย -ตรวจเชิงรุก 116 ราย) เดินทางจากต่างประเทศ เข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 10 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 13,687 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 95 ราย สะสม 10,662 ราย เสียชีวิตเพิ่มเติม 2 ราย สะสม 75 ราย
สถานการณ์ทั่วโลก 99,768,218 ราย อันดับแรกยังเป็นสหรัฐฯ เสียชีวิตทั่วโลก 2,138,942 ราย หรือประมาณ 2.1% ส่วนสถานการณ์ในเอเซีย อินเดียนับว่ามีผู้ป่วยเยอะเป็นลำดับแรก
สำหรับผู้เสียชีวิต 2 รายวันนี้ ได้แก่
– ชายชาวอังกฤษ 61 ปี เดินทางมาจากอังกฤษ วันที่ 14 ธ.ค. วันที่ 28 ธ.ค. ปวดกล้ามเนื้อ และพบว่า โควิดเป็นบวก 30 ธ.ค. เหนื่อยหอบ ระยะแรก ปฏิเสธการใช้เครื่องช่วยหายใจ อาการแย่ลง และใส่เครื่องช่วยหายใจ วันที่ 9 ม.ค. และเสียชีวิตลง วันที่ 24 ม.ค.
– หญิงชาวสมุทรสาคร อายุ 56 ปี มีโรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคประจำตัว ไม่ได้สัมผัสพื้นที่เสี่ยง ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ที่บ้าน แต่สามีสัมผัสคนส่งปลาที่ตลาด วันที่ 21 ม.ค. เริ่มแน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยหอบ ระหว่างนั้นได้พาตัวส่งโรงพยาบาล ทีมแพทย์เตรียมพร้อมทำการรักษาใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่พบว่าหัวใจหยุดเต้น ไม่ตอบสนองการรักษา เสียชีวิต วันที่ 21 ม.ค. แพทย์สงสัยว่าติดเชื้อโควิด จึงส่งตรวจอีกครั้ง ผลตรวจวันที่ 24 ม.ค. ว่า ติดเชื้อโควิด
ทั้งนี้พญ.อภิสมัย ได้ตอบข้อซักถามถึงกรณีที่ผู้ปกครองหลายคน ขอความชัดเจนเรื่องวันเปิดเรียนของเด็กนักเรียนจะสามารถเปิดได้ในวันที่ 30 ม.ค.หรือไม่นั้น เรื่องสถานศึกษาเป็นประเด็นฮอตฮิตที่สุดของพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งหลายคนจะเห็นว่ามีความเห็นที่แตกต่างกัน เนื่องจากหลายคนมีความเป็นห่วงเรื่องการติดเชื้อ เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่นิ่ง จึงเห็นว่าควรปิดไปก่อนอย่าเพิ่งเปิด เพราะกลัวว่าเด็กจะไปติดเชื้อจากโรงเรียนหรือสถานศึกษา
ขณะที่หลายคนบอกว่าการเรียนออนไลน์นั้น เป็นความยากลำบาก เพราะพ่อแม่จะต้องทำงานไม่สามารถดูแลบุตรหลานให้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งศบค.รับทุกความเห็นมาพิจารณาโดยใช้ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขและพื้นที่เป็นหลัก ขณะเดียวกันทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อประชุมหารือมาตรการที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ในส่วนแต่ละสถานศึกษา
ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือสถาบันอุดมศึกษานั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปขอให้ติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด เนื่องจากเชื่อว่าตัวเลขเฝ้าระวัง หากตัวเลขยังอยู่ในเกณฑ์ที่คาดการณ์หรือไม่มากไปกว่านี้ ก็จะสามารถเปิดสถานศึกษาได้ในเร็ววัน แต่จะต้องเปิดไม่พร้อมกัน เพราะบางพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงอาจจะต้องรอช้าหน่อย แต่พื้นที่ ที่เป็นสีเขียวอาจจะมีข่าวดีในช่วงนี้ ขอให้ติดตามการรายงานอย่างกระชั้นชิดทุกวัน
ในส่วนของการตรวจเชิงรุก และมาตรการทั่วประเทศ และโดยเฉพาะจ.สมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค. จะเห็นการระดมกำลัง คัดกรองเชิงรุก ในสถานประกอบการ หอพัก ตลาด ซึ่งจะขอกำลังแพทย์ทหารเข้ามาช่วยเพิ่มเติมจากเดิมด้วย การค้นหาผู้ติดเชื้อจะทำให้ได้วันละ 1 หมื่นราย ทำให้จะพบการติดเชื้อค่อนข้างสูง ในบ่ายนี้ อาจจะได้เห็น ตัวเลขเพิ่มไปถึง 800 กว่าราย ขอให้ติดตามตัวเลขอย่างใกล้ชิด ซึ่งตัวเลข ศบค.จะตัดเลข เที่ยงคืน แต่จังหวัด จะมีตัวเลขที่อัพเดทยิ่งขึ้น แต่หลังจากนี้จะปรับตัวเลขให้เป็นตัวเลขเดียวกัน เพื่อให้การกำหนดมาตรการดีที่สุด
อย่างไรก็มีการอัพเดทความคืบหน้า เรื่องการป่วยของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่ติดเชื้อโควิด-19 และรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช จนเชื้อหมดไปจากร่างกายแล้ว แต่อาการยังทรง ๆ ทรุด ๆ โดยแพทย์ระบุว่า ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปอดเสียหายและติดเชื้อที่ปอด อีกทั้งยังมีโรคประจำตัวด้วย ซึ่งทีมแพทย์เผยถึงหนึ่งในแนวทางรักษา อาจใช้วิธีปลูกถ่ายปอด
โดย “น้ำหวาน” ลูกสาวของนายวีระศักดิ์ ได้เปิดเผยอาการล่าสุดของพ่อ ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ปัจจุบันนี้คณะแพทย์อยู่ระหว่างการประเมินว่าจะทำการรักษาบิดาด้วยวิธีใด ซึ่ง “การปลูกถ่ายปอด” เป็นหนึ่งในหลายวิธีรักษาที่แพทย์เสนอไว้เป็นทางเลือก หากมีข้อสรุปอย่างไร ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จะเป็นผู้แถลงผ่านสื่อมวลชน ทั้งนี้ได้จัดทำไลน์แอดของบิดาไว้ให้ร่วมส่งกำลังใจ แทนการเดินทางมาโรงพยาบาล
“จากที่ช่วงนี้มีข่าวเรื่องการปลูกถ่ายปอด ทำให้หลายท่านติดต่อเข้ามา เพื่อสอบถามอาการของคุณพ่อ จึงขอแจ้งเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจสถานการณ์และไม่วิตกกังวลจนเกินไปว่า อาการของคุณพ่อตอนนี้ยังคงอยู่ระหว่างการประเมินของคณะแพทย์ว่าจะใช้วิธีการรักษาต่อไปแบบไหน โดยการปลูกถ่ายปอดเป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีรักษาที่คุณหมอได้เสนอเป็นทางเลือกไว้ หากได้ข้อสรุปหรือมีความคืบหน้าอย่างไร อาจารย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา จะเป็นผู้แถลงผ่านทางพี่ ๆ สื่อมวลชน ให้ทราบกันอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผู้ที่สอบถามเข้ามาถึงการมาเยี่ยม หรือนำแจกันดอกไม้ หรือสิ่งของอื่นๆ มามอบให้กำลังใจคุณพ่อ ต้องขอเรียนให้ทราบว่า คุณพ่อรักษาตัวอยู่ในวอร์ดสำหรับผู้ป่วยโควิดที่อาการวิกฤต คุณหมอจึงไม่ได้อนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมเลย (รวมถึงตัวหวานเองด้วย) และไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับอาการ รวมถึงไม่สามารถนำของเยี่ยมเข้าไปภายในห้องได้
เบื้องต้นทางโรงพยาบาลจึงได้จัดสมุดลงนามไว้ ที่อาคาร 84 ปี ส่วนของเยี่ยมทั้งหมด หวานจะนำกลับไปที่บ้าน เนื่องจากตอนนี้ยังคงอยู่ในช่วงของการควบคุมโรค ด้วยความเป็นห่วงสวัสดิภาพของทุกท่าน ว่าจะต้องเดินทางเพื่อมาเยี่ยมถึงโรงพยาบาล และทำให้ท่านมีความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น หวานจึงได้จัดทำเป็น line@ เพื่อให้ทุกท่านได้ส่งกำลังใจถึงคุณพ่อผ่านช่องทางออนไลน์นี้ แทนการเดินทางมาโรงพยาบาล ท่านจะได้ไม่ต้องเดินทางออกจากบ้าน หรือเดินทางข้ามจังหวัด หรือส่งข้อความไปยังไลน์ส่วนตัวคุณพ่อ และถ้าคุณพ่ออาการดีขึ้น จะรวบรวมให้คุณพ่อได้รับทราบถึงความห่วงใยจากทุกท่านต่อไป ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และขอให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านค่ะ