ดร.ธรณ์เล่าครั้งเจอกรมสมเด็จพระเทพฯ ยังมีเด็กกี่หมื่นแสนเติบโต หากปราศจากพระองค์

3696

จากที่ในวันนี้ 25 มกราคม 2564 เฟซบุ๊ก เรารักกรมสมเด็จพระเทพรัตนฯ Our Beloved HRH Princess Maha Chakri Sirindhorn ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุเป็นเรื่องเล่าอันทรงคุณค่าจาก อาจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ซึ่งเรื่องราวนี้มีคุณค่าต่อจิตใจพสกนิกรไทยเป็นอย่างยิ่ง

“ผมอยากเล่าเรื่องหนึ่งให้เพื่อนธรณ์ฟัง เรื่องของนิสิตในมุมมืด นานแสนนานมาแล้ว ผมยืนตาละห้อยอยู่หน้าโปสเตอร์ที่อดนอนทำมาหลายคืน เพื่อนำเสนอผลงานด้านรีโมทเซนซิ่งในแนวปะการังและแหล่งหญ้าทะเลเป็นครั้งแรกของประเทศไทย น่าเสียดาย แทบไม่มีใครสนใจเลย

ในยุคนั้นเพิ่งเป็นช่วงแรกของการศึกษาแนวปะการัง ยังไม่มีคนสนใจทะเลมากมายเท่ายุคนี้ ยิ่งไม่มีใครคิดว่าดาวเทียมกับปะการังเกี่ยวข้องกันได้

คนมาประชุมส่วนใหญ่เป็นนักภูมิศาสตร์ บ้างก็เป็นนักวิชาการด้านดาวเทียม เขาต่างพูดคุยกันเอง ผมจึงยืนตาละห้อยต่อไป ตราบจน…

คนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินมา เหล่านักวิชาการรีบหลบออกด้านข้าง ปรากฏร่างเจ้าหญิงองค์หนึ่ง ในมือพระองค์ท่านคือสมุดเล่มใหญ่ ใช้บันทึกข้อมูลที่พระองค์ท่านถามไถ่นักวิชาการผู้ทรงวุฒิ

พระองค์เดินบ้างหยุดบ้าง สายตากวาดดูโปสเตอร์วิชาการ ทรงถามผู้วิจัยเป็นระยะ จนมาใกล้มุมอับสุดของงาน เลยจากประตูทางออกมาแล้ว ท่านกลับไม่เสด็จออก แต่เดินตรงมาจนสุดแถวโปสเตอร์ ตรงมาที่นิสิตคนหนึ่งผู้ยืนอยู่ด้วยความงง

เจ้าหญิงองค์นั้นมองดูโปสเตอร์ ก่อนเอ่ยคำที่นิสิตผู้นั้นไม่ลืมตลอดชีวิต “น่าสนใจ อธิบายมาเลย ไม่ต้องสนใจภาษา”

สิบนาทีต่อจากนั้น เหมือนเป็นความฝันล่องลอย ผมจำไม่ได้หรอกว่าพูดอะไรบ้าง แต่จะจำและจำไปตลอดชีวิตว่ามีโอกาสบรรยายให้พระองค์ฟัง บรรยายสิ่งที่ไม่มีใครสนใจในวันนั้น แต่เจ้าหญิงองค์นั้นสนใจและสนใจจริง

อีกหนึ่งปีให้หลัง ผมมีโอกาสช่วยกับอาจารย์อีกหลายท่าน ทำหนังสือรีโมทเซนซิ่งและสมุทรศาสตร์ เล่มแรกของประเทศไทย โดยรับสั่งของพระองค์ท่าน

อีก 30 ปีให้หลัง พระองค์เสด็จมาที่บูทในงานหนังสือ ก่อนหยิบ 101ปลาทะเลไทย ไปอ่านอย่างสนพระทัย เวลาเรากล่าว “ถวายพระพรแด่องค์สมเด็จพระเทพ ฯ” เรารู้สึกตื้นตัน รู้สึกขอบคุณเรื่องราวมากมายที่พระองค์ทรงทำให้ประเทศไทย

ผมรู้สึกเช่นนั้นและมากกว่านั้น ผมคิดถึงมุมมืดในโรงแรมแห่งหนึ่งกับนิสิตผู้ไม่มีใครสนใจ คิดถึงเวลา 5 ปีกับการทำหนังสือปลาที่คงขายไม่ได้มากมายหรอก

ผมน้ำตาคลอ บางทีถึงต้องปาดออก เพราะผมตระหนักดีว่า หากปราศจากพระองค์ในวันนั้น เด็กคนหนึ่งอาจถอดใจไปแล้วตั้งแต่แรก หากปราศจากพระองค์ท่านในวันนี้ ผู้ชายคนหนึ่งคงไม่คิดอยากทำอะไรให้มากมายไปกว่าการใช้ชีวิตไปวันๆ

ยังมีกี่หมื่นกี่แสนเด็กที่เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้ ด้วยความระลึกถึงความทรงจำครั้งหนึ่งกับพระเทพ ฯ  เจ้าหญิงผู้เป็นที่รักยิ่ง จึงมีความหมาย จึงมีที่มาที่ไปอย่างน้อยก็ในใจของผู้ชายคนนี้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ข้ากระหม่อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ช่วยข้ากระหม่อมสามารถตั้งใจใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564  สำนักพระราชวัง ได้ออกแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระประชวร ฉบับที่ 3 มีเนื้อหาดังนี้ ตามที่สํานักพระราชวังมีแถลงการณ์เกี่ยวกับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดําเนินไปประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อทรงรับการผ่าตัดรักษาข้อพระบาททั้งสองข้าง เป็นที่ทราบโดยทั่วแล้วนั้น

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา ได้รายงานว่า การผ่าตัดข้อพระบาทเมื่อวันที่ 20 มกราคม พุทธศักราช 2564 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลังการผ่าตัด ทรงฟื้นพระองค์ดี ผลการผ่าตัด เป็นที่น่าพอใจของคณะแพทย์ฯ ทั้งนี้ คณะแพทย์ฯได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานให้ประทับพักฟื้น ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยเพื่อติดตามผลการรักษาต่อไปอีกระยะหนึ่ง