จากกรณีที่มีการแชร์อย่างมากมายในโซเชียลฯ เมื่อ “พิมรี่พาย” แม่ค้าสาวขายของออนไลน์ ทั้งยังเป็นยูทูปเบอร์ชื่อดัง ได้เดินทางไปที่หมู่บ้านแม่เกิบ ตั้งอยู่ที่ ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่
เพื่อนำข้าวของต่าง ๆ ไปมอบให้เด็ก ๆ และคนในหมู่บ้าน ในวันเด็กปี 2564 โดย พิมรี่พายใช้เงินทั้งหมดประมาณ 5 แสนกว่าบาท ทำโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้า พร้อมกับซื้อทีวี เครื่องอุปโภคบริโภค รองเท้าให้เด็ก อุปกรณ์สร้างแปลงผักเพื่อให้ชาวบ้าน โดยเธอบอกว่ายอมจ่ายเดี๋ยวจะกลับไปขายของหารายได้เอง
โดยวันที่ทำกิจกรรมดังกล่าวนั้น มีครูเจตน์ สทธิคุณ เป็นครูประจำที่สอนอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ และได้เล่าว่าที่หมู่บ้านเด็กประมาณ 40 คน เด็กไม่มีความฝันเพราะมองภาพอะไรไม่ออก ทั้งหมู่บ้านไม่มีใครเรียนจบ ม.ต้นเลยสักคน พวกเขาจินตนาการไม่ออกว่า ถ้าได้เรียนต่อแล้วมันจะเป็นยังไงต่อ ที่นี่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีทีวีที่สามารถเผยแพร่ให้เด็ก ๆ ดูได้ และการมาทำกิจกรรมของพิมรี่พายในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโลกให้เด็ก ๆ
ต่อมา เรื่องราวดังกล่าวเกิดดราม่าขึ้นจนได้ เมื่อในโลกโซเชียลฯ และก็มีสาวกกลุ่มปลดแอก โหนการทำจิตอาสาของพิมรี่พายไปเปรียบเทียบ เพื่อโจมตีโครงการพระราชดำริของในหลวง ร.9 ที่ทำให้ชาวเขา โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Beam Akapol ที่โพสต์ข้อความถึงกรณีของพิมรี่พาย โดยระบุข้อความว่า
“พิมรี่พายขึ้นดอยครั้งเดียวเด็กมีไฟฟ้าใช้ แต่…ขึ้นดอยมา 70 ปี ….//ไม่พูดดีกว่า”
ซึ่งทางพิมรี่พายก็ได้ออกมาไลฟ์สดเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนยึดหลักกตัญญูต่อแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอน มั่นใจว่าไม่ได้ทำความผิด อยากทำความดี มองโลกใหม่ ไม่ทำคอนเทนต์บ้าๆบอๆ เหมือนแต่ก่อนแล้ว อยากทำความดีสู่สังคม ตนผิดอะไร ถ้าจะผิดโทษตัวเอง กราบขอโทษทุกท่าน เรื่องนี้ผิดที่ตนบกพร่อง ไม่ได้ประสานเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ล่วงหน้า ขออภัยจริงๆ
และมีการพูดถึงประเด็นดราม่าที่มีการพูดถึงเป็นจำนวนมากว่า “อีกเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้เลย จะดราม่าอะไรกันนักหนา เอากูไปโยงทำไม เอากูไปเป็นเครื่องมือความสนุกของพวกมึงทะเลาะกัน โยงอะไรกันนักหนา”
ล่าสุดทางด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีของพิมรี่พายที่ได้ทำดีเพื่อช่วยเหลือสังคม แต่ถูกสาวกปลดแอกเอากิจกรรมของพิมรี่พายไปโยงเพื่อโจมตีสถาบัน โดยระบุข้อความว่า
ผมอยู่ต่างประเทศกับน้องสาว (นายกฯปู) ก็อยู่ค่อนข้างว่างมีงานไม่มาก เรามาปรึกษากันว่าวันนี้ฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายค้านเราไม่มีโอกาสแชร์ประสบการณ์และความรู้ในการแก้ปัญหาประเทศได้ ก็เลยคิดว่าน่าจะช่วยคิดแก้ปัญหาระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะเชียงใหม่บ้านเกิดของเราที่เรารู้ปัญหามากที่สุดได้ เลยต้องรีบเขียนจดหมายมาฝากผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่เบอร์ 1 พิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก้อง) เพื่อผมจะได้ใช้สมองซึ่งยังใช้การได้ดีอยู่ร่วมกับน้องสาวแนะนำการแก้ปัญหาของชาวเชียงใหม่ผ่านก้องไป ผมก็จะรู้สึกดีว่าได้ใช้เวลาว่างอยู่ต่างประเทศบวกกับประสบการณ์ที่ได้เห็นอะไรมากมายในต่างประเทศมาช่วยคนที่อยู่จังหวัดบ้านเกิดของเราได้
อยากให้ท่านนึกถึงตอนสมัยไทยรักไทย เชียงใหม่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สวยงาม มีเศรษฐกิจดี พืชผลเกษตรมีราคาดี คนค้าขายทุกระดับค้าง่ายขายคล่อง ยาเสพติดก็หมดไป สิ่งดีๆเหล่านี้ต้องกลับมาสู่เชียงใหม่โดยเร็ว ถ้าเรามีช่องทางเสนอความคิดให้นายกอบจ.เชียงใหม่ โดยเฉพาะให้ก้อง นำไปทำเพื่อรับใช้ชาวเชียงใหม่ก็ถือว่าเราได้ช่วยพี่น้องชาวเชียงใหม่บ้านเกิดของเราแล้ว
ผมขอฝากตวยเน่อ ถ้ายัง บ่าลืมเฮาตึงสองคนเตื่อ ขอได้โปรดเลือก พิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก้อง) เบอร์ 1 ฮื้อกำเน่อ กึ๊ดเติงหาเจียงใหม่บ้านเฮาขนาดครับ
ซึ่งเป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดพื้นที่ห่างไกลในจังหวัดเชียงใหม่ ถึงไม่ได้รับการพัฒนา ตั้งแต่สมัยที่ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ เป็นรัฐบาล ทั้งๆที่จ.เชียงใหม่นั้น เป็นบ้านเกิด เป็นพื้นที่ของตัวเองแท้ๆ และยังมีการบอกอีกว่า เชียงใหม่บ้านเกิดของเราที่เรารู้ปัญหามากที่สุดได้ ให้ย้อนไปตอนสมัยไทยรักไทย ที่บอกว่า เชียงใหม่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สวยงาม มีเศรษฐกิจดี พืชผลเกษตรมีราคาดี คนค้าขายทุกระดับค้าง่ายขายคล่อง ยาเสพติดก็หมดไป แต่ทำไมพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ ทำไมถึงไม่ไปดูแล