หมอเหรียญฯ คารวะพสกนิกรผู้จงรักภักดี รวมใจโต้พวกหมิ่นพระเกียรติ ทำความจริงประจักษ์โลก

2519

เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จากพวกที่จาบจ้วงอยู่เสมอ สำหรับ พลตรีนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และผู้ก่อตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน

โดยก่อนหน้านั้น นายแพทย์เหรียญทอง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์ที่นายแพทย์หนุ่มคนหนึ่งซึ่งมีการเผยแพร่อยู่ในโลกออนไลน์ ว่าลบหลู่หมิ่นพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9

เนื้อหาคร่าว ๆ ที่หมอเหรียญทอง โพสต์ไว้มีอยู่ว่า นายแพทย์ ศราวิน ทองรอง แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน สำเร็จการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้โพสต์ข้อความวิวาทะในโลกออนไลน์ด้วยการใช้สรรพนามลบหลู่พระเกียรติยศพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ โรงพยาบาลใดที่รับนายแพทย์คนนี้ทำงานไม่ว่าจะ Full Time หรือ Part Time ขอให้เลิกจ้างมันเสียโดยเร็ว มิฉะนั้นผมจะดำเนินมาตรการทางสังคมต่อต้าน โรงพยาบาลต้นสังกัดอริราชศัตรูคราบเสื้อกาวน์ตัวนี้อย่างรุนแรง

ไม่เพียงเท่านั้น จากกรณีที่กำลังเป็นกระแสดราม่าอยู่ในขณะนี้ สำหรับประเด็น พิมรี่พาย พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ แม่ค้าออนไลน์และยูทูปเบอร์ชื่อดัง เดินทางไปที่ หมู่บ้านแม่เกิบ ต.นาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านและเด็ก ๆ ซึ่ง พิมรี่พาย ก็ได้ทุ่มเงินของตัวเองกว่า 5 แสนบาท ในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาส

โดยวันที่ทำกิจกรรมดังกล่าวนั้น มีครูเจตน์ สทธิคุณ เป็นครูประจำที่สอนอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ และได้เล่าว่าที่หมู่บ้านเด็กประมาณ 40 คน เด็กไม่มีความฝันเพราะมองภาพอะไรไม่ออก ทั้งหมู่บ้านไม่มีใครเรียนจบ ม.ต้นเลยสักคน พวกเขาจินตนาการไม่ออกว่า ถ้าได้เรียนต่อแล้วมันจะเป็นยังไงต่อ ที่นี่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีทีวีที่สามารถเผยแพร่ให้เด็ก ๆ ดูได้ และการมาทำกิจกรรมของพิมรี่พายในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโลกให้เด็ก ๆ จนเกิดเสียงชื่นชมจำนวนมากนั้น

ต่อมาก็มี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Beam Akapol ที่โพสต์ข้อความถึงกรณีของพิมรี่พาย โดยระบุข้อความว่า “พิมรี่พายขึ้นดอยครั้งเดียวเด็กมีไฟฟ้าใช้ แต่…ขึ้นดอยมา 70 ปี ….//ไม่พูดดีกว่า”

ทำให้ นายแพทย์เหรียญทอง ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว และจี้ไปยังองปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ และ ผบ.หน่วยตำรวจปราบปรามความผิดทางไซเบอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เอาผิดกับผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า เรียน ผู้บังคับบัญชา กองปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ และ/หรือ ผบ.หน่วยตำรวจปราบปรามความผิดทางไซเบอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า บุคคลผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า Beam Akapol ได้กระทำการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างท้าทาย ความผิดซึ่งหน้าเช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ประชาชนแจ้งความดำเนินคดีหรอกนะครับ ปล่อยปละละเลย ไม่ดำเนินการอย่างนี้มันใช้ไม่ได้…บนอินทรธนูข้างขวาของท่าน ประทับความเป็นราชองครักษ์ด้วยพระปรมาภิไธยย่อไว้ ไม่สำนึกกันบ้างหรืออย่างไร …ทำไมไม่บังคับใช้กฎหมายล่ะครับ เพิกเฉยอย่างนี้ ใช้ไม่ได้ครับ

ล่าสุด บนเฟซบุ๊กของ นายแพทย์เหรียญทอง ได้โพสต์ข้อความอีกว่า ผมขอคารวะและชื่นชมพสกนิกรผู้จงรักภักดีที่โต้ตอบขบวนการอริราชศัตรูอย่างถึงพริกถึงขิง ท่านทั้งหลายสมควรอย่างยิ่งแล้วครับที่จะได้รับการยกย่องให้เป็น ‘พลังแผ่นดิน’ ซึ่งคือความหมายของพระนาม ‘ภูมิพล’…ผมขอคารวะทุกท่านอย่างสูงยิ่งไว้ ณ ที่นี้ครับ

สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย คือ ความมั่นคงของชาติ หากล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยได้ การรบราฆ่าฟันของคนในชาติจะเกิดขึ้น ผมก็จะเป็นคนหนึ่งที่เข้าร่วมรบราฆ่าฟันด้วย เพราะผมจะปกป้องไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอันเป็นความมั่นคงของชาติด้วยชีวิตเช่นกัน

หากสถานการณ์ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเกิดขึ้น การสูญเสียอย่างใหญ่หลวงของคนในชาติ ในครอบครัว คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อกองทัพต้องเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยก็จะถูกขบวนการอริราชศัตรูกล่าวหาว่ายึดอำนาจรัฐประหาร แต่กลับเรียกร้องให้ต่างชาติแทรกแซงยึดอำนาจเสียเอง…การยึดอำนาจโดยต่างชาติ คือ การยึดเอกราชและอธิปไตยของชาติไทยครับ ยิ่งกว่าการรัฐประหารเสียอีก แต่เป็นการสิ้นชาติครับ

ผมเป็นทหาร แม้จะลาออกจากกองทัพมานานกว่า 13 ปีแล้ว แม้จะอายุ 60 แล้ว แต่ผมยังคงมีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งเอกราชและอธิปไตย ความเป็นทหารของผมไม่มีวันตาย โดยเฉพาะคำถวายสัตย์ปฎิญาณตนที่ได้ถวายต่อจอมทัพภูมิพลมหาราชที่ยังคงธำรงรักษาคำสัตย์ปฏิญาณตนนั้นไว้สู่องค์จอมทัพมหาวชิราลงกรณ์ในรัชกาลปัจจุบัน

ความเป็นทหารของผม ถึงแม้จะไม่ใช่ทหารที่มีกำเนิดมาจาก รร.นายร้อย ไม่ใช่เหล่ารบ เป็นแค่เหล่าช่วยรบ แม้จะไม่เคยเป็นราชองครักษ์ ไม่เคยเป็นทหารรักษาพระองค์ ไม่เคยตามเสด็จฯ ไม่เคยถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท และไม่ใช่บุคคลที่พระเจ้าแผ่นดินหรือพระบรมวงศานุวงศ์จะทรงรู้จัก แต่หน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และการรักษาสัจจะวาจาของผมที่มีต่อคำสัตย์ปฏิญาณตนนั้นต่อองค์จอมทัพของผมนั้นสมบูรณ์ครบถ้วนด้วยชีวิต เลือด เนื้อ ด้วยจิตวิญญาณทหารของผมที่ไม่มีวันด้อยไปกว่าผู้ใด ขอคารวะพสกนิกรผู้ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสูงยิ่งครับ