พวกสามกีบมักเป็นเช่นนี้!! “กนก” เห็นใจพ่อแม่ หนุ่มวิศวะ สู้เลี้ยงลูกมา แต่โตขึ้นกลับเหลือแค่ 3 นิ้ว โซเชียลยกย่อง คู่แฝด “ยืน-ยง” ผู้มีคุณูปการแห่งสังคมไทย

2171

สืบเนื่องจากกรณีที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) โดยพล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ดำเนินการติดตาม กรณีมือดี แก้ไขข้อมูลส่วนตัวของ นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ บนเว็บไซต์วิกิพีเดีย ใส่ร้ายว่าเป็นเซลส์ขายวัคซีนซิโนแวค

เหตุดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก กรณี นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ ได้มอบอำนาจให้ นางโศรยา ประสิทธิ์สมสกุล เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน หลังมีบุคคลแก้ไข้เพิ่มเติมข้อมูลของนายแพทย์ ยงฯ บนเว็บไซต์วีกิพีเดีย ว่า “เป็นเซลส์ขาย Sinovac ให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา”

ถือการนำข้อมูลที่เป็นเท็จมาเผยแพร่ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ก่อให้เกิดความเสียหายกับนายแพทย์ยง ฯ นั้น ซึ่งจากการสืบสวน ตรวจสอบ วิเคราะห์ หาตัวผู้กระทำความผิดจากข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศ ปรากฏพบข้อมูลของผู้ที่ก่อเหตุ ภายในบ้านพักอาศัย ในแขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร

ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ก.ค.64 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.1 จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นบ้านพักอาศัยหลังดังกล่าว พบโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการก่อเหตุและผู้ที่ก่อเหตุ เป็นชาย อายุ 24 ปี ทราบว่าเพิ่งจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ยังไม่ประกอบอาชีพ

ล่าสุดทางด้านนายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรรายการข่าวชื่อดัง TOPNEWS ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul Fan Page ระบุถึงประเด็นนี้ว่า หนุ่มเพิ่งจบวิศวะ วัย 24 ที่เข้าไปแก้ข้อมูล “หมอยง” จนถูกตำรวจจับ ยังมีหน้าชู 3 นิ้ว จนแม่ต้องปราม “ลูกยังไม่เลิกอีกเหรอ อยากให้มันมีปัญหามากกว่านี้ใช่ไหม”

พวก 3 กีบ มักเป็นเช่นนี้ คิดว่าตัวเองทำอะไรก็ได้ เพราะต้องการปลดปล่อยประเทศ โดนใช้คำปฏิรูปบังหน้า พวกนี้พร้อมละเมิดกฎหมาย เพราะคิดว่ากฎหมายล้าสมัย เราจึงเห็นบางคนไปก้าวล่วงอำนาจศาล เมื่อถูกดำเนินคดี จะอ้างว่า ถูกรังแก..ไม่ได้รับความเป็นธรรม ได้แต่เห็นใจพ่อแม่ ต้องเห็นลูกที่ตัวเองเลี้ยงมา เติบโตขึ้น เหลือนิ้วแค่ 3 นิ้ว

ขณะที่ในบัญชีเฟซบุ๊กของ “อาจารย์ป้า วรรณรัตน์” ได้โพสต์รูปภาพรองศาสตราจารย์ ยืน ภู่วรวรรณ และศาสตราจารย์ นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ พร้อมข้อความ โดยมีรายละเอียดดังนี้
“คู่แฝดยืน-ยง ผู้มีคุณูปการแห่งสังคมไทย”

รองศาสตราจารย์ยืน ภู่วรวรรณ และศาสตราจารย์ นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ

ตั้งแต่จำได้เห็นท่านทั้งสองทำงานมาอย่างทุ่มเทในงานตลอดชีวิต เกษียณอายุราชการมาแล้วสิบปีก็ยังคงทำงานเพื่อประเทศชาติ ในยามยากที่ต้องให้กำลังใจผู้สูงวัยทั้งชีวิตมีแต่ให้ ไม่ได้หวังเงินทอง ตำแหน่ง ลาภยศ สรรเสริญ คนแก่อายุ 70 กว่า ที่ทำงานงก ๆ เพื่อคนไทยทั้งชาติ ต้องอดทนอดกลั้นต่อคำด่าไร้เหตุผลของเด็กเอาแต่ใจ ถึงกับไปแก้ไขประวัติในวิกีพีเดีย อย่างไม่เกรงกลัวความผิด ไม่มีความยำเกรงกฎหมาย ไร้ซึ่งความเคารพ

แต่วันนี้ขออนุญาตพูดถึงอาจารย์ผู้เป็นปรมาจารย์ของข้าพเจ้า คือท่านอาจารย์ยืน ภู่วรวรรณ ทำไมน่ะหรือ ประการแรกท่านเป็นผู้เขียนตำรา ที่ใช้ในการเรียนช่างเล่มแรกของข้าพเจ้าในปี 2526 คือหนังสือ ทฤษฎีและการใช้งานอิเล็กทรอนิกส์ เล่ม 1 -2 -3 ครอบคลุมทุกรายวิชาตั้งแต่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น ไปจนถึง การวิเคราะห์วงจรทรานซิสเตอร์ และการประยุกต์ใช้งานวงจรอิเล็กทรอนิกส์ จนเมื่อคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในการเรียนการสอน ท่านทำงานไปด้วยเขียนหนังสือไปด้วยเพื่อให้เป็นวิทยาทานในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไมโครโปรเซสเซอร์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ จนถึงยุคอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาท การประยุกต์ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ท่านก็ยังยืนหนึ่ง ในฐานะผู้อำนวยการสำนักบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน สร้างลูกศิษย์เก่ง ๆ คอมพิวเตอร์มากมาย มีความประทับใจท่าน

ประการที่สอง ในปี 2545 ได้ติดต่อขอพบเพื่อเรียนเชิญท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิตรวจเครื่องมือวิจัย ระดับปริญญาโทให้ ท่านน่ารักมากให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เมื่อไปพบอีกครั้งท่านได้ให้คำแนะนำด้วยตัวเองในทุกๆข้อ ใครบอกว่าบุคคลมีตำแหน่งสูงมักพบยากและไม่ค่อยให้ความร่วมมือ บางทีโยนให้หน้าห้องจัดการเสียด้วยซ้ำ เพราะนักศึกษาอย่างเราไปพบไม่มีค่าตอบแทน แถมทำท่านเสียเวลาอีก แต่สำหรับท่านกลับมีความเมตตาสูง

น้อยคนนักที่มีความรู้ดีทำงานเก่งแล้วสามารถถ่ายทอดความรู้ให้คนอื่นเข้าใจได้ นับว่านักศึกษาอย่างเราๆ(ขนาดต่างสถาบัน)ในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสารเหมือนกัน แต่เราไม่ได้สักเศษเสี้ยวที่อาจารย์มี อย่างน้อยก็มีความโชคดีที่ได้เข้าพบและได้รับความช่วยเหลือจากท่านอาจารย์ยืน ภู่วรวรรณ

ยืน-ยง ภู่วรวรรณ
ผู้มีความเป็นนักวิชาการ
ผู้มีความเป็นปราชญ์
ผู้มีความเป็นผู้ทรงธรรม
ผู้มีความเลิศล้ำ
ผู้เสียสละและทุ่มเท
ผู้ที่ทุกคนกราบได้อย่างสนิทใจ
อยากให้เมืองไทยมีคนเช่นนี้เยอะ ๆ