จากกรณีวันที่ 6 มกราคม 2563 พลตรีนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และผู้ก่อตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับนายแพทย์หนุ่มคนหนึ่งซึ่งมีการเผยแพร่อยู่ในโลกออนไลน์ ว่าลบหลู่หมิ่นพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9
โดยเนื้อหาที่หมอเหรียญทอง โพสต์ไว้มีดังนี้ นายแพทย์ ศราวิน ทองรอง แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน สำเร็จการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้โพสต์ข้อความวิวาทะในโลกออนไลน์ด้วยการใช้สรรพนามลบหลู่พระเกียรติยศพระบาทสมเด็จพระชนกาธิเบศมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ โรงพยาบาลใดที่รับนายแพทย์คนนี้ทำงานไม่ว่าจะ Full Time หรือ Part Time ขอให้เลิกจ้างมันเสียโดยเร็ว มิฉะนั้นผมจะดำเนินมาตรการทางสังคมต่อต้าน โรงพยาบาลต้นสังกัดอริราชศัตรูคราบเสื้อกาวน์ตัวนี้อย่างรุนแรง
ต่อมา นายแพทย์เหรียญทอง ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กอีกครั้ง โดยเป็นการแจ้งความคืบหน้าของการดำเนินการต่อนายแพทย์หนุ่มคนดังกล่าวว่า ผมขอขอบพระคุณ โรงพยาบาลจอมเทียน ที่ไล่ออก นายแพทย์ศราวิน ทองรอง ที่ลบหลู่พระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 อย่างรวดเร็วเด็ดขาด ดีมากครับ
ขณะที่ทางด้าน ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ ท่านใหม่ โพสต์ข้อความบนถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า กรณีนายแพทย์ที่แสดงความเห็นในโลกออนไลน์ด้วยการใช้สรรพนามลบหลู่พระเกียรติยศ ร.9 แพทยสภาอย่าเงียบนะครับ ต้องจัดการเรื่องนี้ด้วย
จากการตรวจสอบพบว่า นายแพทย์ ศราวิน ทำงานพาร์ทไทม์ อยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ระยอง ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องราวการกระทำที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวเกิดขึ้นก็ปรากฏว่าทาง โรงพยาบาลกรุงเทพ ระยอง ได้ออกหนังสือแจ้งว่า นพ.ศราวิน ทำงาน part time ที่ ER และทางโรงพยาบาลได้ทราบเรื่องแล้ว จึงให้นายแพทย์ ศราวิน พ้นสภาพออกไปโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2564
นอกจากนี้ยังพบว่า ทางโรงพยาบาลต้นสังกัด คือ โรงพยาบาลจอมเทียน ยังได้ออกหนังสือแจ้งต่อการดำเนินการต่อนายแพทย์ ศราวิน ซึ่งเป็นแพทย์ประจำของโรงพยาบาล ให้พ้นสภาพจากการเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลด้วย เพราะประพฤติไม่เหมาะสมผิดระเบียบของบริษัท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2564 ด้วยเช่นกัน
ล่าสุด บนเฟซบุ๊กของนายแพทย์เหรียญทอง ยังได้มีการโพสต์ข้อความอีกว่า ประกาศว่าใครถูกไอ้หมอสามกีบศราวินฟ้อง ให้บอกผมด้วย ผมจะช่วย แล้วบอกมันด้วยว่า ถ้าแน่จริงให้ฟ้องหมอเหรียญทอง มันกับผมจะได้เจอกัน ให้มันไปถาม นพ.ปรเมศวร วงศ์ประเสริฐ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทารกแรกเกิด รพ.นพรัตนราชธานีสิครับว่าหมอประเมศวรได้เจอกับผมแล้วเป็นอย่างไร หมอประเมศวรหมอบกราบเอาหัวซุกอยู้ใต้ฝ่าเท้าของผมจริงหรือไม่ ไปสอบถามได้ พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
ไม่เพียงเท่านั้น ด้านที่ บก.ปอท.ศูนย์ราชการฯ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อเอาผิด นพ.ศราวิน ทองรอง อดีตนายแพทย์ รพ.กรุงเทพระยอง และ รพ.จอมเทียน และผู้ที่ใช้ชื่อว่า Watcharin ซึ่งได้ใช้สื่อสังคมออนไลน์โพสต์ข้อความด้วยการใช้สรรพนามลบหลู่พระเกียรติยศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 รัชกาลที่ 10 สมเด็จพระราชินีนาถ และพระบรมราชวงศ์ ตามที่ปรากฏเป็นการทั่วไปในโซเดียมีเดีย
พฤติการณ์และการกระทำดังกล่าวย่อมเป็นการฝ่าฝืน ม.6 แห่งรัฐธรรมนูญไทย 2560 ที่บัญญัติไว้ความว่า “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้” อีกทั้งเป็นการกระทำความผิดฝ่าฝืนประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ที่บัญญัติไว้ ความว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี”
นอกจากนั้น การการใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียดังกล่าว ยังอาจเข้าข่ายความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 ม.14 อีกด้วย ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อันเป็นความผิดเกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจำต้องเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ “บก.ปอท.” เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และออกหมายเรียก นพ.ศราวิน ทองรอง และผู้ที่ใช้ชื่อว่า Watcharin มาดำเนินการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และเอาผิดขั้นสูงสุดตามกฎหมายข้างต้นและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ขอฝากให้ทุกท่านทราบว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ หากใครละเมิดจาบจ้วงหรือหมิ่นสถาบัน สมาคมฯจะแจ้งความเอาผิดทุกรายไป เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างในสังคมต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด