จากกรณี วันที่ 10 มิ.ย.62 นายศรีสุวรรณได้นำความพร้อมพยานหลักฐานไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เรื่องเหตุ ช่อ พรรณิการ์โพสต์ภาพถ่ายเข้าข่ายหมิ่นสถาบัน
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผยว่า ตามที่ปรากฏข้อมูลหลักฐานในโซเชียลมีเดียอย่างมากมาย กรณี พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ภาพและข้อความจำนวนมากในเฟซบุ๊ก ‘Pannika Chor Wanich’ ที่ทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางที่อาจเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควรอันเป็นพฤติการณ์หรือการกระทำที่ส่อไปในทางขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
แม้ว่าพรรณิการ์จะพยายามชี้แจงกล่าวอ้างว่า เป็นการทำงานปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารทางจิตวิทยา (หรือที่เรียกกันว่า เพจ IO) ให้แก่ คสช. กับสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง นำภาพที่ช่อถ่ายเล่นๆ กับเพื่อนในช่วงรับปริญญาที่จุฬาฯ เมื่อปี 2553 มาโจมตีช่ออย่างรุนแรง โดยพยายามเชื่อมโยงกับเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ตาม
นายศรีสุวรรณได้นำความพร้อมพยานหลักฐานไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ใช้อำนาจตาม ม.87 ประกอบ ม.81 แห่ง พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 โดยเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยต่อไป
ล่าสุด 29 ธ.ค. 63 เว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้า กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวนกรณีกล่าวหา น.ส.พรรณิการ์ วานิช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกอดีตพรรคอนาคตใหม่ กระทำความผิดจริยธรรมร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 โดยข้อ 3 วรรคห้า มีผลบังคับใช้กับ ส.ส. ด้วย กรณีถูกกล่าวหาว่าโพสต์ภาพและข้อความในเฟซบุ๊กที่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจไปในทางเชื่อมโยงกับเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมิบังควรหรือไม่
ความคืบหน้าล่าสุดกรณีนี้ แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวครบถ้วนแล้ว และในเร็วๆนี้ จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ น.ส.พรรณิการ์ ต่อไป
แหล่งข่าว ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ น.ส.พรรณิการ์ ถูกไต่สวนเรื่องนี้ มาจากการโพสต์ภาพในช่วงที่ใส่ชุดครุยรับปริญญาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับเพื่อน ๆ โดยมีเพื่อนรายหนึ่งชี้นิ้วไปที่พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 พร้อมกับเบ้ปาก ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ โพสต์ข้อความว่า “ภาพนี้ไม่ควรมีคำบรรยาย =_=”
“รัฐธรรมนูญระบุว่า ส.ส.จะต้องให้ความเคารพ และปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนมาตรฐานจริยธรรมฯ ระบุไว้เช่นกันว่า ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ การกระทำของ น.ส.พรรณิการ์ ที่มีการโพสต์ภาพและข้อความในลักษณะดังกล่าว อาจเข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญ และขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมฯ จึงอาจผิดจริยธรรมร้ายแรงได้” แหล่งข่าว ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐธรรมนูญ 2560 หมวด 2 พระมหากษัตริย์ มาตรา 6 องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้
ส่วนมาตรฐานจริยธรรมฯ หมวด 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ ข้อ 5 ระบุว่า ต้องยึดมั่นและธำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ข้อ 6 ระบุว่า ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ย้อนไปวันที่ 12 มิ.ย. 62 เบื้องต้น ผู้บังคับการ ปอท. ได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบการแชร์ภาพในอดีตของ น.ส.พรรณิการ์ ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และช่องทางอื่น ๆ ซึ่งทาง บก.ปอท.มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นหลัก
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดแจ้งความดำเนินคดีบุคคลการเมืองใดตามความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 ซึ่งจะมีอายุความ 20 ปี ส่วนกรณี น.ส.พรรณณิการ์ ตั้งค่าเฟซบุ๊กเป็นส่วนตัวนั้น คงไม่กระทบต่อการทำงานเพราะก่อนหน้านี้ตำรวจได้เก็บข้อมูลไว้บางส่วนแล้ว
ต่อมา วันที่ 13 มิ.ย. 62 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายเตชะ ทับทอง หรือเต้ ทับทอง พร้อม น.ส.ซินเธีย เอี่ยมสะอาด ไฮโซแกนนำกลุ่มฅนไทยผู้รักชาติ พร้อมผู้สนับสนุนเกือบ 10 ราย เข้าพบ ร.ต.อ.เครือณรงค์ ขมิ้นเครือ รองสว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี กับ น.ส.พรรณิการ์ หลังปรากฏภาพรับปริญญาในเฟซบุ๊กร่วมกับพระบรมฉายาลักษณ์เมื่อปี 2553 เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง
โดย น.ส.ซินเธีย และนายเตชะ บอกเพียงว่าต้องการมาเเจ้งความ เพราะทราบข่าวว่ายังไม่เคยมีใครมาร้องทุกข์กับกรณีดังกล่าว
ทั้งนี้้ต้องรอติดตามท่าที ปอท. ว่า หลังจากที่ ปปช.ได้วินิจฉัยแล้วว่า นางสาวพรรณิการ์ กระทำความผิดจริยธรรมร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในตำแหน่ง ส.ส. ทาง ปอท.ดำเนินการกับกรณีนี้ต่ออย่างไร