ดร.นิว รู้กึ๋น ปิยบุตร หลอกดันคนไทย ยกเลิก ม.112 สนองตัวเอง

3485

ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Suphanat Aphinyan ระบุว่า ปิยบุตรกับการทำลาย ม.112 ที่ยังไม่สำเร็จ

ม.112 สามารถยกเลิกได้เหมือนกับในบางประเทศ ก็ต่อเมื่อกฎหมายไม่มีการใช้งานเป็นระยะเวลานาน ๆ จนในท้ายที่สุดกฎหมายไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไปเอง เพราะผู้คนมีความเจริญถึงขั้นที่ไม่มีใครทำผิดกฎหมาย รู้จักหน้าที่และความรับผิดชอบของตนเอง ตลอดจนเคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นตามแนวทางของประชาธิปไตยที่ถูกต้อง แต่ทุกวันนี้ประเทศไทยยังมีคนอย่างนายปิยบุตรที่คอยสร้างเงื่อนไขของความจำเป็นที่ยังต้องมี ม.112 ด้วยการยุยงปลุกปั่นให้ผู้อื่นท้าทายและกระทำผิดกฎหมาย

มันจึงเป็นเรื่องที่น่าตลก เพราะคนที่อยากให้ยกเลิก ม.112 กลับเป็นคนคนเดียวกับที่ยุยงปลุกปั่นให้ผู้อื่นกระทำผิด ม.112 แต่แทนที่จะโทษตัวเองซึ่งเป็นต้นเหตุ นายปิยบุตรกลับโทษ ม.112

ไม่รู้ว่านายปิยบุตรกับภรรยารับจ้างบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นอาชีพหรือไม่ เพราะพวกเขาทั้งคู่มีความพยายามในการบ่อนทำลายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ที่นายปิยบุตรกับภรรยาต่างก็บิดเบือนให้ร้าย หวังบ่อนทำลายมาโดยตลอด

นายปิยบุตรถือลัทธิรัฐธรรมนูญตามรอยคณะราษฎรในอดีต ซึ่งยึดอำนาจอธิปไตยเป็นของคนส่วนน้อย แล้วสร้างรัฐธรรมนูญขึ้นมาหลอกลวงประชาชน โดยไม่ได้สร้างประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยจึงไม่เคยมาถึงมือของประชาชน ในขณะที่สถาบันพระมหากษัตริย์ถือประโยชน์สุขของประชาชนทั้งประเทศเป็นใหญ่ เป็นกำลังของประชาชนในการวางรากฐานของชาติและสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง แต่กลับถูกคณะราษฎรบ่อนทำลายมาโดยตลอด นายปิยบุตรจึงสานต่อพยายามที่จะยกเลิก ม.112 รวมถึงมาตรการคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางกฎหมายทั้งหมด เพื่อริเริ่มการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเสรีและถูกต้องตามกฎหมาย

ทายาทลัทธิรัฐธรรมนูญอย่างนายปิยบุตรต่างหากที่กลัวการสร้างประชาธิปไตย เพราะรู้ว่าเมื่อใดก็ตามที่ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไปถึงขีดสุด เกิดราชประชาสมาสัยขึ้นอย่างสมบูรณ์ ประชาธิปไตยหรืออำนาจอธิปไตยปวงชนก็จะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง และจะไม่เป็นจริงแค่เพียงในกระดาษอีกต่อไป นำไปสู่จุดจบของลัทธิรัฐธรรมนูญและวงจรอุบาท์ของคณะราษฎรอันยาวนานกว่า 88 ปี

สิ่งที่นายปิยบุตรทำมาตลอดจึงไม่ได้เป็นการปกป้องประชาธิปไตยหรือสิทธิมนุษยชนตามที่พูดจาสวยหรู หากแต่เป็นความต้องการของนายปิยบุตรในการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่ความต้องการของประชาชน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความอำมหิตยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน เพราะสัตว์เดรัจฉานยังไม่หลอกใช้กันแบบนี้ แต่นายปิยบุตรกลับใช้ความเป็นครูบาอาจารย์ ตลอดจนแอบอ้างคำว่าวิชาการในการยุยงปลุกปั่นให้ผู้อื่นกระทำผิดกฎหมายแทนตัวเอง ในขณะที่ตัวเองระมัดระวังตัวและหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมายอยู่ตลอดเวลา

นายปิยบุตรจึงไม่ได้เป็นนักประชาธิปไตย หากแต่เป็นคนที่มีคุณสมบัติตรงกับเพลงหนักแผ่นดินทุกประการ ขยันสร้างแต่ความแตกแยก หลอกใช้คนไทยเป็นเครื่องมือ อีกทั้งยังไม่เคยเห็นคนไทยทั้งประเทศอยู่ในสายตา เพราะเอาแต่อ้างกฎหมายต่างประเทศที่ตนเองได้ประโยชน์มาบังคับยัดเยียดให้กับสังคมไทย ทั้ง ๆ ที่ทุกประเทศในโลกต่างก็มีกฎหมายที่แตกต่างกัน และที่นี่คือประเทศไทย กฎหมายไทยคือข้อตกลงในการอยู่ร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศ คนไทยทั้งประเทศคือคนตัดสินใจ ไม่ใช่นายปิยบุตร

นายปิยบุตรเคยโพสต์ว่าตัวเองกับภรรยาไม่อยากอยู่ประเทศไทยแล้ว เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2560 เหตุผลสำคัญที่เป็นเช่นนั้นเพราะภรรยาของนายปิยบุตรบิดเบือนโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน จึงไม่แปลกที่จะกลัว ม.112 และรีบหนีไปทำงานต่างประเทศก่อน แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นายปิยบุตรจะไสหัวของตัวเองออกไปบ้าง แผ่นดินไทยจะได้สูงขึ้น คนหนักแผ่นดินอย่างนายปิยบุตรอยู่ไปก็มีแต่สร้างความแตกแยกไม่รู้จักจบจักสิ้น