จากที่เป็นประเด็นร้อนแรงทางการเมืองช่วงหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.ที่ธนาธรและคณะก้าวหน้าไปจังหวัดไหนก็ถูกขับไล่ รวมทั้งที่ถูกจับตาจะกลายเป็นศึกใหญ่ระหว่างนายใหญ่กับประธานนปช.อันเนื่องด้วย การเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่ นั้น
สำหรับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ได้เฟชบุ๊กไลฟ์ peace talk ซึ่งมีบางช่วงที่น่าสนใจ
จุดยืนทางการเมืองที่ยึดความจริง ความถูกต้องมาตลอดชีวิตนั้น ทำให้ต้องเลือกความชัดเจนและเด็ดขาด ชีวิตที่เหลืออยู่ของตน สามารถต่อสู้ได้อีกเพียงครั้ง ซึ่งมีความหมาย จึงไม่ต่อสู้แบบเอาความสะใจเป็นตัวตั้ง “เหยื่ออธรรม” โดยตนยืมชื่อวรรณกรรมแปลที่โด่งดังมาตั้งเป็นประเด็นการพูดถึงการเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ เพื่อจะบอกว่า ไม่เคยไปหาแกนนำเสื้อแดงในเชียงใหม่ให้มาช่วยหาเสียงเลย เพราะมีความเชื่อว่า การเติบโตของเสื้อแดงมาจากการต่อสู้ในเรื่องสองมาตรฐาน ต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย จนบาดเจ็บล้มตายอย่างมาก
ถ้าอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร บอกไม่ให้นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ลง เขาก็ไม่ลง แต่ที่เขาติดคุก แล้วเจ๊ไปชูมือหนุนอีกคน ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ เราจึงทนเห็นสภาพเหยื่ออธรรมแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้ ผมชิงชังคนชั่วที่ทำลายกระบวนการยุติธรรม เป็นแบบนี้มาก่อนที่จะเป็นคนเสื้อแดงเสียอีก”
ล่าสุดวันนี้(19 ธ.ค.63) รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุข้อความถึงการเลือกตั้งอบจ.ครั้งนี้ด้วยว่า
เลือกตั้งอบจ.ครั้งนี้ พรรคที่จะเสียหายหนักที่สุดคือพรรคเพื่อไทย พรรคที่จะได้มากที่สุดคือพปชร. ส่วนคณะก้าวหน้าขึ้นอยู่ว่า คนรุ่นใหม่จังหวัดนั้นตื่นตัวมากแค่ไหน แต่คาดว่า จะสามารถทะลวงกำแพงเข้าสู่การเมืองท้องถิ่นได้สำเร็จในหลายจังหวัดที่พรรคอนาคตใหม่มีฐานเข้มแข็ง
ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ผู้สมัครที่สัมพันธ์กับพรรครัฐบาลมักชนะเลือกตั้ง ซึ่งในกรณีนี้คือผู้สมัครพปชร.หรือนอมินีของพปชร.แต่แอ๊บใช้ชื่ออื่น เพราะคนท้องถิ่นย่อมต้องการคนที่สามารถดึงงบประมาณ ทรัพยากร โครงการจากส่วนกลางมาสู่ท้องถิ่นได้
ช่วงยุคคสช. เพื่อไทยถูกดูดสส.และนักการเมืองท้องถิ่นไปจำนวนมาก และยังถูกทำลาย-ถูกยึดเครือข่ายหัวคะแนนไปทีละน้อย หลังเลือกตั้ง 62 เพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน อดีตสส.และแกนนำไหลออก ขณะที่พปชร.เร่งนโยบายประชานิยมแจกสบั้นหั่นแหลกทั้งระดับชาติและท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากคะแนนเสียงพท.เดิมที่ย้ายตามสส.และนกม.ท้องถิ่นออกไปก่อนแล้ว ในการเลือกตั้งอบจ.นี้ แม้แต่ฐานเสียงปัจจุบันในหลายพื้นที่ (ซึ่งเลือกพท.ในระดับชาติทุกครั้ง) ก็จะหันไปเลือกพปชร.(หรือนอมินี) เพราะต้องการ “คนที่มีผลงานและสามารถพัฒนาท้องถิ่นได้” และเพราะนี่ไม่ใช่การเลือกรัฐบาลหรือเลือกฝ่ายค้านเพื่อไปตรวจสอบรัฐบาล
จุดสำคัญคือเชียงใหม่ ที่จะทดสอบความเปราะบางของเพื่อไทย ระหว่างบารมีตระกูลชินวัตรกับนกม.เดิมที่มีฐานเข้มแข็ง จากการสอบถามในพื้นที่ อาจเกิด Chiang Mai disruption ต้องเฝ้าดู!
ต่อมาเมื่อข้อความดังกล่าวของดร.พิชิต ได้เผยแพร่ออกไปสู่โลกโซเชียลฯ ก็ปรากฏว่ามีบุคคลเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ซึ่งมีบางคนที่ทำให้ นักวิชาการเจ้าของโพสต์ต้องเข้ามาตอบคอมเมนต์ด้วยตัวเอง อาทิ
ถ้าปชช ไทย ยังจะเอาไว้ตูบ เหลือเชื่อกับ ปชชไทยมาก
พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ระดับท้องถิ่น เขาไม่คิดถึงปะยุด เขาคิดถึงท้องถิ่นตัวเองเป็นหลัก
ที่มา : เฟซบุ๊ก พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
