ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว ชำแหละ แผนสลายราชอาณาจักรของคณะก้าวหน้า ภายใต้การเลือกตั้งท้องถิ่น ลั่น ยิ่งคณะก้าวหน้าได้ อบจ. มาก ม็อบก็จะยิ่งรุนแรง
จากกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้นำทีมผู้สมัคร นายก อบจ.ในจังหวัดต่างๆ เพื่อลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งในหลายจังหวัดก็เกิดเหตุการณ์การต่อต้านนายธนาธร เพราะมองว่า นายธนาธรเป็นคนต่อต้านสถาบัน และต้องการที่จะปฏิรูปสถาบัน ซึ่งทำให้คนที่จงรักภักดีไม่พอใจ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านหลายครั้ง
ต่อมา น.ส.พรรณิการ์ วานิช ได้ออกมาแถลงข่าวถึงการเลือกตั้งนายกและสมาชิก อบจ. คณะก้าวหน้าจะยังคงเดินทางไปทุกจังหวัด ไปทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยไม่กังวลและไม่ต้องระวังตัว เพราะตราบใดที่เราเป็นนักการเมืองต้องเดินเข้าหาประชาชนได้ ซึ่งการแถลงในครั้งนี้ ถือเป็นการออกมายอมรับว่าคณะก้าวหน้าทำกิจกรรมทางการเมืองในฐานะนักการเมืองจริง ทั้งๆที่อยู่ระหว่างการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และคณะก้าวหน้ามีกิจการคล้ายคลึงกับพรรคการเมือง โดยที่คณะก้าวหน้ามิได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง
ล่าสุดทางด้าน ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงแผนสลายราชอาณาจักรของคณะก้าวหน้า ภายใต้การเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ โดยระบุข้อความว่า
แผนสลายราชอาณาจักรของคณะก้าวหน้า
แผนการของคณะก้าวหน้าภายใต้การเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ คือ การนำ อบจ. ที่มาจากการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นไปทำลายความชอบธรรมของผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการแต่งตั้งในระดับภูมิภาค เพื่อการปลุกระแสโค่นล้มการมีอยู่ของผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งสามารถนำไปสู่การล้มล้างการปกครองได้แบบไม่รู้ตัว จากรัฐเดี่ยวกลายเป็นหลายรัฐ จากราชอาณาจักรกลายเป็นสาธารณรัฐ
ที่มาของแผนการปลุกกระแสโค่นผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เป็นเพราะผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นการปกครองส่วนภูมิภาค ซึ่งคอยเชื่อมโยงระหว่างการปกครองส่วนกลางกับการปกครองส่วนท้องถิ่นไว้ด้วยกัน เมื่อใดก็ตามที่สามารถทำลายการปกครองส่วนภูมิภาคหรือโค่นผู้ว่าราชการจังหวัดลงได้ แล้วหากไม่มีดุลยภาพใหม่ระหว่างการปกครองส่วนกลางกับการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดีมารองรับ ก็เท่ากับทำลายการเชื่อมโยงระหว่างการปกครองส่วนกลางกับการปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้จังหวัดกลายสภาพเป็นรัฐอิสระ ซึ่งเป็นการแบ่งแยกดินแดนไปโดยอัตโนมัติ ทำให้ประเทศไทยที่มีรูปแบบของรัฐเป็น “รัฐเดี่ยว” กลายเป็นหลายรัฐหรือที่เรียกว่า “สหพันธรัฐ”
เมื่อใดที่สามารถเปลี่ยนรัฐเดี่ยวให้เป็นสหพันธรัฐได้ ก็สามารถทำลายรูปแบบของรัฐในมาตรา 1 “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้” เมื่อนั้นก็ง่ายขึ้นที่จะเปลี่ยนรูปแบบการปกครองจากราชอาณาจักรไปสู่สาธารณรัฐในมาตรา 2 “ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
การเปิดเกมรุกในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น จึงกลายมาเป็นแนวรบใหม่ของคณะก้าวหน้าที่ไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง อบจ. ธรรมดาๆ หากแต่เป็น อบจ. ที่แอบแฝงไปด้วยภัยซ่อนเร้น และการขยายความแตกแยกไปสู่ความรุนแรงอย่างที่พวกเขาต้องการ เพื่อสร้างเงื่อนไขเปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงสนับสนุนไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดยมีการวางแผนล่วงหน้าสำหรับการก่อม็อบใหญ่ในปีหน้าเอาไว้หมดแล้ว
นอกจากนี้การมี อบจ. พร้อมกับงบประมาณอยู่ในครอบครอง ยังเป็นผลดีต่อเกมปฏิวัติประชาชนตามแบบฝรั่งเศสหรือรัสเซียที่รุนแรง ซึ่งพวกเขาพยายามยุยงปลุกปั่นมาโดยตลอด เป็นเครื่องมือชั้นดีในการซ่องสุมกำลัง เผยแพร่ชุดความคิดล้างสมอง และปลุกระดมให้เกิดการลุกฮือขึ้นได้โดยง่ายในระดับท้องถิ่น แล้วม็อบดาวกระจายที่เคยเกิดขึ้นในแต่ละจังหวัดก็จะขยายใหญ่ขึ้นในจังหวัดที่คณะก้าวหน้าได้ อบจ. ไปครอง อีกทั้งยังสามารถขนมวลชนเข้ามาก่อม็อบใหญ่ในกรุงเทพได้อีกด้วย
ดังนั้นยิ่งคณะก้าวหน้าได้ อบจ. มากเพียงใด กำลังในการก่อม็อบปฏิวัติประชาชนที่รุนแรงในปีหน้า พ.ศ. 2564 ก็จะมากขึ้นเพียงนั้น
ดร.ศุภณัฐ
17 ธันวาคม พ.ศ. 2563