การระบาดโควิด-19 ยังดำเนินต่อไปและบางประเทศเผชิญการระบาดรอบ 2 แล้ว แต่ความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้รัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้านไทยเริ่มเปิดน่านฟ้ารับนักเดินทางกันแล้ว ญี่ปุ่นจับคู่กัมพูชา สิงคโปร์เปิดน่านฟ้า เริ่มต้นก.ย.นี้ ส่วนไทยแม้ปลอดระบาดรอบ 2 ประชาชนยังวิตก รัฐจึงเน้นกระตุ้นท่องเที่ยวภายในไปพลาง ค่อยขยับกลุ่มเดินทางจากต่างประเทศเป็นระดับขั้น ตามมาตรการผ่อนคลายธุรกิจและเปิดเมือง
เพื่อนบ้านห่วงเศรษฐกิจ-เน้นควบคุมการระบาด
–ญี่ปุ่น และกัมพูชา: นายโทชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เดินทางเข้าพบสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญเมื่อวันเสาร์ (22 ส.ค.2563) โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะเปิดพรมแดนระหว่างประเทศสำหรับชาวต่างชาติที่ได้สิทธิพำนักอาศัย โดยคาดว่าจะเริ่มในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ภายใต้เงื่อนไขกักตัว 14 วันและมาตรการอื่น ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ในเดือนนี้ ญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลงผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศกับสามประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และกัมพูชา นอกจากนั้นยังเล็งทำข้อตกลงกับลาวและเมียนมาด้วย
นายโมเตกิได้หารือกับนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา โดยเห็นพ้องในการเร่งเจรจาเพื่อผ่อนคลายการเดินทางสำหรับนักธุรกิจที่เดินทางเข้าประเทศในระยะสั้นต่อไป
–สิงคโปร์ :จะเปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะจากบรูไนและนิวซีแลนด์ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.นี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีนี้ที่สิงคโปร์สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ขณะที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดทั่วโลก
นายออง ยี กัง รมว.ขนส่งของสิงคโปร์เปิดเผยว่า “เป็นการดำเนินมาตรการขนาดเล็กที่ระมัดระวังเพื่อเริ่มเปิดการบินอีกครั้ง และเริ่มดำเนินการสนามบินฉางกี และสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์” “เราต้องเปิดพรมแดน เพื่อให้เศรษฐกิจอยู่รอด เราต้องเชื่อมต่อกับโลกภายนอก และต้องเปิดศูนย์การบิน”
รมว.ขนส่งของสิงคโปร์ระบุว่า บรูไนและนิวซีแลนด์สามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี โดยอัตราการติดเชื้อใน 2 ประเทศดังกล่าวต่ำกว่า 0.1 ต่อประชากร 100,000 คน ทั้งนี้ผู้เดินทางที่อยู่ในบรูไนและนิวซีแลนด์เป็นเวลา 14 วันติดต่อกันก่อนเดินทางมาถึงสิงคโปร์เพียงแค่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 เท่านั้นเมื่อเดินทางมาถึง แต่ไม่จำเป็นต้องกักตัวเหมือนผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมจำนวนกว่า 5.6 หมื่นราย และมีผู้เสียชีวิต 27 ราย
ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศทุ่มงบประมาณ 45 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์(กว่า 1.01 พันล้านบาท/ 22.65 บาทต่อดอลลาร์)ในการทำการตลาดเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศตลอดระยะเวลา 9 เดือน
ประเทศไทยเล็งกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ-ต่างประเทศค่อยเป็นค่อยไป
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า กพท.ได้ออกประกาศกำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 3) เพื่อผ่อนผันให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศได้เพิ่มขึ้น เฉพาะกลุ่มผู้มีที่พักอาศัยในประเทศไทย และผู้ที่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย สามารถเดินทางเข้ามาได้พร้อมกับครอบครัว
โดยผู้ที่เดินทางเข้ามาจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส-19 สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) กำหนดไว้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.63 เป็นต้นไป
ส่วนเครื่องบินพาณิชย์สำหรับนักท่องเที่ยวยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทย
ล่าสุด คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ.อนุมัติ มาตรการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว
โดยจะมีการขยายสิทธิ์ “โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” โดยขยายสิทธิ์จากคนละ 5 คืน เป็น 10 คืน และขยายการสนับสนุนค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินจาก 1,000 บาทต่อคน เป็น 2,000 บาทต่อคน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาโครงการเราเที่ยวด้วยกันมีการใช้สิทธิ์แค่ 550,000 คืน ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 5,000,000 คืน จึงต้องมีการปรับปรุงและขยายสิทธิ์เพิ่มเติม