อานนท์แอ่นอกรับโดนคดีม.112 ถ้ากลัวก็ปฏิรูปสถาบันฯไม่ได้ ขณะดิ้นกันพล่านขอให้ยกเลิก

2630

จากที่คณะจุฬาฯที่อ้างศิษย์เก่าและปัจจุบันคณะอักษรศาสตร์ จะยื่นถวายฏีกาให้ยกเลิกใช้ม.112 เหตุเพราะมีนักศึกษาถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดีดังกล่าว รวมทั้งจากงานเสวนาของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จัดกิจกรรม ‘ยกเลิก 112 สิ แล้วเราจะเล่าให้ฟัง’

ทั้งนี้โดยกิจกรรมมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ร่วมเสวนา ซึ่งช่วงหนึ่งนายปิยบุตร กล่าวว่า สำหรับมาตรา 112 อยู่ในหมวดความมั่นคงในราชอาณาจักร ถือเป็นการวางในตำแหน่งผิด ทำให้ที่ผ่านมาไม่มีการประกันตัว ส่วนอัตราโทษนั้นมีการเพิ่มโทษขึ้นมาจากเดิมไม่เกิน 7 ปีมาเป็น 3-15 ปี โดยกำหนดโทษอัตราขั้นต่ำไว้ที่อย่างน้อย 3 ปี และมาตรา 112

“ไม่มีเหตุการยกเว้นความผิดด้วยถึงแม้จะเป็นการวิจารณ์โดยสุจริต และในมาตรา 112 จะให้ใครไปแจ้งความก็ได้ ที่ผ่านมาฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยให้ยกเลิกมาตรา 112 ก็อ้างว่าหากยกเลิกจะไม่มีกฎหมายคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือไม่ แต่ในหลายประเทศก็ไม่มีกฎหมายนี้เช่นประเทศญี่ปุ่น” นายปิยบุตร กล่าวบางช่วง

ขณะที่นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนมีคดีมาตรา 112 แล้วทั้งหมด 8 คดีซึ่งมาตรานี้ไม่ใช่กฎหมายธรรมดาทั่วไป แต่เป็นเหมือนคดีนโยบายคือนายสั่งมา โดยคดีแรกการชุมนุมที่สนามหลวงเมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. ในคดีมาตรา 116 ก่อนมาโดนแจ้งข้อหามาตรา 112 เพิ่มเติม ภายหลังนายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่าจะใช้กฎหมายทุกมาตรา จึงเป็นการดำเนินคดีตามใบสั่งไม่ใช่เป็นไปตามกระบวนการ แต่คดีมาตรา112 จะทำให้การเคลื่อนไหวต่อไป เพราะหากแก้ปัญหาไม่ถูกแก้ไข จะทำให้คนออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้น ดังนั้นถ้าจับตนไปการเคลื่อนไหวก็ไม่สิ้นสุด เพราะเป็นการจับกุมที่ไม่ยุติธรรม

ล่าสุดวันนี้(11ธ.ค.63)  นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และแกนนำคณะราษฏร ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงการถูกดำเนินคดีตามมาตรา112 ว่า

ถ้ากลัว 112 ก็ไม่สามารถปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ได้ !!! เพราะการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์มันเลี่ยงที่พูดถึงปัญหาของสถาบันกษัตริย์ไม่ได้ ทั้งเรื่องการขยายอำนาจ การแทรกแซงการเมือง การเอาทรัพย์สินส่วนรวมไปเป็นของส่วนตัว รวมทั้งการใช้จ่ายเกี่ยวกับสถาบันอย่างฟุ่มเฟือย  ถ้าพฤติการณ์เดียวกันนี้เป็นคนธรรมดาทำ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกคนด่า คนสาปแช่ง

การแอ่นอกรับ 112 ในทุกมิติ จึงเป็นอีกการต่อสู้ที่มีความจริงเป็นเครื่องชี้วัด วัดว่าสังคมนี้จะอยู่กับความจริงหรือความลวง ส่วนตัวผม ผมเลือกอยู่กับความจริง และพร้อมเผชิญกับทุกขวากหนาม

อย่าว่าแต่ 112 เลย เชิญตั้งข้อหาว่าผมเป็นกบฏตาม มาตรา 113 กล่าวหาว่าคิดเปลี่ยนแปลงการปกครองผมก็ไม่กลัว ความจริงคือความจริงวันยันค่ำ

เราจะใช้ความจริงสู้กับพวกเขา ผมยังมองไม่เห็นความพ่ายแพ้บนถนนสายราษฎรสายนี้ แม้ที่เส้นชัยอาจไม่มีผมหรือเพื่อนอีกหลายคนยืนจิบเบียร์เย็นๆตรงนั้นก็ตาม แต่พวกเราชนะแน่นอน !!!

ที่มา : เฟซบุ๊ก อานนท์ นำภา