จากที่ จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk ในหัวข้อ ระบอบติ่งกับตำแหน่งประธาน นปช. ตอน 1 โดยมีบางช่วงที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง!?!
“ตนและนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ ถูกขบวนการใส่ร้าย กล่าวหา ผลักใสให้ไปอยู่กับฝ่ายเผด็จการในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ล้วนเป็นอิทธิฤทธิ์ “เจ๊คนนี้” สั่งการ จึงขอเชิญเจ๊ออกมาทำการเมืองในที่แจ้งจะดีกว่า
ระบอบติ่ง เป็นความนิยมเฉพาะส่วนโดยไม่ฟังเหตุผล หากไม่พอใจก็บูลลี่(เสียดสี ใส่ร้ายเป็นเท็จ) และในความจริงแล้วในติ่งนั้นยังมีอวตารแล้วไปปฎิบัติการต่อ ดังนั้น ตนจึงเลิกบล็อกพวกวิจารณ์เท็จ แต่ให้บูลลี่กันอย่างสบายใจ แล้วต่อไปคงฟ้องร้องดำเนินคดีให้รับผิดชอบกัน
เมื่อตนเห็นต่างจากพรรคเพื่อไทยกรณีเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ เพียงแค่อ้าปากจะพูดก็ถูกวิจารณ์อย่างขาดเหตุผลแล้ว ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพูดถึงขบวนการ นปช. ซึ่งตำแหน่งประธาน เป็นแค่หัวโขน ไม่มีเงินเดือน ตรงกันข้ามกลับมีแต่คดีถูกฟ้องร้องมากมาย”
ในกรณีการใส่เสื้อเหลือง เป็นจิตอาสานั้น นายจตุพร กล่าวว่า มีใครบ้างไม่ใส่เสื้อเหลือง โดยเฉพาะครอบครัวชินวัตรทั้งตระกูล ไปเป็นจิตอาสาแสดงความจงรักภักดีหลายครั้ง พรรคเพื่อไทยทั้งพรรคและอดีตพรรคไทยรักษาชาติ รวมถึงอดีตพรรคอนาคตใหม่ ล้วนแถลงถึงการสมัครเป็นจิตอาสาแล้วใส่เสื้อเหลืองกันหมด
“แต่พวกระบอบติ่ง เฮงซวยไม่ติดใจอะไร กลับมาสนใจแค่ตนคนเดียว คนพวกนี้เอาสมองความเป็นธรรมหายไปไหนหมด ถามว่าพวกคุณมีมาตรฐานอะไร ไอ้พวกติ่งหน้าโง่ทั้งหลาย ดังนั้นปล่อยให้พวกคุณสำแดงให้เต็มที่ไป เมื่อถึงเวลา ผมจะสำแดงบ้าง”
ส่วนการยัดเหยียดข้อกล่าวหาที่แกนนำเสื้อแดงเชียงใหม่เรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งประธาน นปช. เนื่องจากไปช่วยนายบุญเลิศ ลงเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ รวมทั้งกล่าวหานายบุญเลิศไปอยู่พลังประชารัฐ แต่ไม่ช่วยพรรคเพื่อไทยนั้น นายจตุพร กล่าวว่า หากตนลาออกแล้ว ย่อมแสดงว่าไปอยู่พลังประชารัฐตามข้อกล่าวหาทุกประการ แต่ตนยังยืนยันจุดยืน พร้อมประกาศชัดเจนถึงการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจนกว่าประชาชนประกาศชัย
รวมทั้ง ย้ำว่า ก่อนตนจะไปเชียงใหม่ นายแก้ว (เสื้อแดงเชียงใหม่) ได้ส่งคลิปมาให้พี่หมู ว่าได้จัดเวทีปราศรัยที่อำเภอฝาง แล้วโทรศัพท์บอกพี่หมูว่า คนมาจำนวนมาก และนายบุญเลิศ กำลังแก้เกมด้วยการจ้างจตุพรไปแก้เกม
อย่างไรก็ตาม ตนรู้เรื่องนี้เมื่อลงเครื่องบินที่เชียงใหม่ และได้คุยกับนายแก้วทางโทรศัพท์ และบอกว่า เป็นสิทธิของคุณที่จะช่วยเพื่อไทย ส่วนตนนั้นเห็นว่าตระกูลบูรณุปกรณ์เสมอต้นเสมอปลายกับแกนนำ นปช.ส่วนกลางทุกคนมาตลอดเวลา
“ผมเห็นว่าเขา (บุญเลิศ) ถูกกระทำและถูกจับทั้งโคตร เพราะรณรงค์ไม่รับร่าง รธน.ปี 60 ซึ่งเป็นทั้งนโยบายของ นปช.และของพรรคเพื่อไทย น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ เป็นเหมือนน้องสาวผม เมื่อเด็กชุมนุมถูกยิงแก๊สน้ำตา เธอลุกพูดในสภาว่า อีกฝ่ายหนึ่งชุมนุมก็แจกน้ำส้ม ส่วนอีกฝ่ายแจกแก๊สน้ำตา พร้อมจะอาสาเป็นคนประกันตัวเด็กมาชุมนุมที่ถูกจับด้วย คนมีทัศนคติแบบนี้หรือจะไปอยู่กับฝ่ายเผด็จการ”
นอกจากนี้ประธานนปช. ยังกล่าว่า ไม่เคยทำตามพรรคเพื่อไทยในสิ่งที่ไม่ชอบธรรม เคยพูดในที่ประชุมพรรคว่า คนเสื้อแดงไม่ใช่ของตายของพรรคเพื่อไทยที่จะทำอะไรก็ได้ ยิ่งช่วงออก พรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย ตนก็ค้านหัวชนฝาเช่นกัน เนื่องจากจะทำให้พังทั้งขบวนการ แล้วนำพาให้รัฐบาลไปติดกับดัก ซึ่งพรรคเพื่อไทยโกรธมาก แล้วถอดพวกตนออกจากผังรายการทีวีทั้งแผงเลย
“เพราะหลักคิดนักการเมือง กับนักต่อสู้ย่อมมองไม่เหมือนกัน ตลอดเป็นรัฐบาลนั้น ควรสร้างประชาชนให้แข็งแรง แต่กลับถูกแบ่งแยกแล้วปกครอง ซึ่งผมไม่อีนังขังขอบอยู่แล้ว ได้แต่มองเฉยๆ เมื่อเอานักการเมืองไปจัดการมวลชนแทน มวลชนจึงไม่ได้มาชุมนุมด้วยหัวใจ การเอานักการเมืองไปจัดการแทนนั้น คงเกิดจากไม่เข้าใจ ไม่ไว้วางใจนักต่อสู้ จนทำให้มวลชนมาชุมนุมลดน้อยลง แล้วนำพาไปสู่ถูกยึดอำนาจปี 2557
บรรดาพวกติ่งทั้งหลาย ไม่ได้อยู่ในขบวนนี้อย่างเข้าใจ แต่อยู่แบบพวกรับใช้พรรคการเมือง จนนำพาไปสู่การรัฐประหารโดยไม่มีโอกาสต่อสู้อะไรเลย ยิ่งวันที่ 21-22 พ.ค. 2557 คนเหลือชุมนุมไม่ถึง 500 คน เพราะเรื่องคนนั้น มีคนรับผิดชอบจัดการมา แต่น้อยกว่าปี 2553 เป็น 10 เท่า และตนยังมีความสงสัยอยู่ถึงปัจจุบัน
ผมจะบอกให้ว่า ยินดีจะลุกออกจากตำแหน่งประธาน นปช.ด้วย แต่ไม่ใช่มาจากคนพวกคุณมาชี้หน้าว่า มาช่วยบุญเลิศ และบุญเลิศไปช่วยพลังประชารัฐ ซึ่งวันที่พรรคเพื่อไทยทิ้งเขานั้น พรรคพลังประรัฐยังไม่ได้ตั้งเลย เมื่อผมชี้แจงก็ถูกกล่าวหาว่าโจมตีพรรคเพื่อไทย ทั้งที่คุณบอกว่าบุญเลิศจ้างผมมา เมื่อผมบอกว่าเกิดอะไรขึ้น คุณก็ชักดิ้นชักงอ คุณเป็นมนุษย์พันธุ์ไหนกันแน่”
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนอีกคนหนึ่งนั้น ตนให้คนไปถามว่า เพราะอะไรจึงนั่งแถลงข่าวกัน เขาบอกว่าผู้ใหญ่สั่ง ลึกๆตนคิดถึงเจ๊คนเดียว เพราะเจ๊ทำพังมาแล้ว 2 รัฐบาล ทั้งรัฐบาลทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล้วนอิทธิฤทธิ์เจ๊ทั้งนั้น ลองไปไล่ตรวจดูเอา
“วันนี้ที่เชียงใหม่ที่ทำลาย พังกำแพงมิตรภาพนั้น ก็จะพังเพราะเจ๊อีก ควรออกมาที่แจ้งเถิด อย่าหลบไปที่มืด ผมให้ความเคารพอดีตนายกทักษิณอย่างไรก็เคารพอย่างนั้นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยน บุญเลิศบอกผมว่า ถ้านายกทักษิณ โทรมาบอกไม่ให้ลง เขาก็ไม่ลง แต่เมื่อผลักเขาออกไป แล้วยัดเหยียดเขาเป็นพลังประชารัฐ ทั้งที่ไม่ได้เป็นจริง เขาจึงไม่มีทางเลือกอย่างอื่น นอกจากสู้เพื่อหาความยุติธรรม” ประธานนปช. กล่าว