โต้กันเดือด บุ๊ง ปกรณ์ ท่อน้ำเลี้ยงม็อบ อัดยับ ประวิตร โรจนพฤกษ์ นักข่าวอาวุโสประจำข่าวสด ปม ปิดบาร์ย่านห้าแยกลาดพร้าวเลี้ยงสตาฟ
จากกรณีที่ นายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักข่าวอาวุโสประจำข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ ได้โพสต์ภาพในบาร์แห่งหนึ่ง โดยระบุว่า “ทราย เจริญปุระ ปิดบาร์แห่งหนึ่งใกล้ที่ชุมนุมห้าแยกลาดพร้าวให้สตาฟฟ์และแกนนำพักผ่อนและดื่ม” ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก
ต่อมาทางด้าน นายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ บุ๊ง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองเครือข่ายคนเสื้อแดง ผู้ประกาศตัวเป็นนายทุนสนับสนุนม็อบนักเรียนนักศึกษาเยาวชนปลดแอก ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ประวิตรได้โพสต์ภาพดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า
กุจะเล่าเรื่องประวิตรให้ฟัง
เมื่อคืนมันแอบถ่ายรูปเพื่อนๆกุในร้าน Highland Café แล้วมันก็โพสขึ้นFBกับทวิต ว่าทรายเหมาร้านนี้ให้แกนนำกับสตาฟพักผ่อนกับ ” ดื่ม ” ซึ่งในความเป็นจริง ร้านนี้เป็นพวกกุเหมากันเอง ไว้ให้พวกน้องๆสตาฟมาหลบแดดแดกข้าว ไม่มีการเลี้ยงLกฮใดๆทั้งสิ้น แล้วตอนหลังทรายมันก็ตามมานั่งแปปนึง แล้วก็ออกไป
พอกุเห็นมันโพส กุรีบวิ่งมาจากหลังเวที มาถามมันต่อหน้าว่าโพสแบบนี้ทำไม คนพวกนี้คือคนของกุ มันตอบกุว่าเป็นสิทธิ์ของมัน มันเป็นสื่อ มันสามารถบอกได้ว่าแกนนำกับทีมงานอยู่ตรงไหนทำอะไร กุถามย้ำ3รอบ มันก็ตอบแบบเดิม3รอบ แล้วมันก็ยืนยันว่าไม่ลบ เป็นสิทธิ์ของมัน มันเป็นสื่อ จะทำอะไรก็ได้ แล้วมันก็แถเต็มไปหมด จนสุดท้าย กุก็บอกมันว่ามึงเลิกบิดภาษาได้แล้ว สัตว์เหี้x xวยก็ออกจากปากกุเพียบ กุกำลังชั่งใจว่าจะหวดหน้ามันดีมั้ย ไอ้เท่าก็มาห้ามกุเอาไว้แล้วกันประวิตรออกไป เรื่องแม่งก็ตามนี้ ใครจะว่ากุถ่อยกุก็ยินดีน้อมรับ แต่ในฐานะจ่าฝูง กุก็ต้องปกป้องคนของกุเช่นกัน
ล่าสุดมันโพสFBชี้นำในทำนองว่ากุเมา แต่ในความเป็นจริง ไอ้สัxกุแดกLกฮไม่ได้ เพราะเพิ่งทำหัวมาแล้วหมอสั่งห้ามเด็ดขาด
ต่อมาประวิตรได้ออกมาชี้แจง ถึงรูปภาพดังกล่าวว่า
คำชี้แจงเรื่องรูป:
หลังจากที่ผมโพสต์รูปบาร์แห่งหนึ่งในละแวกห้าแยกลาดพร้าวเมื่อคืนไปได้พักหนึ่ง โดยระบุว่าเวลา 8.45pm ซึ่งเป็นเวลาที่ผมไปถึง มีการปิดบาร์แห่งนี้โดยคุณทรายเจริญปุระ เพื่อให้สตาฟและแกนนำพักผ่อนและดื่ม ปรากฎว่า 40 กว่านาทีผ่านไป ระหว่างที่ผมนั่งดื่มพูดคุยกับ สส. พรรคก้าวไกลที่โต๊ะนิกร้านโต๊ะหนึ่งซึ่งร้านยังรับแขกทั่วไป จนผมจะเดินทางออก ก็มีผู้ที่บอกผมว่าเป็นคนที่อยู่ในรูปที่ผมเผยแพร่เดินมาหาผม บอกว่าไม่พอใจที่ผมถ่าย มีสิทธิอะไร และขอให้ลบรูปทิ้ง โดยอ้างว่าแม้ผมจะได้ปิดหน้าตาโดยสีก็ยังดูออกว่าเป็นพวกเขา แม้ผมเห็นต่าง แต่ในที่สุดผมก็ตัดสินใจขีดทับใหม่อย่างในรูปที่เห็น รวมถีงขีดทับภาพบนผนัง เพราะคนเหล่านั้นบอกว่าดูออกว่าเป็นร้านไหน และอ้างเรื่องความปลอดภัย
แม้ผมจะไม่ได้สนใจชื่อร้านและไม่ได้ระบุแต่แรก ผมก็ตัดสินขีดทับบรรดารูปบนผนังด้วย ส่วนคำว่า “แกนนำ” ผมตัดออกเพราะว่าจนถึงเวลานั้น ก็ยังไม่เห็นมีแกนนำ ซึ่งข้อมูลต่างจากที่ผมได้รับจากทางพนักงานที่บาร์แห่งนี้
และผมก็ทั้งทวีตและโพสต์ใหม่เพื่อยืนยันถึงสิทธิในการเสนอข้อมูลตรงนี้ มิใช่เพราะกลัวอะไร แต่เพื่อความแม่นยำของข้อมูลและความสบายใจของผู้ปรากฎในภาพว่าดูอย่างไรก็ดูไม่ออก
อนึ่ง มีการตะโกนเสียงสุดเสียงด่าใส่หน้าผมหน้าร้านโดยคนที่ตะโกนเข้าใจว่าคือเสี่ย ‘บ’ ซึ่งยืนอยู่ติดตัวผมว่า: “เหี้X” “ควX” “สัตว์” ระหว่างการโต้แย้ง (ผมไม่แน่ใจว่าคนตะโกนดื่มแอลกอฮอล์ไปหรือไม่ ไม่ได้มีโอกาสตรวจวัด 🙂 แต่ผมไม่ได้ดื่ม) แต่ผมก็นิ่ง ใจเย็น และมิได้ต่อความ นอกจากยืนกรานว่าหน้าที่สื่อไม่ใช่พีอาร์หรือติ่งของฝ่ายใด ไม่ใช่ fc หรือเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มใด สื่อมีหน้าที่ตรวจสอบและพยายามตั้งคำถามกับทุกฝ่าย
ส่วนรูปที่เห็น ผู้ใดอยากจะตีความว่าเช่นไรก็แล้วแต่มุมมอง ไม่ว่าจะบวกหรือลบ ซึ่งย่อมเป็นสิทธิเสรีภาพทางความคิดของผู้นั้น ซึ่งก็ปรากฎว่ามีการตีความไปหลากหลายในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา
หน้าที่ผมคือเสนอความจริงต่อสาธารณะ ตั้งคำถามอย่างเท่าทัน ด้วยความเชื่อมั่นในความโปร่งใสและควรต้องตรวจสอบได้ของทุกกลุ่มสาธารณะในสังคม จึงขอแจ้งมาให้ทราบโดยทั่วกัน
3 ธค. 2563
ประวิตร โรจพฤกษ์
ปล. ขอบคุณ สส. พรรคก้าวไกลผู้นั้นที่พยายามไกล่เกลี่ยอย่างสุดความสามารถ ไม่ให้สถานการณ์บานปลายไปกว่านั้น เพราะตอนนั้นมีคนกลุ่มนั้นประมาณ 10 กว่าคนอยู่รอบๆผม