วันพิพากษาโจชัว หว่องและพวก!?! รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ศาลตัดสินจำคุก 13 เดือนครึ่งฐานเป็นเยาวชน

1733

ศาลฮ่องกงตัดสินจำคุกนายโจชัว หว่องนักเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องแยกฮ่องกงเป็นอิสระจากจีน เป็นเวลา 13 เดือนครึ่ง และตัดสินจำคุกน.ส.แอกเนส โจว นักเคลื่อนไหวอีกคนหนึ่งเป็นเวลา 10 เดือนส่วนอีวาน หล่ำ 7 เดือน หลังจากทั้งสามได้ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ได้กระทำการปลุกระดมเพื่อให้เกิดการประท้วง โดยไม่ได้รับอนุญาตในปี 2562 และได้ทำการปิดล้อมที่ทำการของสำนักงานตำรวจของฮ่องกง

วันนี้(2 ธ.ค. 63)ศาลฮ่องกงได้ตัดสินจำคุกนายโจชัว หว่องอายุ 24 ปีเป็นเวลา 13 เดือนครึ่ง และตัดสินจำคุกน.ส.แอกเนส โจวอายุ 23 ปี นักเคลื่อนไหวอีกคนหนึ่ง เป็นเวลา 10 เดือน และนายอีวาน หล่ำอายุ 26 ปีเป็นเวลา 7 เดือนหลังจากทั้งสารมได้ยอมรับสารภาพเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าได้กระทำการปลุกระดมเพื่อให้เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลปักกิ่งและคณะผู้บริหารฮ่องกงโดยไม่ได้รับอนุญาตในปี 2562

หว่อง ถูกดำเนินคดีเคียงข้าง อีแวน ลัม และ แอกเนส โจว ต่อเหตุประท้วงบริเวณด้านนอกกองบัญชาการตำรวจฮ่องกงเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทั้งสามได้ให้การรับสารภาพในข้อหาต่างๆ นานา ในนั้นรวมถึงยุยงผู้อื่นให้เข้าร่วมการประท้วงที่มิได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ จำเลยทั้งสามถูกศาลสั่งควบคุมตัวเข้าเรือนจำเพื่อรอศาลกำหนดระวางโทษซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ (2 ธ.ค.) 

แม้ยังอยู่ในฐานะเยาวชน แต่หว่องเคยติดคุกมาแล้วหลายครั้ง ฐานเป็นแกนนำการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย แยกตัวเป็นอิสระจากจีนแผ่นดินใหญ่ และคราวนี้ หว่องบอกว่าเขาเตรียมใจสำหรับการติดคุกอีกครั้ง

ตลอดเวลาการประท้วงยืดเยื้อนานกว่า 7 เดือน ฮ่องกงต้องเผชิญกับความขัดแย้ง-ความรุนแรง จนท้ายที่สุดได้ทุบทำลายเศรษฐกิจและฐานะการเป็นศูนย์กลางการเงินแห่งภูมิภาคลงอย่างย่อยยับ ทำให้

ปักกิ่ง และเจ้าหน้าที่ฮ่องกง เดินหน้าดำเนินคดีพวกเรียกร้องแยกตัวเป็นอิสระจากจีนด้วยคดีความทางอาญาตามกฎหมายพื้นฐานฮ่องกง รวมถึงยังได้ออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่อันเข้มข้น

ยุทธศาสตร์ดังกล่าวสามารถสยบความเคลื่อนไหวและคืนความสงบสู่บ้านเมือง แต่ศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้ยังคงแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างรุนแรง ด้วยหลายคนยังคงต่อต้านด้วยความโกรธแค้น ต่อสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นความพยายามของจีนในการยกระดับควบคุมเมืองกึ่งปกครองตนเองแห่งนี้

ตั้งแต่เริ่มปี 2020 เป็นต้นมา การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงได้ค่อยๆ ดับมอดลง ซึ่งสาเหตุสำคัญเห็นกันว่ามีทั้งเนื่องจากความเหนื่อยอ่อนจากการต่อสู้อันยืดเยื้อ, การที่มีผู้ถูกจับกุมจำนวนมาก รวมแล้วกว่า 10,000 คน ขณะที่นักเคลื่อนไหวชั้นนำและบุคคลดังของพรรคฝ่านค้านของฮ่องกงส่วนใหญ่ล้วนแต่ถูกดำเนินคดี รวมถึงกรณีเกิดโรคระบาดใหญ่โควิด-19

มาตรการต่อสู้โรคระบาด เป็นต้นว่า ห้ามผู้คนชุมนุมในที่สาธารณะเกินกว่า 4 คน ถูกบังคับใช้แทบจะตลอดทั้งปีนี้ ปักกิ่งกำหนดกฎหมายด้านความมั่นคงฉบับใหม่ ซึ่งทำให้จีนมีอำนาจควบคุมโดยตรงเหนือเขตบริหารพิเศษแห่งนี้เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่การแสดงทัศนะหลายๆ อย่างถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เป็นต้นว่า การเรียกร้องเอกราช หรือการเรียกร้องให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซง