สืบเนื่องจากกรณีที่นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบคณะราษฎร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
“ถ้าในหลวงรัชกาลที่ 10 โอนทรัพย์สินซึ่งเดิมเป็นของชาติ(ของทุกคนในนามราชบัลลังก์) แล้วในหลวงองค์ต่อไปจะเอาวังที่ไหนอยู่ และถ้ามีการจ่ายโอนเปลี่ยนมือไปอีก เราจะเหลืออะไรที่เป็นสมบัติของชาติ
สมบัติของชาติ ไม่ใช่ทรัพย์สินที่จะโอนไปเป็นของส่วนตัว
นี่คือเหตุผลที่เราต้องไปทวงคืนสมบัติของชาติที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ให้กลับมาเป็นสมบัติของชาติสืบต่อไป
#ม็อบ25พฤศจิกาทวงคืนสมบัติชาติ”
“ขออนุญาตยกตัวอย่างแรงๆ เผื่อคนที่ยังไม่เห็นด้วยกับราษฎรที่ต้องการทวงสมบัติของชาติคืนจะเข้าใจ และเปลี่ยนใจมายืนเคียงข้างเรา
สมมุติว่า ในหลวงรัชกาลที่ 10 โอนพระบรมหาราชวัง(วัดพระแก้วด้วย) ให้คุณก้อย สมบัติชาติชิ้นนี้จะตกเป็นของคุณก้อยทันที
นี่คือสิ่งที่เราห่วงใย และพูดถึงหลักการว่า สมบัติชาติมันควรเป็นของชาติ ไม่ควรเป็นของส่วนตัว ในหลวงท่านใดขึ้นครองราชย์ ก็ครองทรัพย์สินแผ่นดินในนามกษัตริย์ ในนามราชบัลลังก์ ไม่ใช่การเอาไปเป็นของส่วนตัว หรือโอนไปให้ใครผู้ใดผู้หนึ่ง
#ม็อบ25พฤศจิกาทวงคืนสมบัติชาติ”
ล่าสุด อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า…
“อวดรู้ ทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้”
พระบรมหาราชวัง เป็นทั้งบ้านพักประจำตำแหน่งและสำนักงานของพระมหากษัตริย์ มาตั้งแต่ต้น เพียงแต่ปัจจุบันพระมหากษัตริย์ไม่ได้พักอาศัยที่นั้น
และอาจมีหลายคนไม่รู้ว่า นายกรัฐมนตรีมีบ้านพิษณุโลก เคยได้รับการอนุมัติให้เป็นบ้านพักประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี เพียงแต่ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดไปพักอาศัย
คำว่า “สถาบันพระมหากษัตริย์” คือ สถาบัน ไม่ใช่ บุคคล
และไม่ได้หมายถึงเฉพาะ ในหลวงรัชกาลที่ 10
แต่หมายถึง สถาบันของพระมหากษัตริย์ไทย
สำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ คือ สำนักงาน ที่ดูแลเรื่องทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์
ซึ่งไม่ใช่ทรัพย์สินของบุคคล แต่เป็นทรัพย์สินของสถาบันฯ
คือเป็นทรัพย์สินของในหลวงรัชกาลปัจจุบัน และในรัชกาลต่อๆ ไป
พระบรมหาราชวัง เป็นทั้งบ้านพักประจำตำแหน่งและสำนักงานของพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์รัชกาลใดก็ยกให้ใครไม่ได้
เหมือน White House เป็นทั้งบ้านพักประจำตำแหน่งและสำนักงานของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีคนใดจะยกให้ใครไม่ได้
ประธานรัฐสภา จะยกอาคารรัฐสภา ให้ใครไม่ได้
นายกรัฐมนตรี จะยกทำเนียบรัฐบาล ให้ใครไม่ได้
คำว่า “สถาบันพระมหากษัตริย์” คือ สถาบัน ไม่ใช่ บุคคล
และไม่ได้หมายถึงเฉพาะ ในหลวงรัชกาลที่ 10
แต่หมายถึง สถาบันของพระมหากษัตริย์ไทย
คำว่า ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ คือ
การปกป้องในหลวงทุกรัชกาล ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และในอนาคต ให้คงอยู่คู่ชาติไทย
สถาบันหลักของชาติไทย ประกอบด้วย
• ในหลวง เป็นประมุขของชาติ อยู่ในสังกัด สถาบันพระมหากษัตริย์
• ประธานรัฐสภา เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ อยู่ในสังกัด สถาบันนิติบัญญัติ
• นายกรัฐมนตรี เป็นประมุขฝ่ายบริหาร อยู่ในสังกัดคณะรัฐบาล
บุคคลต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น คือประมุขของแต่ละสถาบัน
ทรัพย์สิน สำนักงาน บ้านพักประจำตำแหน่ง ไม่ได้เป็นสมบัติส่วนตัวของประมุข หรือของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นของสถาบัน
ประมุขของแต่ละสถาบัน มีสิทธิ์ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินเหล่านั้นตามอำนาจและความเหมาะสม ซึ่งมีการตรวจสอบ ถ่วงดุล ซึ่งกันและกัน
เช่น รัฐสภา คือผู้มีอำนาจอนุมัติและตรวจสอบการใช้งบประมาณสำหรับสำนักพระราชวัง และคณะรัฐบาล (พระมหากษัตริย์และนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจนี้)
พระมหากษัตริย์ และนายกรัฐมนตรี มีอำนาจยุบสภา เป็นต้น
เพราะฉะนั้นการที่ม็อบทรราษฏร์ เรียกร้องให้ตรวจสอบงบประมาณในส่วนของสถาบันพระมหากษัตริย์ เกิดจากความไร้เดียงสาและการขาดการศึกษา จึงถึงชักจูงจากผู้ไม่หวังดี เพราะมันได้รับการอนุมัติและตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมจากรัฐสภาอยู่แล้ว
ม็อบทรราษฏร์ประกอบด้วย นักศึกษาที่ไร้การศึกษา นักกฎหมายที่ไม่รู้กฎหมาย และนักการเมืองที่ไม่รักบ้านเมือง
ปัญหาใหญ่ของชาติ คือ ปัญหาการศึกษา
เพราะเราผลิตบัณฑิตออกมาเต็มบ้าน แต่เป็นบัณฑิตที่ไม่มีความรู้
มีแต่นักศึกษาที่ไร้การศึกษา มีแต่นักกฎหมายที่ไม่รู้กฎหมาย
ถ้าเป็นคนที่มีการศึกษาจริงจะไม่โดนใครหลอกง่ายๆ จริงมั้ย แต่การที่เขาหลอกคนใครต่อใครได้ เพราะคนเหล่านั้นโง่เขลาไร้การศึกษาใช่หรือไม่
น่าอนาถ
อัษฎางค์ ยมนาค”