สิงคโปร์-ฮ่องกงเดินหน้าท่องเที่ยวเต็มพิกัด!?! จับคู่ ‘Travel Bubble’ ไม่ต้องกักตัว-รับรองผลลบ 72 ชม.ก่อนเดินทาง

1726

สิงคโปร์-ฮ่องกง เปิด Air Travel Bubble เต็มที่ไม่ต้องกักตัวแต่ต้องแสดงผลตรวจเป็นลบภายใน 72 ชม.ก่อนการเดินทาง เป็นเที่ยวบินตรงไม่แวะเปลี่ยนเครื่องและตรวจเชื้อทันทีเมื่อถึงสนามบิน เป็นโอกาสให้ไทยศึกษาผลกระทบ ก่อนตัดสินใจเปิดน่านฟ้ากับต่างประเทศเต็มที่ เพราะโควิด-19 ระลอกสองยังไม่อาจคาดผล ทั้งนี้แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเริ่มฟื้นตัว พึ่งตนเองไว้ก่อน สถานการณ์ติดเชื้อในต่างประเทศยังไม่น่าไว้วางใจ เพราะยุโรป-สหรัฐและในเอเชียโควิด-19ยังระบาดดุ ยอดติดเชื้อและยอดเสียชีวิตยังพุ่ง

สิงคโปร์และฮ่องกงจะเริ่มเปิดการเดินทางระหว่างกันในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ตามข้อตกลงการเดินทางทางอากาศระหว่างกันแบบไม่ต้องกักตัว (Travel Bubble)ขณะที่ทั้งสองประเทศผู้ป่วยสะสม และการติดเชื้อรายใหม่ยังทรงตัว ประกอบกับข่าวดีเรื่องวัคซีนของจีน-สหรัฐ-รัสเซียทำให้กล้าตัดสินใจมากขึ้น

ทั้งสองประเทศประกาศว่า ภายใต้ข้อตกลง Travel Bubble นั้น ผู้โดยสารเครื่องบินจะได้รับอนุญาตให้เดินทางระหว่างสิงคโปร์และฮ่องกงได้โดยไม่จำเป็นต้องกักตัวเมื่อเข้าประเทศ แต่ผู้โดยสารจะต้องเข้ารับการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 และต้องแสดงผลการตรวจเป็นลบภายในเวลา 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง นอกจากนี้ ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางมาถึงฮ่องกงจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันทีที่ถึงสนามบิน

ทั้งนี้ แม้ว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้เข้มงวดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการเดินทาง และไม่ได้กำหนดให้เปิดเผยแผนการเดินทางหรือผู้สนับสนุนการเดินทาง แต่ผู้โดยสารจะต้องไม่มีประวัติการเดินทางไปยังสถานที่อื่นๆ นอกเหนือจากฮ่องกงและสิงคโปร์ภายในระยะเวลา 14 วันก่อนการเดินทาง

ในเบื้องต้นนั้น เที่ยวบินระหว่างสิงคโปร์และฮ่องกงจะถูกกำหนดไว้ที่ 1 เที่ยวบินต่อวัน และจำกัดผู้โดยสารของแต่ละฝั่งที่ 200 คนต่อเที่ยวบิน โดยหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ได้ย่ำแย่ลงทั้งสองฝั่ง ก็มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มเที่ยวบินเป็น 2 เที่ยวต่อวันตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.เป็นต้นไป

นอกจากนี้ เที่ยวบินภายใต้ข้อตกลง Travel Bubble จะต้องขนส่งผู้โดยสารระหว่างฮ่องกงและสิงคโปร์เท่านั้น และจะไม่รวมผู้โดยสารที่แวะเปลี่ยนเครื่องทั้งที่สิงคโปร์และฮ่องกง

สิงคโปร์กำหนดให้ผู้จะเดินทางเข้าประเทศต้องมีผลตรวจหาเชื้อ COVID-19 ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง สนข.Yahoo Singapore News รายงานเมื่อ 11 พ.ย.63 อ้างประกาศ สธ.สิงคโปร์ ว่า ผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองสิงคโปร์หรือผู้มีถิ่นพำนักอาศัยถาวร ซึ่งจะเดินทางเข้าสิงคโปร์ทุกคน ตั้งแต่ 17 พ.ย.63 ต้องมีผลตรวจหาเชื้อ COVID-19 ด้วยวิธี PCR ที่แสดงผลเป็นลบก่อนออกเดินทางมาสิงคโปร์ 72 ชม. ยกเว้นผู้ที่มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงในการระบาดต่ำ ได้แก่ บรูไน นิวซีแลนด์ เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 เมื่อเดินทางมาถึงสิงคโปร์ได้

ทั้งนี้ แม้ว่าข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้เข้มงวดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการเดินทาง และไม่ได้กำหนดให้เปิดเผยแผนการเดินทางหรือผู้สนับสนุนการเดินทาง แต่ผู้โดยสารจะต้องไม่มีประวัติการเดินทางไปยังสถานที่อื่นๆ นอกเหนือจากฮ่องกงและสิงคโปร์ภายในระยะเวลา 14 วันก่อนการเดินทาง

เบื้องต้นเที่ยวบินระหว่างสิงคโปร์และฮ่องกงจะถูกกำหนดไว้ที่ 1 เที่ยวบินต่อวัน และจำกัดผู้โดยสารของแต่ละฝั่งที่ 200 คนต่อเที่ยวบิน โดยหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่แย่ลงทั้งสองฝั่ง ก็มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มเที่ยวบินเป็น 2 เที่ยวต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม เอ็ดวาร์ด เหยา รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจและพาณิชย์ฮ่องกง แจงว่า หากแต่ละเมืองมีจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วต่อสัปดาห์เฉลี่ยแล้วเกินวันละ 5 คน จะระงับเที่ยวบินเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เที่ยวบินพิเศษนี้จะขนส่งผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างฮ่องกงกับสิงคโปร์เท่านั้น ไม่รวมการแวะเปลี่ยนเครื่อง

ทั้งนี้ ฮ่องกงและสิงคโปร์ประกาศแผนแทรเวลบับเบิลระหว่างกันครั้งแรกเมื่อกลางเดือน ต.ค. เมื่อทั้งสองฝ่ายพยายามบรรเทาความเสียหายจากโควิด-19 ระบาด ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบิน ทั้งสองเมืองไม่มีตลาดการบินภายในประเทศ จึงต้องพึ่งพาการเดินทางระหว่างประเทศเป็นสำคัญ ปีก่อน นักเดินทางจากสิงคโปร์มาฮ่องกงกว่า 453,000 คน นักเดินทางจากฮ่องกงไปสิงคโปร์ 489,000 คน แม้ข้อตกลงจะยังไม่อาจทำให้มีการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกันได้เหมือนสมัยก่อนโควิด-19 ระบาด ที่มีถึง 18 เที่ยวบินต่อวัน แต่ ออง ยีคุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ยกย่องข้อตกลงแทรเวลบับเบิลนี้ว่า “เป็นครั้งแรกที่เคยมี” และอาจช่วยการเดินทางระหว่างประเทศได้บ้าง