“ดร.นิว” จวกยับ “ปิยบุตร” บิดเบือน โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ปั้นเรื่องโจมตีสถาบัน

2520

จากกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ได้เผยแพร่บทความเรื่อง โครงการราชทัณฑ์ปันสุขฯ : การลงพระปรมาภิไธยและการลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

โดยเนื้อหาอ้างอิงบริบทบนพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2475 ที่ไม่ได้ได้ถูกบังคับใช้แล้ว มีเนื้อหาของบทความดังกล่าวหลายส่วนหลายตอนทีได้พยายามชี้ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์แทรกแทรงการบริหารประเทศและราชการแผ่นดิน

ล่าสุด ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นถึงบทความดังบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า

“ปิยบุตรคงโดนรุมประชาทัณฑ์เข้าสักวัน

เจตนาอันแท้จริงของการลงพระปรมาภิไธยกับการรับสนองพระปรมาภิไธยที่เป็นไปตามหลักสากล คือ การตรวจทานและถ่วงดุลการใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชนในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ใช่การควบคุมพระมหากษัตริย์ไปเสียทุกเรื่องราวกับเป็นนักโทษ ตามที่นายปิยบุตรชอบแอบอ้างรัฐธรรมนูญชั่วคราวของคณะโจร 2475 อยู่เป็นประจำ “การกระทำใดๆ ของกษัตริย์ต้องมีกรรมการราษฎรผู้หนึ่งผู้ใดลงนามด้วย โดยได้รับความยินยอมของคณะกรรมการราษฎรจึ่งจะใช้ได้ มิฉะนั้นเป็นโมฆะ”

เรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตยของปวงชน แน่นอนว่าต้องมีการลงพระปรมาภิไธยกับการรับสนองพระปรมาภิไธยคู่กันเสมอ แต่เรื่องใดก็ตามที่เป็นพระราชอำนาจส่วนพระองค์หรือสิทธิเสรีภาพส่วนพระองค์ไม่จำเป็นต้องมีการรับสนองพระปรมาภิไธยแต่อย่างใด

เนื่องจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ต้องให้บริการแก่ผู้ต้องขังในกรณีเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นจำนวนมาก แต่ยังขาดแคลนบุคลากร เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ การดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง โครงการราชทัณฑ์ปันสุขจึงเกิดขึ้นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวตามหลักมนุษยธรรม โดยเป็นการพระราชทานทรัพย์สินส่วนพระองค์ให้คณะกรรมการนำไปดำเนินการช่วยเหลือผู้ต้องขังให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กิจกรรมดังกล่าวจึงเป็นเรื่องส่วนพระองค์ที่เป็นไปเพื่อการกุศลและช่วยเหลือประชาชน ไม่ใช่การบริหารราชการแผ่นดินอย่างที่นายปิยบุตรบิดเบือนว่า “กรณีของคณะกรรมการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขนั้น ถ้าเราลองดูขอบเขตงาน นั่นก็คือ ช่วยเหลือในเรื่องการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ให้จิตอาสาพระราชทานเข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือการแพทย์ การพยาบาล การอบรมความรู้ในเรื่องต่างๆ ตรงนี้เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินแน่นอน เกี่ยวข้องกับแนวทางในเรื่องนโยบายในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับในการบริหารประเทศ การบริหารราชการแผ่นดินแน่นอน”

แบบนี้ถ้าใครอยากจะช่วยเหลือผู้ต้องขัง นำเงินส่วนตัวมาบริจาคหรือสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ ออกมาทำโครงการดีๆให้ผู้ต้องขังได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดจนได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์กับชีวิต จะไม่กลายเป็นการบริหารราชการแผ่นดินไปหมดเลยหรืออย่างไร? นอกจากขยันปั้นเรื่องโยงสถาบันพระมหากษัตริย์ไปสู่ความขัดแย้งแล้วบิดเบือนในประเด็นที่ละเอียดอ่อนเสียเอง นายปิยบุตรก็ยังชอบสมมติเหตุการณ์เกินจริง โดยที่สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใดอีกต่างหาก

ในภาพอาจจะมี 1 คน

พอพระมหากษัตริย์ช่วยเหลือประชาชนแบบเงียบๆ ก็ออกมาหาเรื่องว่ากษัตริย์มีไว้ทำไม แต่พอพระมหากษัตริย์ช่วยเหลือประชาชนแบบเป็นทางการขึ้นมาหน่อย ก็หาว่าเป็นการแทรกแซงการบริหารราชการแผ่นดิน นายปิยบุตรจบปริญญาเอกด้านกฎหมายมาจริงๆหรือ? แค่เรื่องส่วนพระองค์ที่เป็นเรื่องการกุศลเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนกับการบริหารราชการแผ่นดินนายปิยบุตรยังไม่มีปัญญาแยกแยะ

หากนายปิยบุตรยังไม่หยุดบิดเบือนสร้างความแตกแยกและให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ เกรงว่าประชาชนทั่วไปจะอดทนไม่ไหวกับพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของนายปิยบุตร ความเกลียดชังมากมายจะย้อนกลับไปหาตัวนายปิยบุตรเอง และบางทีนายปิยบุตรอาจถูกรุมประชาทัณฑ์ก่อนติดคุก หรือถูกรุมประชาทัณฑ์ในคุกก็เป็นได้ เพราะแม้แต่เรื่องประโยชน์สุขของผู้ต้องขัง นายปิยบุตรยังกล้าเบียดเบียนด้วยการนำเรื่องบิดเบือนมาเป็นประเด็นสร้างความแตกแยกได้เลย

ผมสงสัยจริงๆว่านายปิยบุตรจะถูกรุมประชาทัณฑ์นอกคุกหรือในคุกก่อนกัน?”