บิ๊กตู่ ปรามอย่าจัดม็อบชนม็อบ ประณามทำร้ายคนต่างชาติทำเสียภาพลักษณ์ประเทศ มองเห็นต่างการเมืองเป็นวิถีปชต.แต่ต้องอยู่ตรงกลางให้ได้
เมื่อเวลา 12.45 น.วันที่ 10 พ.ย.ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ประกาศพร้อมชนกับผู้ชุมนุมที่เห็นต่าง รัฐบาลกังวลบานปลายหรือไม่ว่า การประกาศพร้อมชนตนไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ถ้าชนหมายถึงการเผชิญหน้า กระทบกระทั่งกัน ตนคิดว่ามันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา ซึ่งต่างคนต่างแสดงความคิดเห็นได้ในส่ิงที่เป็นประโยชน์ ไม่ละเมิดกฎหมาย และจะเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เข้าข้างใคร
แม้กระทั่งทำผิดกฎหมายรัฐบาลยังต้องดูแล เพราะไม่ต้องการไม่ให้เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน หรือเกิดอะไรขึ้น แต่เรื่องสำคัญที่สุดต้องมองอีกแง่หนึ่งด้วย การที่ชาวต่างชาติถูกทำร้ายร่างกาย ตนเห็นว่าไม่สมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทยด้วยกัน และยิ่งเป็นคนต่างชาติเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร แม้จะด้วยวาจาหรืออะไรกันบ้าง แต่ไม่ใช่เข้าไปทำร้ายเขาแบบนี้ ทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศไทย คนไทยทั้งหมด
“เราเคยพูดไว้แล้วว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมือง ถือเป็นเรื่องปกติของวิถีทางประชาธิปไตย ต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ เราต้องอยู่ตรงกลางให้ได้ รัฐบาล ฝ่ายกฎหมาย เราพยายามอดทนอดกลั้นมาหลายๆเรื่องอยู่แล้ว ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย เขาเหนื่อยเขาเครียดเหมือนกัน เขาอดทน อดกลั้นเท่าไหร่ แต่เขาทำเพื่อใคร เขาทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่หรือเปล่า ต้องดูตรงนั้นด้วย ฉะนั้นการเสนอข่าวอะไรผมไม่ห้ามท่านไม่ได้อยู่แล้ว จะทำอย่างไรก็ตามต้องไม่ให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นเรื่องความรับผิดชอบของทุกท่านไปแล้วกัน ขอผมด้วย ของทุกคนด้วย คนไทยทั้งประเทศ ขอยืนยันว่าอย่าให้เกิดการกระทบกระทั่งกันเด็ดขาด และพยายามอย่าฝ่าฝืนกฎหมายกัน จนเกินเลยหรือเลยเถิด หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติก็ถือว่าเป็นความผิด ซึ่งตอนนี้เราก็พยายามใช้ทุกมาตรการอยู่แล้ว”นายกฯกล่าว
นายกฯ กล่าวตอนท้ายว่า หลายอย่างอยู่ในกระบวนการรัฐสภา หลายอย่างอยู่ในกลไกการแก้ปัญหา ถ้าทุกคนไม่รับอะไรกันเลยแล้วมันจะไปทางไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมจะทำตามข้อเสนอของคณกรรมการสมานฉันท์หรือไม่หากมีข้อเสนอมา พล.อ.ประยุทธ์ ตอบบว่า เขายังไม่ตั้งคณะกรรมการเลย
