“ทิพานัน” ตอกกลับ “โรม” คงเสียขวัญหลังเห็นพลังจงรักภักดีต่อสถาบัน เลยต้องกล่าวหารัฐบาลสองมาตรฐาน

3886

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในการปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมแบบสองมาตรฐาน และกล่าวหาว่ากลุ่มเสื้อเหลืองเป็นม็อบมีเส้น

ว่า เข้าใจว่านายรังสิมันต์เห็นพลังแห่งความจงรักภักดีของประชาชนที่มาร่วมรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว อาจรู้สึกเสียขวัญ ว่าสิ่งที่พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และกลุ่มผู้ชุมนุม พยายามผลักดันให้มีการปฏิรูปสถาบันนั้นจะพ่ายแพ้ ด้วยพลังเงียบ ไม่ว่าจะสวมเสื้อสีเหลือง สีชมพู เสื้อหลากสี ต่างออกมาเชิดชูสถาบันเป็นจำนวนมหาศาล จึงหาช่องกล่าวโทษรัฐบาล

และฝ่ายความมั่นคง ว่าเลือกปฏิบัติเพื่อแก้เกี้ยว ทั้งที่นายรังสิมันต์ก็รู้อยู่แก่ใจว่า การมาร่วมรับเสด็จของประชาชนนั้นไม่เข้าข่ายการชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ แต่เลือกที่จะบิดเบือนให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า หากนายรังสิมันต์มีความหวังดีต่อชาติบ้านเมือง และน้อง ๆ เยาวชนจริง โดยเฉพาะแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีคดีติดตัว นายรังสิมันต์ควรจะแนะนำให้ลดข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ให้เหลือเพียงข้อเดียว คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และต้องไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 1 – 2 หมวดพระมหากษัตริย์ พร้อมกับหยุดคุกคามสถาบันด้วยความก้าวร้าว เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้โดยที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ที่สำคัญคือพรรคก้าวไกลควรแนะนำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าร่วมในคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ อันเป็นการแก้ไขปัญหาแบบอารยะดีกว่า การปฏิเสธที่จะเข้าร่วมซึ่งไม่มีฝ่ายใดได้ประโยชน์

“การปฏิเสธการเข้าร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ อาจเป็นการปฏิเสธโอกาสสุดท้าย ในการผลักดันข้อเรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจผลักประเทศชาติไปสู้เดดล็อกทางการเมืองในอนาคต สุดท้ายกลุ่มผู้ชุมนุมอาจต้องกลับบ้านมือเปล่า การเคลื่อนไหว 2 – 3 เดือนที่ผ่านมาต้องเสียของ”

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ โรมได้ออกมาต่อว่ารัฐบาลสองมาตรฐานดูแล “ม็อบราษฎร-เสื้อเหลือง” พร้อมเหน็บฝังหนึ่งเสิร์ฟน้ำ อีกฝั่งฉีดน้ำ และยังถามหาคนหักค่าหัวคิวเบี้ยเลี้ยงตำรวจ