จากในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จากพระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต ไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูฝน เป็นเครื่องทรงฤดูหนาวถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง จากนั้นได้เสด็จฯเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทรงโบกพระหัตถ์ แย้มพระสรวล และมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรอย่างใกล้ชิด
ต่อมามีภาพแชร์ปรากฏ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “กาญ รักพ่อหลวง” ได้โพสต์ภาพเด็กนักเรียนคนหนึ่ง กับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมข้อความเล่าเหตุการณ์ ที่มาของภาพอันน่าปลาบปลื้มใจที่สุดในชีวิต ด้วยประโยคเริ่มต้นว่า “กระผมบอกกับท่านว่า กระหม่อมเป็นเยาวชนพ่ะย่ะค่ะ มาถวายพระพรพระองค์ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานพระพุทธเจ้า ในหลวงต้องสู้นะพ่ะยะค่ะ อย่ายอมเเพ้นะพ่ะย่ะค่ะ….” ก่อนกลายเป็นประเด็นที่มีการขยายต่อ ๆ กันในโลกโซเชียลอย่างมากมาย ด้วยความรู้สึกปีติยิ่งในพระเมตตาของทั้งสองพระองค์
ล่าสุดวันนี้(3พ.ย.63) หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หรือ ท่านชายใหม่ ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ถึงเด็กชายคนดังกล่าวพร้อมภาพถ่ายสองภาพว่า
ไม่ทราบว่าเป็นภาพจริงหรือภาพปลอมช่วยตรวจดูกันด้วยครับ เมื่ออยากจะเล่นสงกรานต์สาดน้ำกัน ก็ควรใช้น้ำสะอาดมาสาดใส่กัน มาสู้กัน อย่าเอาน้ำสกปรก น้ำเน่ามาสาดใส่ถ้าจะเปียก ก็ขอให้เปียกเพราะน้ำสะอาด มิใช่เปียกเพราะโดนน้ำเน่า น้ำสกปรกสาดใส่
ขอฝากให้หนุ่มน้อยผู้นั้นในรูปได้อ่าน ด้วย
The quality of mercy is not strain’d, It droppeth as the gentle rain from heaven
พระราชนิพนธ์แปลความว่า อันว่าความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน
ต่อมาหนุ่มน้อยม.4 หรือ อัศวิน ซึ่งได้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า อัศวิน สมโภชน์ วัดราชบพิธร้อยห้าสิบปี ได้เข้ามาตอบคำถาม ม.จ.จุลเจิม ในเฟซบุ๊กในทันทีว่า
กระหม่อมขอทูลว่าเป็นภาพของกระหม่อมจริงขอรับกระหม่อม ภาพที่ถ่ายกับคุณธนาธร เป็นที่กระหม่อมถ่ายไว้ตอนวันที่คุณธนาธรมาหาเสียงขอรับกระหม่อม ซึ่งตอนนั้นกระเเสเรื่องสถาบันยังไม่มีขอรับกระหม่อม
นับว่าในเวลานั้นเป็น คุณธนาธรเป็นจุดสนใจของประชาชน เเละเยาวชนอย่างกระผมด้วย จึงได้ไปฟังเขาปราศัยเเละถ่ายรูป ไว้เป็นที่ระลึกขอรับกระหม่อม เเต่เมื่อเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยนขอรับกระหม่อม
กระหม่อมก็เข้าใจว่าการเมืองมันเป็นสิ่งที่ไม่เเน่นอน เเละกระหม่อมก็ทราบดีว่า ในอนาคตถ้ามีภาพนี้ออกไปต้องถูกจับไปยื่นโยงทางการเมืองเเน่นอนขอรับกระหม่อม ว่าเคยถ่ายรูปกับคน นั้นคนนี้
กระหม่อมก็มีงานอดิเรกที่ชอบถ่ายรูปกับคนมีชื่อเสียง ซึ่งเป็นงานอดิเรกที่ไม่เหมือนใคร เเละกระหม่อมก็เข้าใจว่าเรื่องนี้มันต้องถูกจับโยงตามสไตล์ผู้ยุยงปลุกปั่นเป็นธรรมดา กระหม่อมก็เข้าใจบางทีการเมืองมันก็โหดร้าย เเต่กระหม่อมก็เข้าใจว่าสิ่งพวกนี้สามารถคุยเเละประนีปนะนอมกันได้ขอรับกระหม่อม
ที่มา : เฟซบุ๊ก จุลเจิม ยุคล
