โหรฟองสนาน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Fongsanan Chamornchan ระบุว่า #จงรักภักดีสถาบัน แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 348 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ อาการหลังจากความอึดอัดใจในเมืองลดลง
ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และลีลาหัวหน้าดาวดี-ร้ายหยุดตรึงกัน
พฤหัสบดีจร (5) เดินออกจากราศีธนูเข้าราศีมังกร เช้าตรู่วันที่ 14 พฤศจิกายน2563 – ยุติการทับพระเสาร์ดวงเดิม(๗) – แล้วเริ่มทำมุมถึงพระราหูศรีจร (8) ที่พฤษภ พระเสาร์จร (7) เดินอยู่ในราศีธนู-ยังทับพฤหัสบดีดวงเดิม (๕) – 5 ธันวาคม 2563
พระมฤตยูจร (0) เดินถอยหลังในราศีเมษ
พระราหู (8) ศรีจรเดินอยู่ในราศีพฤษภทับพระอังคารดวงเดิม (๓)
ตามที่แม่หมอสมัครเล่นตอนที่แล้วได้อธิบายปรากฎการณ์ในดวงเมืองรัตนโกสินทร์ที่เกิดอึดอัดใจกันไปทั่ว-เหมือนคนท้องอืดหรือหัวเราะมิออก ร่ำไห้มิได้ที่เริ่มก่อตัวสำหรับรอบนี้เริ่มตั้งแต่ประมาณ 17 กรกฎาคม 2563 (พฤหัสบดีหัวหน้าดาวดีกับพระเสาร์หัวหน้าดาวร้ายตรึง-สมาสัปต์กันที่ราศีธนู) แล้วจะค่อย ๆ ลดน้อย-หมดไปตั้งแต่ประมาณ 14 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป (พฤหัสบดีจร5 ย้ายเข้าราศีราศีมังกร-ยุติการตรึงกับพระเสาร์) สำหรับรอบนี้นั้น
ตอนนี้มาว่ากันถึงอาการของเมืองหลังวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไปว่าจะเป็นอย่างไร
จากการเก็บข้อมูลมาหากเป็นชะตาคนเมื่อผ่านพ้นปรากฏการณ์ชวนอึดอัดใจ-ต้องเดินทางแคบ ๆ ที่ไม่อยากเดินแต่จำเป็นต้องเดินหรือฟันฝ่าหรืออาจไม่ทางเลือกต้องเดินตามทางที่เลือกไม่ได้เพียงหนึ่งทางแล้ว ชีวิตจะพัฒนาไปอีกขั้นตอนหนึ่ง-หรือยกระดับไปอีกชั้น-ไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว
เฉกดังเช่นสมาชิกในครอบครัวผู้เขียนที่เคยเลือกทางไว้ 24 ทาง-แต่กลับไปได้ทางที่ 25 ที่ไม่ได้ตั้งใจเลือกแล้ว ผลหลังจากนั้นสถานะของคนในครอบครัวที่ผ่านพ้นปรากฏการณ์หน้าเขียวหน้าเหลืองแล้วก็พัฒนาไปอีกขั้นตอนหนึ่ง เพื่อสู้ต่อในสนาม-ระดับ-สถานะที่สูงขึ้นต่อไป
นักธุรกิจบางคนระหว่างที่เจอปรากฎการณ์ดาวสองขั้วตรึงกันในดวงชะตาขนาดน้ำตาซึมเพราะเดิน-ซ้าย-ขวา-ล่าง-บนติดขัดหมด ผู้เขียนก็ให้กำลังใจว่ามีทางเดินหนึ่งทาง เพราะการบีบมันคือปรากฏการณ์ท้าทายให้ปรับปรุงตัวเองก่อนที่ธุรกิจจะพัฒนาไปอีกระดับหนึ่ง
สำหรับดวงเมืองรัตนโกสินทร์หลังวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 ผู้เขียนคาดว่า
1. เริ่มเห็นทางออกสำหรับปัญหาที่อึดอัดใจในเมืองเกี่ยวกับอุดมการณ์ความเชื่อที่ต่อสู้กันอยู่ระหว่างสองฝ่ายซึ่งจะเป็นทางไหนคงจะถูกเลือกแล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าเราอาจจะต้องต่อสู้กันในเรื่องอุดมการณ์สำคัญในเมืองที่ปรากฎชัดสองประการแล้วขณะนี้คือประชาธิปไตย-ไม่เป็นประชาธิปไตย และเอาสถาบัน-ไม่เอาสถาบัน ผลัดกันรุก-รับยาวนานไปอีกประมาณเกือบ 20 ปี ซึ่งวิถีทางนี้สามารถย้อนไปอ่านคำทำนายเดิมของผู้เขียนที่เตือนไว้ตั้งแต่ต้นปี 2562ในบทความแม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 264 – ชื่อตอนยุคที่ 13 ของกรุงรัตนโกสินทร์โผล่ขึ้นปลายขอบฟ้า การต่อสู้อุดมการณ์สำคัญในระหว่าง 20 ปีนี้ ผู้เขียนอาจจะเขียนอีกครั้งในโอกาสหน้าเพราะดูแล้วหากไม่ระวังอาจจะมีความขัดแย้งอุดมการณ์ด้านเศรษฐกิจเพิ่มเข้ามาด้วย
2. เริ่มวาระการยำ-แก้ไขรัฐธรรมนูญ-ทำประชามติ-ได้รัฐธรรมนูญตั้งแต่ประมาณ 14 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป (พฤหัสบดีจร-ตัวแทนรัฐธรรมนูญเข้าไปเดินในราศีมังกร-ได้มาตรฐานนิจ-ต่ำ-ไร้แสง-แรงต้านอ่อน) เกณฑ์นี้ยาวไปถึงประมาณ 9พฤศจิกายน 2564 โดยเป้าหมายหลักของการเปลี่ยนแปลง-แก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ดูเหมือนอำนาจของสมาชิกวุฒิสภาที่ถ้าจะให้ถูกโฉลกต้องลดบทบาท-อำนาจลง(พฤหัสบดีจร5 ตัวแทนสภาที่มาจากการแต่งตั้งที่ราศีมังกรได้มาตรฐานนิจ-อับแสง-ไร้แรงต้าน)
3. เกณฑ์เลือกตั้งท้องถิ่นและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเริ่มตั้งแต่ประมาณ 14 พฤศจิกายน 2563 – 9 พฤศจิกายน 2564 (พระราหูศรีจร-8เจ้าของการเปลี่ยนแปลงที่ราศีพฤษภได้มาตรฐานนิจ-ทับพระอังคารดวงเดิม-๓ มาตรฐานประ-ตัวแทนผู้นำท้องถิ่น)
4. เกณฑ์ยุบสภา- หรือล้ม-เปลี่ยนแปลงในสภาผู้แทนราษฎรสามารถเกิดได้ทุกเมื่อระหว่าง 14 พฤศจิกายน 2563 – 9 พฤศจิกายน 2564 (พฤหัสบดีจร5ตัวแทนรัฐสภาที่ราศีมังกร-ทำมุมถึงพระราหูจร8ตัวแทนสภาที่มาจากการเลือกตั้ง)ยกเว้นช่วง 29 มีนาคม 2564 – 27 กันยายน 2564 ไม่ว่าความอึดอัดใจในเมืองตามเกณฑ์นี้จะลดลงเพียงใด แต่ก็ใช่ว่าปัญหาต่าง ๆ จะหมดไป ซึ่งผู้เขียนก็ยังย้ำเหมือนเดิมว่ารอบนี้ดวงเมืองต้องผ่าน-ยืนระยะระหว่าง 10 กันยายน 2563 ไปให้ถึงอย่างต่ำ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ให้ได้
ดังนั้นบทความตอนหน้าจะได้ว่าถึงแม้ความอึดอัดใจจากการตรึงกำลังของหัวหน้าดาวสองขั้วผ่านไปแล้ว เมืองยังมีอะไรต้องระวังต่อไป-ต่อด้วยอีกตอนคุณวิเศษตามหลักโหรจะเริ่มปรากฏในระหว่างดวงเมืองมีวิกฤต ซึ่งจะรอเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่าดวงเมืองรัตนโกสินทร์หากเกิดวิกฤต-โอกาสจะตามมา..เสมอ