หลังจากที่กลุ่ม ทะลุแก๊ซ ซึ่งถือเป็นเครือข่ายหนึ่งในม็อบแยกดินแดง ได้เปลื่ยนชื่อเป็น “ภาคีปฏิวัติประชาชนไท-PRA” เริ่มมีความชัดเจนในแนวทางมากยิ่งขึ้น เมื่อได้ประกาศผ่านทวิตเตอร์ของกลุ่มว่า ต้องการล้มล้างการปกครอง อีกทั้งยังอ้างว่าต้องการ ปลดปล่อยอีสานล้านนา และปาตานี ซึ่งชัดเจนว่า ต้องการปลุกไฟชายแดน โดยการโพสต์ 4 ข้อ ถึงรายละเอียดที่อยากเรียกร้อง ซึ่งนอกเหนือไปจากการข้อเรียกร้องเดิมที่ต้องการออกมาขับไล่รัฐบาล
ต่อมาในทวิตเตอร์ เจ๊จุก คลองสาม ได้เปิดเผยภาพแชทในกลุ่มที่มีเครือข่ายทะลุแก๊ส และมวลชนจำนวนหนึ่งอยู่ในนั้นด้วย โดยใจความของการสนทนา ม็อบเริ่มเสียงแตก เพราะไม่พอใจการกระทำของทะลุแก๊สบางคน ที่ยังใช้อาวุธ และประทัด รวมทั้งยังพูดถึงด้วยว่า ตอนนี้ม็อบแยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่จะสู้แบบสันติและกลุ่มที่ต้องการประทะ รวมทั้งยังมีการต่อว่าแอดมินเพจบางกลุ่ม ที่ยกเลิกการชุมนุม ไม่สู้ต่อ ทั้ง ๆ ที่มีคนติดคุก ถูกดำเนินคดีไม่ได้รับความช่วยเหลือ บางรายที่เคยออกมาป่วนเมืองด้วยกัน ถึงขั้นพิการ เจ็บหนักก็มี แต่ในกลุ่มยังนิ่งเฉย
แม้ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสของม็อบแยกดินแดงจะแผ่วลงไปมาก แต่ก็ยังมีบางกลุ่มเข้าไปป่วนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบเบาะแสของการซุกซ่อนอาวุธ ไว้ตามหอพัก ตามตรอกซอกซอยใกล้พื้นที่แฟลตดินแดงจำนวนมากด้วย โดยเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา ทางด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมในเขตพื้นที่กรุงเทพฯว่า กลุ่มแรกจะเป็นศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ชุมนุมที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเวลา 17.00 น. กลุ่มที่ 2 กลุ่มพลเมืองโต้กลับที่หน้าศาลฏีกา เวลา 17.00 น. กลุ่มที่ 3 กลุ่มทะลุแก๊สนัดชุมนุมที่ใต้ด่วนดินแดงเวลา 17.30 น. อาจจะมีการก่อความไม่สงบ อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.ได้จัดเตรียมกำลังพลไว้เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเน้นย้ำปฏิบัติภายใต้กรอบของกฎหมาย
และการชุมนุมเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มทะลุแก๊สมีการวมตัวกันเมื่อเวลา 17.30 น. โดยมีการขว้างปาประทัดเป็นระยะ และเป็นเหตุให้ประชาชนที่เดินผ่านได้รับบาดเจ็บด้วย เจ้าหน้าที่ได้มีการปฐมพยาบาลและประสาให้ญาติรับตัวกลับ แต่ยังมีการขว้างปาประทัดต่อเนื่องที่ใต้ทางด่วนดินแดง กระทั่งเวลา 22.30 น.สามารถควบคุมพื้นที่ได้ ในการดำเนินการสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งเหตุซึ่งหน้าและตามหมายจับ 5 คดี ผู้ต้องหา 3 คน นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากประชาชนแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยซุกอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่งใกล้แฟลตดินแดง เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบระเบิดแสวงเครื่อง 3 ลูก จะได้เร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดต่อไป
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการชุมนุมทั้งสิ้น 708 คดี สั่งฟ้องแล้ว 304 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 410 คดี ประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนถ้าพบบุคคลหรือวัตถุต้องสงสัยแจ้งมายังสายด่วน 191 ส่วนผู้ปกครองต้องช่วยกันตักเตือนให้คำชี้แนะกับบุตรหลานไม่ต้องถูกดำเนินคดี เพราะพื้นที่กรุงเทพฯเป็นพื้นที่ประกาศห้ามมีการชุมนุมหรือมั่วสุมต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรคถ้าฝ่าฝืนจะมีความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พรบ.ควบคุมโรค
