นาย อัษฎางค์ ยมนาค เตือน ม็อบทรราษฎร์ อย่าดูถูกเหยียดหยาม สิ่งอันเป็นที่เคารพบูชา เพราะทุกคนจะสู้โดยไม่กลัวตายเพื่อรักษาศรัทธาของตนเอง
จากกรณีวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มคณะราษฎรได้ประกาศระดมมวลชน ไปชุมนุมหน้าตึกเนชั่น บางนา-ตราด, แยกวัดแขกสีลม และบริเวณสกายวอล์ค MBK ในเวลา 16.00- 17.00 น. โดยสิ่งที่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากคือ การกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมที่แสดงออกไปในทางจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างชัดเจน
ล่าสุดทางด้าน นายอัษฎงค์ ยมนาค นักวิชาการประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ม็อบราษฎร แสดงออกไปในทางจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยระบุข้อความว่า
“อย่าดูถูกเหยียดหยาม สิ่งอันเป็นที่เคารพบูชา ในความศรัทธาของผู้อื่น”
คือสิ่งที่ที่ผมจับใจความได้จากคำพูดของ อ.แก้วสรร ในที่ประชุมเมื่อวานนี้ สามารถนำมาอธิบายภาพเหตุการณ์นี้ได้ดี
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนมีข่าวว่า อาจารย์โรงเรียนมัธยมอายุ 40 กว่าในฝรั่งเศส โดนเด็กอายุ 18 ลอบสังหาร หลังจากจบการสอนที่ยกพระมุฮัมมัด ศาสดาของชาวมุสลิม มาพูดในชั้นเรียน
เพราะอาจารย์ท่านนั้น “ไปดูถูกเหยียดหยาม สิ่งอันเป็นที่เคารพบูชา ในศรัทธาของผู้อื่น”
มีคนมากมาย ที่ยอมทำทุกอย่าง เพื่อรักษาสิ่งอันเป็นที่เคารพบูชา ในศรัทธาของตนเอง
………………………………………………………………….
ผู้ที่เกิดวันจันทร์ ตามที่ #ม๊อบทรราษฎร์ กล่าวถึงคือในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงงานหนักตลอดพระชนมชีพ จนทำให้ลูกหลานไทย (ซึ่งรวมถึงกลุ่มม็อบที่ออกมาแสดงความอกตัญญู ด้วยความหยาบช้าต่อพระองค์) ให้ได้มีอยู่มีกิน อยู่ดีมีสุข มีสิทธิเสรีภาพ มากเกินพอ ที่จะออกมาแสดงหยาบช้าต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
คำว่า “พ่อมึง” ที่ #ม๊อบทรราษฎร์ กล่าวถึง
พ่อ ในที่นี่หมายถึง ในหลวงรัชกาลที่ ๙
มึง ในที่นี่หมายถึง พ่อและแม่ของมึงเอง ไอ้พวกม๊อบทรราษฎร์
สรุปว่า พวกเธอ กำลังจาบจ้วง ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่สละความสุขส่วนพระองค์ เพื่อทำให้พ่อแม่ของมึง มีอยู่มีกิน จนสามารถเลี้ยงดูพวกมึงจนเติบโต
จนปีกล้าขาแข้ง ออกมาดูถูกเหยียดหยาม ในสิ่งอันเป็นที่เคารพบูชา และความศรัทธาของพ่อแม่ของมึงเอง ที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙
พวกเธอ ไม่ได้อกตัญญู ดูถูก เหยียดหยาม ในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น
แต่พวกเธอ อกตัญญู ดูถูก เหยียดหยาม ต่อพ่อแม่ที่ให้กำเนิด และเลี้ยงดูพวกมึงมาจนโตขนาดนี้อีกด้วย
………………………………………………………………….
“อย่าดูถูกเหยียดหยาม สิ่งอันเป็นที่เคารพบูชา ในศรัทธาของผู้อื่น”
เพราะทุกคนจะสู้โดยไม่กลัวตายเพื่อรักษาศรัทธาของตนเอง
การดูถูกเหยียดหยาม สิ่งอันเป็นที่เคารพบูชา ในศรัทธาของผู้อื่นนี้ จะนำมาซึ่งรัฐประหาร หรือสงครามกลางเมือง
ที่จุดจบของมัน คือความฉิบหายของชาติและทุกคนทุกฝ่าย
ตั้งสติ แล้วคิดทบทวนดูซิว่า… พวกมึง กำลังจะช่วยชาติไปสู่การพัฒนาหรือกำลังทำลายชาติที่กำลังพัฒนาให้ลงเหว
นี่หรือคือการกระทำของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่อ้างว่าเป็นปัญญาชน
นี่หรือคือวิธีการเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย
มันใช่หรือไม่ คิดทบทวนให้ดี ก่อนที่ความตั้งใจจะช่วยชาติ กลายเป็นทำลายชาติ ชาติที่พ่อแม่ของพวกมึง เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมกันสร้างขึ้นมา ให้พวกมึงคุณเป็นอีกคนใช่มั้ย ที่สนับสนุนม็อบทรราษฏร์นี้ทบทวนกันดูอีกทีว่าคุณกำลังสนับสนุนกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้หรือ คุณเกิดมาทันเห็นพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาล ๙ หรือไม่
นี่คุณเป็นอีกคนที่สนับสนุนผู้ที่ทำลายชาติ ไม่ใช่ช่วยชาติอย่างที่เข้าใจ ทบทวนกันใหม่ดีๆ
“อย่าดูถูกเหยียดหยาม สิ่งอันเป็นที่เคารพบูชาในศรัทธาของผู้อื่น”
เช่นคนรุ่นพ่อแม่ มีความเคารพบูชา ศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์ ในขณะที่คนรุ่นใหม่อาจไม่มี
แต่สิ่งที่คนรุ่นใหม่ควรจะมี คือให้ความเคารพในความศรัทธาของผู้อื่น”