จากกรณีที่ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Suphanat Aphinyan
มีเนื้อหาระบุว่า “เปิดการลงประชามติ ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาชนทั้งประเทศกว่า 60 ล้านคน ร่วมกันเสนอทางออกด้วยวิธีการทางประชาธิปไตยอย่างสันติ”
ทั้งนี้ก่อนหน้าดร.นิว ได้โพสต์ข้อความอีกด้วยว่า ข้าพเจ้าขอจัดตั้ง “คณะปฏิวัติชาติ” ให้เป็นของประชาชน มีจุดประสงค์ในการสร้างประชาธิปไตยโดยสันติวิธี ตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนอย่างแท้จริง ถือประโยชน์ของชาติและประชาชนทั้งประเทศเป็นที่ตั้ง และอยู่บนพื้นฐานของหลักวิชาการปกครองที่ถูกต้อง
“คณะปฏิวัติชาติ” ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยแบบราชอาณาจักร มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จักสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ให้เป็นความจริง
“…ข้าพเจ้าเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิ์ขาดและโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร…”
ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ ประกาศ ณ วันปิยมหาราช ๒๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันมากพ้นรำพันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ล่าสุดดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
#การลงประชามติของประชาชนโดยประชาชนเพื่อประชาชน
ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องมาจากการฟังเสียงอันแท้จริงของคนไทยทั้งประเทศกว่า 60 ล้านคน
เพื่อยุติวงจรอุบาทว์ของการใช้กฎหมู่ ซึ่งดำเนินมาอย่างยาวนานกว่า 88 ปี นับตั้งแต่ พ.ศ. 2475 คณะราษฎรเริ่มต้นการใช้กฎหมู่ของคนส่วนน้อย โดยไม่ได้ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาชนทั้งประเทศ หรือเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
การประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อหาทางออกวิกฤตของประเทศในครั้งนี้ จึงควรตระหนักถึงการลงประชามติเพื่อประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่การลงประชามติอย่างคับแคบ โดยมีตัวเลือกอันจำกัด ราวกับถูกขีดเส้นให้เดินโดยคนส่วนน้อย, ตัวแทนของประชาชนที่รับใช้นายทุนพรรคการเมือง, การก่อม็อบร่วมกับการเคลื่อนไหวในรัฐสภาของคนกลุ่มหนึ่ง ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ และเป็นประโยชน์ของคนส่วนน้อย ไม่ใช่ประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศโดยตรง
ดังนั้นหากการลงประชามติไม่ได้มาจากประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน ก็ไม่อาจที่จะแก้ไขปัญหาเรื้อรังมากมาย ซึ่งคอยปิดกั้นโอกาสในการพัฒนาประเทศอันประเมินค่ามิได้ และทำให้คนไทยเสียโอกาสมาอย่างยาวนาน เข้าใกล้ศตวรรษเข้าไปทุกที
ผมจึงขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำ คือ การคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชน ตามมาตรา 166 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
- เปิดโอกาสให้คนไทยทั้งประเทศช่วยกันเสนอทางออกของประเทศร่วมกันอย่างกว้างขวางและสันติ
- คัดกรองข้อเสนอซึ่งเป็นที่นิยม และไม่ขัดแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยอาจจะใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย แทนการรวบรวมรายชื่อสนับสนุนข้อเสนอตามปกติ
- นำข้อเสนอทั้งหมดที่ผ่านการคัดเลือก เข้าสู่การลงประชามติของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
.ดร.ศุภณัฐ
27 ตุลาคม พ.ศ. 2563
#ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ”