จากที่วันนี้(21ก.ค.63) ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้กำลังใจ ปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ และร่วมฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีฉีกบัตรประชามติ จากกรณีที่โตโต้ฉีกบัตรออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2559
ทั้งนี้นายปิยบุตร กล่าวว่า ทั้ง3คนเป็นนักกิจกรรมเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารตั้งแต่ปี 2557 และเล็งเห็นความไม่ชอบธรรมของกระบวนการลงประชามติ ซึ่งตามความเห็นของตนมองว่าไม่ได้มาตรการ ปิดกั้นเสรีภาพของฝ่ายรณรงค์ไม่รับรัฐธรรมนูญ โดยวันนี้ก็ยังมีคดีอีกมากที่ยังค้างอยู่ในศาล
“เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะผ่านประชามติและประกาศใช้แล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมีความจำเป็นใดๆที่ต้องดำเนินคดีต่อ เพราะยิ่งจะเป็นการตอกย้ำถึงความไม่ชอบธรรมในกระบวนการประชามติเอง เหตุที่ตนมาวันนี้เนื่องจากต้องการให้กำลังใจผู้ที่แสดงออกด้วยการอารยะขัดขืนซึ่งเป็นการต่อสู้แบบสันติอหิงสา”
นอกจากนี้นายปิยบุตร ยังกล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาว่า ในรัฐประชาธิปไตยต้องมีเสรีภาพการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุม ถ้าไม่มี2สิ่งนี้รวมถึงสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์ ประชาธิปไตยก็จะเหลือเพียงการลงคะแนนเลือกตั้งเท่านั้น โดยสาเหตุของการชุมนุมในแต่ละครั้งนั้นมาจากการที่สถาบันทางการเมืองไม่สามารถตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของประชาชนได้
“ตนก็ยังมองว่า ยังพอมีเวลาให้แก้ไขวิกฤตการณ์ครั้งนี้อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะเล็งเห็นปัญหานี้หรือไม่ อย่างไรก็ดีตนไม่อยากให้หนังม้วนเดิมฉายซ้ำ ขึ้นอยู่กับว่าผู้มีอำนาจจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งการใช้อำนาจรัฐเข้ากดขี่ไม่ช่วยแก้ปัญหา เพราะบทเรียนในอดีตก็มีให้เห็นมาแล้ว โดยทางคณะฯจะติดตามในฐานะพลเมืองพร้อมเอาใจช่วย และขอยืนยันว่าเป็นเสรีภาพในการแสดงออก
การทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หรือการจะใช้กลไกรัฐเข้าปราบปราม ตนคิดว่า2วิธีนี้แก้ปัญหาไม่ได้ พวกเขาจะแสดงออกอย่างไรก็ตาม เขาคืออนาคตของประเทศไทย พวกเขาคืออนาคตของชาติ ถ้าเราจงใจมองไม่เห็นว่าอนาคตของประเทศแสดงออกอะไร ออกมาเพื่ออะไร หรือถ้าเข้าไปปราบปรามไม่ให้อนาคตประเทศแสดงออกได้” นายปิยบุตร กล่าว