จากกรณีมีการแชร์คลิปวิดีโอ ม็อบที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ฉีกพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง พระราชินี ต่อหน้าผู้ชุมนุม และส่งเสียงโห่ร้องดีใจในการกระทำดังกล่าวนั้น
ต่อมาพบว่า ผู้ที่ทำการฉีกพระบรมฉายาลักษณ์ คือ นายอนิรุทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) นักศึกษาธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ลงนาม ในแถลงการณ์ประชาคมวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อต้านการคุกคามประชาชน ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2563
โดย เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ออกแถลงการณ์ขออภัยและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ระบุว่า ตามที่ปรากฏเหตุการณ์จากการชุมนุมแฟลชม็อบของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อทุกภาคส่วนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอันทำให้เกิดความกังวลและความไม่สบายใจ
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้น และเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม มหาวิทยาลัยจะดำเนินการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รู้สึกเสียใจต่อความกระทบกระเทือนใจ และขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
อีกด้านหนึ่ง มีรายงานจากสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ระบุว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ได้ติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี ซึ่งจัดพิมพ์ขึ้นมาใหม่ บริเวณประตูมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด ทางด้าน นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ศาลยุติธรรม โพสต์เฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ ขออภัยกรณีนักศึกษาธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง มีการชุมนุมกันและมีกระทำการที่ไม่เหมาะสมเมื่อคืนวันที่ 17 ตุลาคม 2663
ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอเรียนผู้บริหารมหาวิทยาลัยว่า การกระทำที่เกิดขึ้นกระทบกระเทือนจิตใจประชาชนผู้จงรักเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่เคยเกิดมาก่อนในประวัติศาสตร์ของชาติไทย การออกแถลงการณ์ขออภัยเท่านั้นหาเพียงพอไม่
แต่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยจะต้องไปร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อดำเนินคดีแก่ผู้กระทำการคนนั้น ในความผิดฐานทำให้ทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 และถ้าผู้กระทำเป็นนักศึกษาต้องพิจารณาให้สิ้นสภาพจากการเป็นนักศึกษาด้วย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอันเป็นการป้องกันมิให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกดังที่มหาวิทยาลัยกล่าวในคำแถลงการณ์
มิฉะนั้นต้องถือว่าผู้บริหารมหาวิทยาลัยขาดความรับผิดชอบต่อสังคมไทย ทั้งปากว่าตาขยิบกับการกระทำของบุคคลนั้น