ซาอุฯ เอาคืนสหรัฐ! เดินหน้าฟื้นสัมพันธ์ตะวันออกกลาง ร่วมมือจีน-รัสเซีย สร้างดุลอำนาจโลก ทำดอลลาร์ทรุดหนัก!

2116

ซาอุฯ เอาคืนสหรัฐ! เดินหน้าฟื้นสัมพันธ์ตะวันออกกลาง ร่วมมือจีน-รัสเซีย สร้างดุลอำนาจโลก ทำดอลลาร์ทรุดหนัก!

จากกรณีที่ประธานาธิบดีปูตินได้พูดคุยกับ มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 65 เสนอเป็นตัวกลางในการเจรจาลดความขัดแย้ง ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าท่าทีดังกล่าวเป็นความพยายามปรับภาพลักษณ์บทบาทผู้นำทางการทูตของซาอุดีอาระเบีย

ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงปฏิเสธคำขอของสหรัฐฯ ที่จะให้ทรงพูดคุยกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เกี่ยวกับวิกฤตการณ์น้ำมันที่เกิดจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียด้วย

ต่อมาทางด้านของ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ ซาอุฯ-อิหร่าน ค้นพบระบบป้องกันอาวุธที่ได้ผลดีมากคือเป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน โดยอ้างอิงจาก The Nour News , China Xinhua news บอกว่า

ซาอุดิอาระเบีย เป็นประเทศที่ผลิต และส่งออกน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก มีขนาดเศรษฐกิจอันดับ 20 ของโลก (ไทยอันดับ 21) สหรัฐ ได้หลอกใช้ซาอุฯ เป็นกลไกควบคุม “ระเบียบโลกเก่า” มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทำข้อตกลงกับซาอุฯ ให้ขายน้ำมันกับสหรัฐ และชาติต่างๆ ทั่วโลกชำระเป็นเงินสกุลดอลลาห์ (เปโตรดอลลาห์) เท่านั้น ส่งผลให้ชาติต่างๆ ต้องซื้อเงินดอลลาห์สำรองไว้เป็นทุนสำรองปริมาณมาก เพื่อเอาไว้ชำระค่าน้ำมันกับซาอุฯ และชาติในกลุ่มโอเปค (ไทยซื้อสำรองไว้ราว 66,000 ล้านดอลลาห์)
โดยสหรัฐมีข้อแลกเปลี่ยนกับซาอุฯ คือ จะค้ำประกันความมั่นคงราชวงศ์ซาอุฯ โดยยกเว้นไม่ต้องเลือกตั้งและไม่จำเป็นต้องเป็นประชาธิปไตย และจะขายอาวุธให้กับซาอุฯ มากที่สุด มีเงินรายได้จากขายน้ำมันเท่าไร ให้ขนไปซื้ออาวุธจากสหรัฐเท่านั้น ส่งผลให้สหรัฐ กุมสัดส่วนเงินสกุลดอลลาห์ในตลาดโลกการค้าโลกกว่า 80% ซาอุฯ กลายเป็นผู้นำเข้าอาวุธสหรัฐรายใหญ่ที่สุด ซึ่งรวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศและระบบป้องกันขีปนาวุธต่อต้านขีปนาวุธ
ต่อมาสหรัฐได้สร้างสนามรบรีวิวทดลองและกระตุ้นให้ซาอุฯ และ UAE ซื้ออาวุธมากขึ้นในสงครามกับนักรบฮูตี เยเมน แต่แล้วอาวุธราคาแพงเหล่านั้น กลับโดนนักรบรองเท้าแตะฮูตี ทำลายจนสิ้น โดรนรบสหรัฐราคาแพงลิ่วถูกจรวดต่อต้านอากาศยานประทับบ่าส่วนบุคคล MANPADS สอยร่วงรายวัน , แท่นขุดเจาะน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมัน ถูกโดรนกามิกาเซ่ บินต่ำมาชนระเบิดถึง 50% ของอุตสากรรมน้ำมันซาอุฯ ส่งผลให้สหรัฐ ใช้กลยุทธ์ขั้นเทพ ที่ใช้มาตลอดและได้ผลเสมอ
คือ “ลอยแพหักหลังแล้วหนีกลับบ้าน” ขนระบบต่อต้านอากาศยาน THAAD หนีกลับไป เพราะหวาดกลัวจะถูกโดรนกามิกาเซ่ จากเยเมนถล่มอาวุธราคาแพงชนิดนี้ แล้วจะปิดข่าวไม่มิดขายอาวุธให้ชาติอื่นไม่ได้ ผลจากสหรัฐ พ่ายแพ้สงครามในเยเมน อัฟกานิสถาน ถี่รัวๆ แล้วหนีกลับบ้านไม่คิดชีวิต ส่งผลให้นักรบฮูตี เยเมน ใช้จรวดอิหร่านถล่มเมืองหลวงซาอุฯ และ UAE ถี่ยิบ สร้างความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ ความปลอดภัยให้กับ 2 ชาติบิ๊กโอเปคอย่างมาก ความสามารถผลิตน้ำมันได้รับผลกระทบ
ประจวบกับโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศต่อสาธารณะว่าจะแกล้งไม่ขายอาวุธดีๆ ให้กับซาอุฯ จะทำให้ซาอุฯ กลายเป็นชาติที่โลกรังเกียจ แต่จุดที่ทำให้สายสัมพันธุ์เปโตรดอลลาห์ขาดสะบั้นคือ การแอบหนุนพระญาติก่อเหตุรัฐประหาร แต่รัสเซียส่งข่าวเตือนทำลายแผนร้ายได้ในนาทีสุดท้าย ทำให้มกุฎราชกุมารซาอุฯ สั่งปลดและจับบรรดาพระญาติ สายโปรสหรัฐไปกักตัวในทะเลทรายห่างไกล ราชวงศ์ซาอุฯ จึงรอดถูกโค่นล้มมาได้ ต่อมารัสเซีย-จีน ได้ “จัดระเบียบโลกใหม่” ค้ำประกันความมั่นคงราชวงศ์ทั้ง 2 ชาติ ไม่แทรกแซงและให้อิสระรูปแบบวัฒนธรรมการปกครอง
สร้างดุลอำนาจโลกแบบหลายขั้ว ไม่ผูกขาดกับสหรัฐ และชาติตะวันตก ซื้อขายน้ำมันเป็นเงินสกุลหยวน และสกุลท้องถิ่นอื่นได้ สร้างความผันผวนระบบเงินตราโลก จนสัดส่วนดอลลาห์ลดลงเหลือ 43% เงินสกุลท้องถิ่นอื่นผงาดสัดส่วนขึ้น เกิดอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐ และยุโรป เกือบ 10% ต้นทุนผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นกว่า 30% ของแพงทั้งแผ่นดิน ชาติใดที่ถือครองดอลลาห์มาก เงินสกุลชาตินั้นก็จะอ่อนค่าลงตามไปด้วย เกิดเศรษฐกิจตกต่ำ GDP ถดถอยในชาติที่พึ่งพิงตลาดการค้าในสหรัฐ และยุโรป ที่ทำ QE ทางเศรษฐกิจพิมพ์เงินกระดาษอัดเข้าระบบโดยไม่มีทองคำค้ำประกัน
เมื่อโลกเปลี่ยนระเบียบใหม่เป็นหลายขั้ว ทำให้ซาอุฯ ตระหนักว่าอาวุธที่ซื้อมาสะสมจากสหรัฐมากมายช่วยให้ปลอดภัยไม่ได้เลย จึงมีการต่อสายจากรัสเซีย-จีน-โอมาน-อิรัก เป็นตัวกลางฟื้นความสัมพันธุ์ชาติในตะวันออกกลาง โดย ซีเรีย คืนดีกับ UAE , ซาอุฯ เจรจาสันติกับนักรบฮูตี มอบคืนการบริหารรัฐบาลให้เยเมนตัดสินใจกันเอง และที่ไม่น่าเชื่อคือ ซาอุฯ – อิหร่าน ที่เป็นมุสลิมคนละนิกาย ไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดหลายทศวรรษ ได้ หันหน้ามาคุยกัน “เจรจาสันติภาพ” ต่อกันอย่างจริงใจฉันท์พี่น้องมุสลิม
โดยอิหร่าน- ซาอุฯ ได้ เจรจาสันติภาพกันรอบที่ 5 แล้ว ที่กรุงแบกแดด อิรัก ระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย สู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ มีหลายข้อตกลงที่บรรลุลับๆ ไปแล้ว เกิดบรรยากาศเชิงบวกขึ้นเรื่อยๆ ทั้ง 2 ชาติมหาอำนาจพลังงานน้ำมัน บิ๊กมุสลิม เตรียมการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน และซาอุดีอาระเบีย ในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่น่าเชื่อว่าระเบียบโลกใหม่ จะทำให้ชาติที่รบพุ่งกันทั้งทางลับและเปิดเผยมาหลายทศวรรษ หันมาสร้างสันติภาพในหมู่ชาวอาหรับที่ขัดแย้งกันได้ นอกจากซาอุฯ จะไม่อยากได้อาวุธป้องกันประเทศที่ราคาแพงแต่ด้อยประสิทธิภาพจากสหรัฐ และยุโรปแล้ว ซาอุฯ ยังหันมาร่วมมือกับจีนพัฒนาโรงงานจรวดเป็นของตนเอง
และสนใจอยากได้ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศระยะไกลและระยะกลาง S-400 “Triumf” (SA-21 Growler) ของบริษัท Almaz-Antey รัสเซีย ที่ออกแบบมาเพื่อทำลายเครื่องบินยุทธศาสตร์และยุทธวิธี รวมทั้งขีปนาวุธครูซ และอาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียงของสหรัฐ สกัดเป้าหมายได้ในระยะทางสูงสุด 400 กม.ที่ระดับความสูง 30 กม. สามารถล็อคได้ 36 เป้าพร้อมกัน..นอกจากสหรัฐ จะสูญเสียสัดส่วนเงินสกุลดอลลาห์ในระบบเงินตราโลก , สูญเสีย การควบคุมพลังงานและก๊าซ , สูญเสียพันธมิตรเก่าแก่ , สูญเสียตลาดอาวุธแล้ว บรรดาชาติที่เคยถูกยุแหย่ให้แตกแยก กลับหันมาฟื้นความสัมพันธ์คืนดีกันไปทั่ว..สหรัฐ และยุโรป กำลังถูกชาวโลกต้อนให้ไปอยู่มุมอับเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครสนใจคำขู่เหมือนเดิมอีกแล้ว