ชาวเน็ตสงสัย! ทนายประกัน “กวิ้น” อ้างติดเรียน แต่ไร้เอกสารประกอบ ซ้ำรอย “เบนจา” อ้างสอบ ศาลจับได้เป็นวิชาที่ดรอปไปแล้ว?

1111

จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.พ.65  ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งยกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว นายอานนท์ นำภา และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ในคดีการชุมนุมที่อยู่ในศาลอาญากรุงเทพใต้ คนละ 1 สำนวน

โดยในส่วนสำนวน นายพริษฐ์ เเม้ศาลยกคำร้อง เเต่มีคำสั่งให้นำเอกสารเรื่องการเล่าเรียนศึกษามายื่นต่อศาล เพื่อพิจารณา ส่วนนายอานนท์ ศาลยกคำร้องในเหตุผลที่ว่าจะออกไปประกอบอาชีพทนายความเพื่อเลี้ยงชีพ ดูเเลครอบครัว โดยระบุว่ายังไม่เป็นเหตุเปลี่ยนเเปลงคำสั่ง

อย่างไรก็ตาม ทางศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้เผยว่า นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความได้ยื่นคำร้อง ขอปล่อยชั่วคราว นายอานนท์ นำภา จำเลยในคดีหมายเลขดำที่ อ1671/2564 และในคดี หมายเลขดำที่ อ1802/2564 และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ จำเลยในคดีหมายเลขดำที่ อ1180/2564 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ ทางสื่อเทคโนโลยีสารสนทศ ผ่านระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม ซึ่งคณะผู้บริหารของศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้ร่วมกัน พิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราว และเอกสารประกอบแล้ว มีคำสั่งดังนี้

โดยนายอานนท์ นำภา ในคดีหมายเลขดำที่ อ1671/2564 ที่ประชุมคณะผู้บริหาร ของศาลอาญากรุงเทพใต้ร่วมกันพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยแล้ว เห็นว่าตามคำร้อง ประกอบการขอปล่อยตัวชั่วคราวของจำเลยที่อ้างว่ามีภารกิจต้องดูแลครอบครัวและต้องทำงานนั้น เห็นว่าเหตุที่ขอปล่อยตัวเป็นเหตุทั่วๆ ไป ไม่ใช่เหตุพิเศษที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งตาลอุทธรรณ์ ที่ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จึงมีคำสั่งไม่อนุญาต ยกคำร้อง และคดีหมายเลขดำที่ อ1802/2564 พิคราะห์แล้วเห็นว่าจำลยกระทำความผิดหลายคดี หากให้ปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะก่อภัยอันตรายหรือความเสียหายที่เกิดจากการปล่อยชั่วคราว และในคดีหมายเลขดำที่ อ1671/2564 มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ดังนี้ จึงให้ยกคำร้อง

ส่วนกรณีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ในคดีหมายเลขดำที่ อ1180/2564 ให้จำเลยนำหลักฐานตามที่อ้างว่ามีการลงทะเบียนเรียนและตารางการเรียนการสอนในภาคที่ 2 ตามที่กล่าว อ้างมาแสดงให้ชัดเจน โดยให้ทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกหนังสือรับรอง แล้วจึงจะพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว

ทั้งนี้ หลังจากที่ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งยกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัวสองแกนนำคณะราษฎร ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาตั้งคำถามและบอกว่า เขียนคำร้องขอประกันอ้างเหตุติดเรียนแต่ไม่มีเอกสารหลักฐานแสดงการลงทะเบียน และตารางเรียนของมหาลัย แปลว่าทนาย…มาก

ที่ยกคำร้องวันนี้ จำเลยควรเพ่งเล็งไปที่คนเขียนคำร้องที่อ่อนหัดมากๆ ไม่ได้บรรยายข้อเท็จจริงๆ ใหม่ให้ต่างจากที่ศาลอุทธรณ์เคยสั่งไม่อนุญาตไว้ ทำให้ศาลไม่สามารถสั่งให้ประกันได้

ซึ่งหากย้อนไปก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 กรณีของน.ส.เบนจา อะปัญ อายุ 22 ปี แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมผู้ต้องหาคดีความผิดดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดอื่นเกี่ยวกับการชุมนุม เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เบนจา อะปัญ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแนวร่วมผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร โพสต์ข้อความถึงการออกจากเรือนจำ ทั้งได้ยื่นขอศาลในการประกันตัว โดยบอกว่า  “เราดรอปเรียนในเทอมนี้แล้ว หลังจากศาลไม่อนุญาตให้เราประกันตัว ก่อนหน้านี้ เราลงทะเบียนและเข้าสอบตามปกติ แต่อย่างที่หลายคนอาจจะเห็นช่วงสอบ Midterm เราก็ยังต้องไปศาล ไปสถานีตำรวจ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรังควาญ และเราก็ถูกตำรวจจับ

เราจำเป็นต้องเลือกว่าจะลงทะเบียนต่อไปและหวังว่าศาลจะอนุญาตให้ประกันตัว หรือจะ drop การเรียนไว้ก่อน ช่วงที่เราเกิดปัญหาอาจารย์คณะเรา ไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออะไร มีเพียงเพื่อนที่ช่วยเท่าที่ช่วยได้ แต่ก็ไม่เหมือนความช่วยเหลือจากอาจารย์ ไม่เหมือนกับอาจารย์คณะทางสังคมที่ให้ความช่วยเหลือเพื่อน ๆ เมื่อต้องเข้าเรือนจำเราจึงไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเห็นความสำคัญของการเรียนต้องจัด class เรียนให้เราเฉพาะ

การต้องอยู่ในเรือนจำกับการเรียนสายวิศวกรรมที่ต้องมีการคำนวณนั้นยากลำบาก แค่ผลกระทบจากการต้องเรียน online ก็ไม่สะดวกมากอยู่แล้ว ถ้าต้องเรียนในเรือนจำ ถ้าเราคำนวณไม่ได้จะถามใคร จะค้นหาคำตอบอย่างไร เราจึงตัดสินใจดรอปการเรียนในเทอมนี้เนื่องจากติดอยู่ในเรือนจำ เพราะเราคาดหวังผลการเรียนที่ดี เพื่อใช้ในการเรียนต่อปริญญาโทและปริญญาเอก

ถึง ณ ตอนนี้ เราไม่มีเหตุจำเป็นแบบเพื่อนที่ต้องออกไปสอบปลายภาค แต่เราก็ยังเป็นนักศึกษา และต้องการออกไปเรียน เราเรียนวิศวกรรมเครื่องกลเพื่อเป็น foundation เพื่อไปต่อปริญญาโท Aerospace Engineering เราอยากทำงานด้านอวกาศ แต่เราวางแผนว่าจะเรียนให้จบปริญญาเอก เพราะไม่ได้หวังว่าจะเป็นวิศวกรไปตลอด บั้นปลายชีวิตอยากเป็นอาจารย์ เลยอยากเรียนเฉพาะทางเพื่อเอามาพัฒนาประเทศในสาขาที่ประเทศไทยก็ยังขาดความรู้ด้านนี้ เพราะการเป็นอาจารย์และนักวิจัยก็สามารถทำคู่กันไปได้

ตอนนี้เราเกรดเฉลี่ยประมาณ 3.3 เราอยากเรียนเมื่อเราพร้อม เราจึงดรอปไว้ก่อนเพราะไม่อยากให้การติดคุกมีผลต่อเกรดและอนาคต ถึงเราดรอปและไม่มีกำหนดสอบในเทอมนี้ แต่ปล่อยเราเถอะ เรายังต้องเรียน เรามีประโยชน์มากกว่าที่จะกักขังเราไว้ในเรือนจำเฉย ๆ แค่นี้ยังทำลายอนาคตเราไม่พออีกหรือ”

ต่อมาวันที่ 2 ธันวาคม 2564  ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เฟซบุ๊กสำนักข่าวราษฎร ได้รายงานผ่านเพจว่า ทนายความได้ทำการเขียนคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวนางสาวเบนจา อะปัญ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ถูกฝากขังจากคดีความมาตรา 112 ณ ทัณฑสถานหญิงกลาง กรณีการชุมนุมเมื่อคาร์ม็อบ วันที่ 10 สิงหาคม 2564 และการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมัน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563

โดยต่อมาเวลา 18.44 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เบนจา  โดย พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามคำร้องการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาเป็นนักศึกษา มีภารกิจต้องศึกษาเล่าเรียน และมีการสอบช่วงธันวาคม 2564

ศาลมีคำสั่งให้ผู้ต้องหาส่งตารางสอบโดยให้ทางมหาวิทยาลัยรับรองความถูกต้องว่า ผู้ต้องหามีสิทธิ์สอบ มีความจำเป็นตามที่กล่าวอ้างจริงแล้วจึงจะสั่งพิจารณาเรื่องการปล่อยชั่วคราว

แต่ปรากฏว่าวันนี้ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานตามที่ศาลสั่งมาแสดงได้ โดยตารางสอบของผู้ต้องหาที่ยื่นต่อศาลครั้งก่อน เป็นวิชาที่ผู้ต้องหาได้ทำการดรอปเรียนไปแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีเหตุที่จะขอปล่อยชั่วคราวเพื่อไปสอบตามที่ได้กล่าวอ้างแต่แรก

อย่างไรก็ตามยังมีการแสดงเหตุผลขอปล่อยตัวชั่วคราวในครั้งนี้ คือจะขอให้ปล่อยชั่วคราว เพื่อให้ผู้ต้องหาเตรียมพร้อมสำหรับการวางแผนสอบในภาคเรียนที่ 2 ในวันที่ 4 มกราคม 2565 นั้น ศาลเห็นว่าข้ออ้างดังกล่าวยังไม่ใช่เหตุผลที่จะนำมายกเว้นการที่จะควบคุมตัวในระหว่างพิจารณา จึงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ยกคำร้อง