เพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน!!จีนฟาดสหรัฐตัวการโหมวิกฤตยูเครน นายกฯปากีบินพบปูติน เดินหน้าโครงการท่อส่งน้ำมัน

1070

โลกกำลังตื่นตระหนกกับวิกฤตยูเครนที่มีแนวโน้ม ก้าวไปสู่สงครามในพื้นที่อย่างเต็มรูปแบบ เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมถอยในความต้องการของตัวเอง สหรัฐยิ่งเร่งเร้าให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นไปอีก โดยพยายามเชื่อมโยงกรณียูเครนเข้ากับกรณีไต้หวันอย่างโจ่งแจ้ง จากการเคลื่อนไหวของรมว.แอนโทนี บลิงเคนแถลงการณ์ผ่านการพบกันของกลุ่มควอดเมื่อไม่กี่วันมานี้

 

การทางจีนย้ำไต้หวันไม่ใช่ยูเครน จวกสหรัฐตัวการราดน้ำมันบนกองเพลิง ยิ่งทำให้สถานการณ์วิกฤตยูเครนตึงเครียดเพิ่มขึ้น จีนโต้แย้งว่าการลงโทษคว่ำบาตรไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ประณามการที่สหรัฐและตะวันตกส่งอาวุธให้เคียฟ อีกทั้งทำให้ผู้คนแตกตื่นกับวิกฤตยูเครนทั้งยังเชื่อมโยงมาเกี่ยวพันกับจีน ในช่วงเวลาเดียวกัน นายกรัฐมนตรีปากีสถานได้เยือนมอสโกว์เร่งเดินหน้าโครงการท่อส่งน้ำมันเต็มที่ แม้ตะวันตกจะคว่ำบาตรท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 รัสเซียมีแผนแก้ลำกับพันธมิตรล่วงหน่าแล้ว

วันที่ 24 ก.พ.2565 สำนักข่าวโกลบัลไทมส์ รายงานว่าในการแถลงข่าวประจำในกรุงปักกิ่ง หัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ(Hua Chunying, spokesperson) แถลงตอบโต้ว่าจีนคัดค้าน “การคว่ำบาตรฝ่ายเดียวที่ผิดกฎหมาย” จุดยืนของรัฐบาลจีนคือการคว่ำบาตรไม่เคยเป็นวิธีพื้นฐานและมีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาตวามขัดแย้งใดๆ

หัวอ้างตัวเลขเกี่ยวกับการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาว่า การคว่ำบาตรของสหรัฐในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นสิบเท่าโดยมีการคว่ำบาตร 3,800 ครั้งโดยฝ่ายบริหารก่อนหน้านี้เพียงคนเดียว นั้นหมายถึงสมัยอดีตปธน.ทรัมป์นั่นเอง นอกจากนี้ สหรัฐฯ ได้คว่ำบาตรรัสเซียมากกว่า 100 ครั้งตั้งแต่ปี 2554 

หัวถามรัวๆว่า “การคว่ำบาตรของสหรัฐฯแก้ปัญหาได้หรือไม่ โลกเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯหรือไม่  ปัญหาในยูเครนจะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นธรรมชาติเนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อรัสเซียหรือไม่? และ ยุโรปจะปลอดภัยขึ้นเนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่อรัสเซียหรือไม่”  

แม้ว่าสื่อตะวันตกหลายๆ แห่งมักจะกล่าวถึงการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และพันธมิตรที่ต่อต้านรัสเซียว่า เป็นการตอบสนองจากประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งในข้อเท็จจริงคือการกระทำที่ผิดกฎหมายสากลและเป็นการดำเนินการฝ่ายเดียว สหรัฐและตะวันตกดำเนินการโดยไม่ได้รับการอนุมัติจากสหประชาชาติ  พวกเขาไม่ว่าจะมีอำนาจเพียงใด แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาคมระหว่างประเทศทั้งหมดอย่างแท้จริง 

ในฐานะสมาชิกถาวรที่รับผิดชอบ ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จีนจะไม่สนับสนุนการคว่ำบาตรที่ “ผิดกฎหมายและกระทำฝ่ายเดียว”

หัวย้ำว่า “สหรัฐฯ ต้องไม่ทำร้ายสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของจีนและประเทศอื่น ๆ เมื่อจัดการกับปัญหายูเครนและความสัมพันธ์กับรัสเซีย”

ในวันเดียวกันนั้นเอง  นายกรัฐมนตรี อิมราน ข่าน ของปากีสถานเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่พบกับปธน.รัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน หลังจากรัสเซียประกาศยอมรับ2 รัฐเอกราช ทำให้วิกฤตที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างรัสเซียกับสหรัฐและตะวันตก 

การเยือนมอสโคว์ของข่านซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปีของนายกรัฐมนตรีซึ่งมีการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว แต่การดำเนินการตามแผนที่วางถูกมองว่าเป็นการรับรองโดยปริยายของปากีสถานต่อผู้นำรัสเซีย

ในวาระการประชุมจะเป็น ข้อกังวลร่วมกันของพวกเขาในอัฟกานิสถานที่ควบคุมโดยตอลิบาน และ การกระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาคโดยเน้นที่การปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย 

นอกจากนี้ ยังมีแผนงานโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติปากีสถานสตรีม(Pakistan Stream) มูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์ ที่มอสโกว์กำหนดการสร้างระหว่างท่าเรือการาจีและเมืองคาเซอร์( Kasur) ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองปัญจาบไปทางเหนือราว 650 ไมล์

ข่านและปูตินต้องการแสดงให้เห็นว่าขณะนี้ปากีสถานและรัสเซียมีความสำคัญต่อกันและกันในเชิงยุทธศาสตร์มากกว่าที่เคยเป็นมา ซึ่งเป็นอีกสัญญาณหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงของดุลกำลังเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของภูมิภาค

นี่อาจเป็นคำตอบหนึ่งที่สะท้อนว่า การคว่ำบาตรท่อก๊าซนอร์ดสตรีม2 ของสหรัฐฯและเยอรมันนี จะส่งผลต่อการทำลายเศรษฐกิจหลักของรัสเซียได้จริงหรือไม่ พันธมิตรใกล้ชิดของรัสเซียฝั่งตะวันออกมีอยู่ไม่น้อย ต่างพยายามดิ้นรนหนีการบีบบังคับและการคว่ำบาตรของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่รัสเซียเตรียมการรับมือล่วงหน้าต่อการคว่ำบาตรของตะวันตก และจะค่อยๆเปิดเผยออกมา  ในระหว่างนี้คนอเมริกันและยุโรปคงต้องเตรียมรับกับราคาพลังงานที่สูงขึ้น ส่งผลกับราคาสินค้าและการขนส่งตลอดจนห่วงโซ่การผลิตทั้งระบบ ที่จะผลักดันให้เงินเฟ้อกระฉูด งานนี้เฟดจะคุมอยู่หรือไม่ ไม่นานคงรู้!!