ผู้นำยูเครนเหลืออด!?ประชดสหรัฐ-ตะวันตกเต้าข่าวรัสเซียเผด็จศึก ประกาศ 16 กพ.เป็นวันสามัคคีแทน

1357

เมื่อปธน.โจ ไบเดนและฝ่ายบริหารสหรัฐ ประกาศเองว่าดีเดย์รัสเซียบุกยูเครนแน่วันพุธที่ 16 ก.พ.นี้ ประธานาธิบดียูเครนแถลงข่าวประกาศให้วันที่ 16 ก.พ. นี้ เป็นวันแห่งการแสดงความสามัคคีร่วมกันของประชาชนเสียเลย  เพื่อสยบกระแสข่าวว่ารัสเซียจะโจมตีทางทหารของปธน.สหรัฐและสื่อตะวันตก ในขณะที่ผู้บริหารระดับสูงของรัสเซียยืนยันกับปธน.ปูตินว่ายังมองเห็นทางการเจรจากับสหรัฐ-ยุโรปและยูเครนผ่านโต๊ะเจรจาร่วม แต่สื่อตะวันตกกลับรายงานว่า เป็นการยืนยันถึงรัสเซียเตรียมบุกจริง เร่งขยายความรัสเซียเป็นผู้ร้ายอย่างเอาการเอางาน 

ปฏิกิริยาตอบสนองจากนานาชาติคือความตระหนกตกใจ หลายประเทศออกคำสั่งอพยพนักการทูตและครอบครัวตามสหรัฐ ตลาดหุ้นตกระนาว น้ำมันและทองคำพุ่ง

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครนว่าประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ กำหนดให้วันที่ 16 ก.พ. นี้ คือ “วันแห่งความสามัคคี” โดยขอให้ชาวยูเครนร่วมกันประดับธงชาติตามบ้านเรือน และอาคารร้านค้า และร่วมกันร้องเพลงชาติ ในเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

เซเลนสกี้พยายามปลุกความสามัคคีของชาติท่ามกลางความตึงเครียด โดยกล่าวว่าคนอื่นๆ พยายามกระจาย “ความตื่นตระหนก” ในหมู่ประชาชนยูเครน “เราได้รับแจ้งว่าวันที่ 16 กุมภาพันธ์จะเป็นวันโจมตีแต่เราจะทำให้มันเป็นวันแห่งความสามัคคี”

ขณะที่นายมิไคโล โพโดลยัก ที่ปรึกษาของผู้นำยูเครน กล่าวว่า การเรียกร้องดังกล่าวของเซเลนสกี ถือเป็น “การเสียดสีและะประชดประชัน” ต่อการที่รัฐบาลตะวันตกและสื่อต่างประเทศหลายแห่ง ยังคงประโคมข่าว “วันเผด็จศึก” โดยกองทัพรัสเซีย ว่าจะเกิดขึ้นในวันนั้น

ทั้งนี้ ผู้นำยูเครนออกมากล่าวบ่อยครั้งมากขึ้น ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ว่า “การปั่นข่าวสงคราม” มีแต่จะยิ่งเพิ่มความหวาดกลัว และสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศ แม้รัสเซียยังคงถือเป็น “ภัยคุกคามด้านความมั่นคง” สำหรับยูเครน แต่สำหรับรัฐบาลเคียฟแล้ว “ไม่มีความเสี่ยง” ของการเกิด “สงครามเต็มรูปแบบ” บนแผ่นดินยูเครน

ในอีกด้านหนึ่ง สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของรัสเซีย เผยแพร่คลิปการสนทนาระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ โดยในช่วงหนึ่งมีการกล่าวว่า รัฐบาลมอสโกไม่สามารถเจรจา “ได้ตลอดไป” แต่ตอนนี้ รัสเซีย “ยังคงมีความพยายามอยู่

ด้านสหรัฐฯได้โหมกระพือกระแสสงครามอย่างต่อเนื่อง โดยมีสื่อสหรัฐขยายความอย่างดุเดือด

เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักข่าวCNBC และ สื่อสหรัฐฯอีกหลายฉบับ รายงานว่า เพนตากอนมีคำสั่งออกมาให้ถอนกำลังทหารสหรัฐฯทั้งหมดในยูเครนและให้ไปประจำในที่อื่นๆ ในยุโรปแทน

จอห์น เคอร์บีย์ (John Kirby) โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวผ่านแถลงการณ์มีใจความว่า “รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ออกคำสั่งนี้เพื่อความปลอดภัยโดยมีความคิดคำนึงแรกไปที่ความปลอดภัยและความมั่นคงของกองกำลังของเราเป็นสำคัญ และได้รับการแจ้งจากคำแนะนำกำลังพลสหรัฐฯ ในยูเครนของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ” และแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “การเปลี่ยนจุดที่ตั้งนี้ไม่ได้แสดงไปถึงการเปลี่ยนแปลงในความมุ่งมั่นของเราต่อการสนับสนุนกองกำลังทหารของยูเครน แต่เป็นการให้ความยืดหยุ่นในการเสนอหลักประกันต่อพันธมิตรและการต่อต้านต่อความก้าวร้าว”

อาการแบบนี้แสดงให้เห็นว่า ถอยกองทหารที่ใส่เครื่องแบบอย่างเป็นทางการแต่ไม่มีหลักประกันของการเคลื่อนไหวแบบทหารในเครื่องแบบอื่นหรือไม่มีเครื่องแบบ สังเกตุดูข่าวความเคลื่อนไหวจากพื้นที่ขัดแย้งก็สามารถติดตามภาพรวมได้

CNBCเปิดเผยว่าแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯขู่ว่า “พลเมืองสหรัฐฯ ไม่สมควรคาดหวังว่ากองทัพสหรัฐฯ จะเข้ามาช่วยพวกเขาในยูเครนในวินาทีสุดท้าย มันจะไม่เกิดขึ้นในสถานการณ์นี้ และนี่เป็นเหตุผลที่ว่ามันไม่มีเวลาเหลือสำหรับพวกเขาในการออกไปจากยูเครนในทันที”

ทั้งนี้ พลเมืองสหรัฐฯ ยังสามารถใช้ช่องทางบกข้ามพรมแดนจากยูเครนเข้าไปในโปแลนด์ได้โดยไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาตล่วงหน้า สถานีโทรทัศน์ในสหรัฐฯ ต่างรายงานคำเตือนจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และคำเตือนจากหน่วยงานต่างๆ ให้พลเมืองสหรัฐฯ ในยูเครนรีบอพยพออกไปก่อนที่จะเกิดสงคราม นอกเหนือจากสหรัฐฯ แล้วพบว่าชาติตะวันตกหลายชาติ รวมญี่ปุ่นสั่งให้พลเมืองของตัวเองเดินทางออกจากยูเครนในทันทีเช่นกัน

พรุ่งนี้แล้ววันพุธที่ 16 ก.พ.ที่สหรัฐระบุว่าเป็นวันดีเดย์รัสเซียจะบุกยูเครน มาติดตามกันต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่ไหน  และใครจะเป็นผู้สร้างสถานการณ์??