จากกรณีที่นายปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี ได้เตรียมมอบหมายตัวแทนให้เดินทางไปยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
โดยมีรายงานว่าจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ตามคำเชิญชวนของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวว่า นายเสกสกล ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐไปก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน ทั้งนี้ถือเป็นการขยับของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นอีก 1 พรรคที่ถูกจับตามองว่าอาจเป็นพรรคสำรองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
และแน่นอนว่าความเคลื่อนไหวทางการเมืองของฝั่งรัฐบาล ย่อมถูกจับตามองมากที่สุดในช่วงเวลานี้ รวมถึงประเด็นของรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มีรายงานว่า วันนี้จะเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการ บริหารพัฒนา อนุรักษ์ และฟื้นฟูคลองแสนแสบ ครั้งที่ 1/2565 (ผ่านระบบ Video Conference) ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งก็มีประเด็นว่าพลเอกประวิตร เลี่ยงการเข้าทำเนียบฯ เพราะไม่ต้องการพบหน้าสื่อหรือไม่ เนื่องจากเป็นครั้งที่ 2 ที่มาประชุมผ่านระบบออนไลน์ แทนการเข้ามายังทำเนียบฯ ท่ามกลางการเมืองระอุหลายประเด็น ทั้งเรื่องของร.อ.ธรรมนัส การประชุมหลังแพ้เลือกตั้งซ่อม กองเชียร์บิ๊กตู่ กดดันให้เปลี่ยนโครงสร้าง ให้บิ๊กตู่มาเป็นหัวหน้าพรรค และเรื่องล่าสุดที่นายเสกสกล ขอออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐด้วย เรียกว่างานนี้พลเอกประวิตร กำลังเจอศึกหนักหลายด้านเลยทีเดียว
ทั้งนี้นายเสกสกล ยังตอบคำถามไว้ชัดด้วยว่า ในพรรคพลังประชารัฐ จะมีคนอื่น ๆ ออกมาตามมาอีกหรือไม่ โดยนายเกสกล กล่าวว่า มีแน่นอน ตอนนี้หลายคนยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็มั่นใจว่าจะออกมาอีกหลายคนแน่นอน ดังนั้นหากมีบรรดาสมาชิกพรรคย้ายออกอีกเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าย่อมกระทบโครงสร้างของพรรคพลังประชารัฐ และทำให้พลเอกประวิตร ต้องออกมาเคลื่อนไหว ว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ที่แน่ ๆ วงในสายข่าวรัฐบาลได้เปิดเผยมาเป็นระยะ ๆ ว่าพลเอกประวิตรนั้นมีความกดดัน แต่ก็พร้อมสู้ไม่ยอมถอย แต่งานนี้ดูเหมือนว่าพรรคพลังประชารัฐใกล้ล้มเข้ามาทุกที ๆ ทำให้ต้องจับตาดูว่า พลเอกประวิตร จะยอมถอย เพื่อให้ทุกอย่างในพรรคราบรื่นหรือไม่
