“พิธา” รับ “ผู้สมัครส.ส.ชุมพร” ไม่มีประสบการณ์เป็นนักการเมือง แต่เคยเป็นไรเดอร์! ชาวเน็ตสวน เอาเด็กจบม.6 มาเป็นส.ส.ความรู้มีแค่ไหน?!

1487

“พิธา” รับ “ผู้สมัครส.ส.ชุมพร” ไม่มีประสบการณ์เป็นนักการเมือง แต่เคยเป็นไรเดอร์! ชาวเน็ตสวน เอาเด็กจบม.6 มาเป็นส.ส.ความรู้มีแค่ไหน?!

จากกรณีที่กำลังเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ถึงคุณสมบัติวุฒิการศึกษาของนายวรพล ซึ่งมีการลงข้อมูลว่า วุฒิการศึกษาสูงสุดคือ มัธยมปลาย และกำลังศึกษาต่อในคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงทำให้หลายคนได้ตั้งคำถามและแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมากว่า หากนายวรพลไม่มีประสบการณ์ทางด้านการเมือง จะพัฒนาประเทศได้อย่างไร

แต่อย่างไรก็ตาม ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 97 ก็ไม่ได้มีการจำกัดวุฒิการศึกษาของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแต่อย่างใด

ล่าสุด วันนี้ (12 มกราคม 2565) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ออกมาพูดถึงการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อมในจังหวัดสงขลาและจังหวัดชุมพร โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจบางส่วนว่า

ผมได้เดินทางมายังจังหวัดชุมพรครับ เพื่อมาเสนอ วรพล อนันตศักดิ์ – Woraphon Anantasak – เบอร์ 3 ให้กับพี่น้องชาวชุมพร วรพลเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของคำว่าการเมืองแบบใหม่ วรพลไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอที่ไหน ไม่ใช่ญาติผู้มีอิทธิพล ไม่ได้มาด้วยเส้นสาย ไม่ได้ร่ำรวย แต่เป็นคนธรรมดาสามัญ ตัวแทนชนชั้นแรงงาน เป็นอดีตไรเดอร์ ที่ใช้ชีวิต เผชิญกับชะตากรรมเหมือนกับประชาชนคนทั่วไป และวันนี้เค้าได้ลุกขึ้นมาเสนอตัวเพื่อนำความเปลี่ยนแปลงมาให้กับพี่น้องประชาชนชาวชุมพรครับ
หลายคนอาจปรามาสว่าวรพลไม่มีประสบการณ์ ใช่ครับ วรพลอาจจะไม่มีประสบการณ์เป็นนักการเมืองมาก่อน และมีอายุเพียง 25 ปี แต่ผมคิดว่าประสบการณ์ในการใช้ชีวิตแบบที่ชาวบ้าน ประชาชนทั่วไปต้องเจอในทุกวัน วรพลก็คงมีไม่ได้น้อยกว่าใคร และอาจจะมีมากกว่าในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์จริงจากท้องถนน ของการต้องเป็นไรเดอร์ในจังหวัดที่ท้องถนนอันตรายที่สุดจังหวัดหนึ่งในประเทศไทย (สถิติคนตายจากท้องถนนมากเป็นอันดับ 71 ของประเทศ) มีประสบการณ์จริงว่าแรงงานอิสระบนดิจิตอลแพลตฟอร์มในศตวรรษที่ 21 ขาดสวัสดิการหรือมีความไม่มั่นคงอะไรในชีวิตบ้าง
ถ้าผมจะหาคำแนะนำเรื่องแรงงานอิสระในเศรษฐกิจดิจิตอลซึ่งเป็นเศรษฐกิจแห่งอนาคต หรือถามถึงสภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านประชาชนทั่วไป ผมถามหาความเข้าใจจริงเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้จากนักการเมืองรุ่นเก่าในสภาที่อยู่มาเป็นสิบๆ ปี หรือนักการเมืองผู้ร่ำรวยและทรงอิทธิพลในพื้นที่ไม่ได้หรอกครับ ผมต้องถามคนอย่างวรพล
ตลอดเวลา 5 วันที่ผมได้ไปพบเจอพี่น้องประชาชนในภาคใต้ ผมได้พบกับผู้คนจำนวนมากที่กระหายความเปลี่ยนแปลง รวมถึงมิตรภาพและการตอบรับที่ดี ตั้งแต่สนามบาสในเทศบาลเมืองสะเดา ร้านน้ำชาในปาดังเบซาร์ โรงงานผลไม้นำเข้าที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนยางพารา ตลาดเช้าฝนทองที่ชุมพร ไปจนถึงที่จอดเรือประมงชายทะเลปากน้ำชุมพร
ภาคใต้ยังเต็มไปด้วยศักยภาพที่พร้อมถูกปลดปล่อย และการจะปลดปล่อยศักยภาพเหล่านั้นออกมาได้ สามารถทำได้ผ่านการเลือกตั้งอันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ง่ายที่สุด ผมและพรรคก้าวไกลไม่เคยเชื่อว่าประชาชนไม่ว่าที่ไหนในประเทศนี้มีเจ้าของ เราจึงเชื่อมั่นว่าทุกการเลือกตั้งคือโอกาสแห่งการเปลี่ยนแปลง และการเดินทางในพื้นที่ภาคใต้ของผมรอบนี้ ก็ยืนยันได้ครับว่า คนใต้ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงนั้นมีมากมาย แสดงให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าว โดยบอกว่า ขออนุญาตแสดงความคิดเห็น ในฐานะคนสะเดาในพื้นที่ พิจารณาสิ่งที่คุณทิมกำลังนำเสนอว่าที่ผู้สมัครฯ นั้นแล้ว เห็นว่า ประชากรในพื้นที่เลือกตั้งไม่ได้มี pain point เรื่องเอกสารสิทธิ์ เรื่องน้ำเสียโรงงานยาง เรื่องการเกณฑ์ทหารมากนักสักเท่าไร อาจได้คะแนนเสียงไม่มากนัก ต้องลองวิเคราะห์ความต้องการเชิงยุทธศาสตร์ของคนในพื้นที่มากกว่าการเสนอคุณสมบัติของผู้สมัครกับการเสนอโครงการไกลตัวความต้องการพื้นฐานของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่
ขอเสนอ painpoint ของคนในพื้นที่เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอต่อประชาชนในพื้นที่ คือเรื่องปากท้องที่ต้องพึ่งพาเศรษฐกิจจาก value chain ของยางและการค้าขายท่องเที่ยวจากคนมาเลเซียจะกระตุ้นหรือมีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมอย่างไร
และยังมีคนเข้ามาตั้งคำถามถึงคถุณสมบัติของผู้สมัครส.ส.อีกว่า ตลก เอาคนที่จบม.6 มาลงสส. ความรู้มีแค่ไหน