โบว์ปลื้มไทยฉีดวัคซีนทะลุ100ล้านโดส เหน็บเจ็บ “ใครยังโจมตี ให้หาเรื่องอื่นเล่น”

1144

จากที่ โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับความสำเร็จช่วงหนึ่งของประเทศไทย ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด ด้วยการฉีดวัคซีน และขึ้นสู่อันดับโลกของประเทศความมั่นคงด้านสุขภาพนั้น

ทั้งนี้โดยข้อความที่ น.ส.ณัฏฐา โพสต์ลงในทวิตเตอร์ในวันที่ 11 มกราคม 2565  ระบุเนื้อหาที่น่าสนใจ ซึ่งประชาชนบางส่วนอาจยังไม่รับทราบว่า

“ฉีดเกินร้อยล้านโดสไปถึงไหนแล้ว ขึ้นเข็มสามแซงหลายประเทศในโลก มีวัคซีนหลากหลายได้ก่อน covax สูตรไขว้ได้รับรอง ควบคุมโรคมีประสิทธิภาพจนได้เป็นที่ 5 ของโลกและอันดับ 1ในเอเชียเรื่องความมั่นคงด้านสุขภาพ วันนี้ใครยังวนเวียนอยู่กับคำว่าวัคซีนดีๆไม่มีให้ฉีด น่าจะลองหาเรื่องอื่นเล่นค่ะ”

ต่อมาเมื่อข้อความของโบว์ ณัฏฐา ได้เผยแพร่ออกไปสู่โลกโซเชียลฯ เพราะมีประเด็นที่น่าสนใจ และสำคัญ ก็ทำให้มีคนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนหนึ่ง ซึ่งบางข้อความออกไปในทำนองไม่เห็นด้วย และทำให้โบว์ เข้ามาตอบคอมเมนต์เอง เช่น

“ผมคิดว่าเวลาคนพูดแบบนี้ เค้าอาจจะเป็นการทวงถามให้กับผู้ที่ไม่มีโอกาสได้ฉีดวัคซีนดี ๆ ในช่วงที่มันระบาดมาก ๆ จนทำให้เสียชีวิตหรือเปล่า”

Bow Nuttaa Mahattana@NuttaaBow “ก็เวลา supply ไม่มีมันคือไม่พอกันทั้งโลกค่ะ covax ยังต้องหาซื้อ sinovac มาเติมตามหลังเราอีก นี่คือข้อเท็จจริงที่อุตส่าห์เก็บไว้ไม่พูดแล้ว ทนฟังเสียงบ่นซ้ำซากแบบไม่ใส่ใจข้อเท็จจริงมาทั้งปี วันนี้คิดว่าน่าจะพอแล้ว สรุปให้ในทวิตเดียว”

“ควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่หล่อนย่… แต่เป็นหมอ พยาบาล คนอื่นๆในวงการแพทย์ที่ทำงานหนัก เพื่อช่วยคนไทย แล้วเรื่องวัคซีน ฉันยังจำวันที่รัฐบาลไม่ยอมเซ็นรับวัคซีนที่มีคุณภาพ เพราะจะใช้แต่วัคซีนห่วยๆ กว่าจะเริ่มให้เลือกฉีด ระบาดจนประเทศเป็นแบบนี้”

ล่าสุดวันนี้ 12 มกราคม 2565 โบว์ ณัฏฐา ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์อีกครั้ง เกี่ยวกับประเด็นต่อเนื่อง ซึ่งต้องบอกว่า ทุกฝ่ายควรพิจารณารับฟังร่วมกัน

Bow Nuttaa Mahattana@NuttaaBow “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ใครมีเจตนายังไงกับสังคม สุดท้ายเวลาก็จะพิสูจน์ทุกอย่างเอง”

Bow Nuttaa Mahattana@NuttaaBow “กาลครั้งหนึ่ง มีดาราคนหนึ่งไปฉีดวัคซีนเอง กลับมาเขียนเล่าแล้วก็มีคนจำนวนหนึ่งไปถล่มด่า ใครรณรงค์ให้คนไปฉีดวัคซีน ใครอยากทำให้ทุกอย่างล้มเหลว มันไม่ใช่เรื่องที่ดูยากขนาดนั้น”

อย่างไรก็ตามเพื่อข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับอันดับของประเทศไทย ที่ได้รับการยกย่อง ทางทีมข่าวเดอะทรูธ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวว่า เมื่อพ.ย.62 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีระดับความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ (Health Security) เป็นอันดับที่ 6 จากทั้งหมด 195 ประเทศ ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียวที่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 1 ใน 10 ของโลก

และเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชียจากทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ (John Hopkins University และ Nuclear Threat Initiative) ได้นำเสนอผลการวิจัยระดับความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพ (Health Security) ล่าสุด มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ รายงานผลการประเมินระดับใหม่ ปี 64 พบว่า ไทยขยับขึ้นเป็นอันดับ 5 จาก 195 ประเทศ ด้วยคะแนน 68.2 จาก 100 คะแนน

“ประเทศไทยไม่สามารถประสบความสำเร็จในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐ เอกชนและประชาชนที่ร่วมด้วยช่วยกัน โดยเฉพาะบุคลากรด่านหน้าที่ยังทำงานอย่างต่อเนื่อง การจัดอันดับนี้เป็นการสะท้อนให้สากลเห็นถึงประสิทธิภาพสาธารณสุขและการจัดการกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19” นายอนุทิน กล่าว

นอกจากนี้ทีมข่าวเดอะทรูธ ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจอีกว่าเมื่อ วันที่ 20 ธันวาคม 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-I-cha บางช่วงว่า วันนี้ (20 ธ.ค.64) บรรลุเป้าหมายสำคัญ สามารถฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องชาวไทย ทะลุยอด 100 ล้านโดสได้สำเร็จภายในปี 2564 ตามที่รัฐบาลได้เคยประกาศไว้

นับตั้งแต่ โดสแรก เมื่อวันที่ 28 ก.พ.64 เราใช้เวลารวม 265 วัน หรือเฉลี่ยวันละ 377,358 โดส เป็นเข็มแรกมากกว่า 50 ล้านโดส ครอบคลุม 70% ของประชากรไทย เป็นเข็มสองมากกว่า 44 ล้านโดส ครอบคลุม 61% ของประชากรไทย เป็นเข็มสามมากกว่า 5 ล้านโดส ครอบคลุม 6% ของประชากรไทย

ขณะที่หมอพร้อม รายงานสถิติการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ข้อมูล ณ วันที่ 20 ธ.ค. 2564 เวลา 23:33 น. ประเทศไทยฉีดวัคซีนสะสมแล้ว 100,319,509 โดส แบ่งเป็น เข็ม 1 : ฉีดสะสม 50,581,710 โดส  เข็ม 2 : ฉีดสะสม 44,518,525 โดส  เข็ม 3 : ฉีดสะสม 5,145,761 โดส  เข็ม 4 : ฉีดสะสม 73,513 โดส

แบ่งตามชนิดของวัคซีนได้ ดังนี้  AstraZeneca จำนวน 43.569 ล้านโดส  , Sinovac จำนวนว 26.337 ล้านโดส , Sinopharm จำนวน 14.459 ล้านโดส , Pfizer จำนวน 14.289 ล้านโดส , Moderna จำนวน 1.658 ล้านโดส , Johnson & Johnson จำนวน 7 พันโดส